TEXT: วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์
แม้จะเป็นอี-คอมเมิร์ซรายแรก ๆ ของโลกที่ก่อตั้งเมื่อ 27 ปีก่อน แต่อเมซอนไม่เคยหยุดพัฒนาบริการ จากจุดเริ่มต้นที่ธุรกิจจำหน่ายหนังสือออนไลน์ได้ขยายไปยังสินค้าอื่น ไม่ว่าจะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ เกม เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ อาหาร ของเล่น เครื่องประดับ จนขึ้นแท่น Big Five หรือ 1 ใน 5 บริษัทไอทีรายใหญ่สุดของสหรัฐฯ และเป็นแพลทฟอร์มอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่สุดของโลก
หากยังจำกันได้ ปี 2017 แอมะซอน หรืออเมซอนสร้างความฮือฮาด้วยการเปิด Amazon Go ร้านสะดวกซื้ออัจฉริยะไร้แคชเชียร์ เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการ สามาถหยิบสินค้าที่ต้องการแล้วเดินออกจากร้านได้เลย ระบบจะตัดบัญชีจากระบบชำระเงินในมือถือของลูกค้าอัตโนมัติ
นับเป็นการขยายจากธุรกิจออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์ที่นำเทคโนโลยีมาให้เพื่อให้เกิดความลื่นไหลและความสะดวกสำหรับลูกค้า ปัจจุบันร้าน Amazon Go ขยายสาขาไปกว่า 20 แห่ง กระทั่งปีที่แล้ว อเมซอนก็เริ่มเปิดขาย “Just Walk Out” เทคโนโลยีสำหรับร้านค้าไร้แคชเชียร์รูปแบบเดียวกับ amazon Go โดยผู้ค้าปลีกที่สนใจสามารถซื้อระบบนี้ไปติดตั้งที่ร้านได้
ล่าสุด อเมซอนสร้างความประหลาดใจอีกครั้งกับธุรกิจใหม่ที่เพิ่งแนะนำเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นั่นคือ Amazon Salon เปิดตัวสาขาแรกที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ แน่นอนว่าถ้ายี่ห้ออเมซอน ความธรรมดาย่อมไม่มี หากมองเผิน ๆ Amazon Salon ก็เหมือนร้านทำผมทั่วไป สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ผนวกเข้ามา อาทิ AR (Augmented Reality) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างความเป็นจริงและโลกเสมือน
ยกตัวอย่างเมื่อลูกค้าต้องการตัดผม หรือทำสีผม ช่างผมประจำร้านจะให้คำปรึกษาพร้อมนำเสนอแบบผมหรือสีผมที่เหมาะสมให้ โดยทางร้านจะใช้แอปพลิเคชั่นที่มี AR มาทำให้เห็นว่ารูปโฉมของลูกค้า ไม่ว่าจะทรงผม หรือสีผมแบบต่าง ๆ จะออกมาอย่างไรหากตัดหรือทำสีผมออกมาจริง ทำให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น
นอกจากบริการทำผม Amazon Salon ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม เช่น แชมพู ครีมนวด และทรีทเมนต์ต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยี “point-and-learn” นั่นคือสินค้าเหล่านี้จะจัดโชว์ในร้าน ลูกค้าสามารถหยิบจับมาดู หรือดมได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็คลิกอ่านรายละเอียดหรือข้อมูลผลิตภัณฑ์จากหน้าจอ และเมื่อต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ก็เพียงสแกนคิวอาร์โค้ด ชำระเงิน จากนั้น สินค้าจะถูกจัดส่งไปที่บ้าน
ในการเปิดร้าน Amazon Salon อเมซอนได้จับมือเป็นพันธมิตรกับอีเลน่า ลาวานี แฮร์สไตลิสต์ระดับโลกเจ้าของซาลอนเนวิลล์ แฮร์ แอนด์ บิวตี้ในลอนดอน อีเลน่ามีทีมงานมากกว่า 85 คน เคยมีประสบการณ์ในงานอีเวนต์ใหญ่ เช่น ปารีสแฟชั่นวีค และเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ที่ร้าน Amazon Salon จะมีทีมงานของอีเลน่าคอยให้บริการทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บริการในร้านประกอบด้วย สระ ตัด ไดร์ ทำสีผม ไฮไลต์ ทรีทเมนต์ และถักผม
อีเลน่าให้สัมภาษณ์ว่าเธอยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในโปรเจ็คร้านทำผมของอเมซอน เนื่องจากเป็นร้านที่ผสมผสานบริการแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นการสร้างประสบการณ์น่าประทับใจให้ลูกค้า หลังจากที่เปิดบริการในลอนดอน ล่าสุด Amazon Salon ได้ขยายสาขาไปยังนิวยอร์กแล้ว
สำหรับคนที่สงสัยว่าการรุกเข้าสู่ธุรกิจความงามครั้งนี้ อเมซอนจะต้องการยึดหัวหาดธุรกิจซาลอน มีการวิเคราะห์ว่าไม่น่าจะใช่ การเปิด Amazon Salon เป็นเหมือนเวทีแสดงศักยภาพของอเมซอนว่าสามารถพัฒนาเทคโนโลยีอันเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง นั่นคือการผนวกบริการออนไลน์กับหน้าร้านแบบไร้รอยต่อเพื่อทำให้บริการสะดวกยิ่งขึ้น
มีความเป็นไปได้ที่อเมซอนจะนำเทคโนโลยีนี้เสนอขายให้บรรดาร้านซาลอนทั้งหลายได้นำไปใช้ในร้านเพื่อสร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้ลูกค้า เหมือนที่นำเสนอขายเทคโนโลยี “Just Walk Out” ให้ผู้ค้าปลีกเพื่อสร้างร้านค้าไร้แคชเชียร์ ร้านสะดวกซื้อ ร้านของชำ ร้านซาลอนก็เข้าไปมีส่วนแล้ว ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจเห็นอเมซอนเข้าไปแตะธุรกิจอื่น ๆ เช่น โรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร และสถานออกกำลังกาย
ข้อมูล
www.newyorker.com/culture/on-and-off-the-avenue/what-amazon-did-to-my-hairwww.businessinsider.com/amazon-salon-hair-dye-pink-virtual-app-london-2021-9#there-were-four-seats-upstairs-and-seven-seats-downstairs-in-amazon-salon-15
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
