​เผย 5 แนวโน้มธุรกิจและไอทีในเอเชียแปซิฟิก



 
    ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น (HDS) ธุรกิจในเครือของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด (TSE: 6501) เผยการคาดการณ์ 5 แนวโน้มธุรกิจและไอทีของภาคพื้นเอเซียแปซิฟิค  ใน Business and Technology Predictions for Asia Pacific in 2015 

    มร. Adrian De Luca ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด ว่า  ในปี 2015 จะเป็นยุคสำคัญที่เทคโนโลยีสารสนเทศและธุรกิจต้องเชื่อมโยงเพื่อเป้าหมายเดียวกัน และถึงเวลาที่เทคโนโลยีสารสนเทศจะเปิดรับ แพลทฟอร์มที่สาม หรือ “the 3rd platform” คลื่นลูกใหม่ที่จะมีผลกระทบต่อการดำเนินงาน 

    อาทิ อุปกรณ์เคลื่อนที่และแอพพลิเคชั่นต่างๆ, บริการด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง, การวิเคราะห์ Big data และโซเชียลมีเดีย ซึ่งผู้บริหารระดับสูงด้านสารสนเทศจำต้องตอบสนองความจำเป็นเหล่านี้ พร้อมปรับตัวให้เป็นผู้ให้บริการทางธุรกิจมากกว่าที่จะเป็นผู้สร้างเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นแต่โครงสร้างไอทีของศูนย์ข้อมูลเท่านั้น

     ปัจจุบันมีตลาดใหม่เกิดอยู่ตลอดเวลา และความคาดหวังด้านการบริการของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ องค์กรธุรกิจที่ตกยุคจะหายไป เหลือไว้แต่ผู้ชนะสำหรับระบบเศรษฐกิจแห่งอนาคตที่พร้อมปรับตัวในทันที  ทั้งนี้ 5 แนวโน้มหลัก อาทิ การสร้างเมืองอัจฉริยะ, Big Dataในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง, ไฮบริดคลาวด์, อุปกรณ์เคลื่อนที่เน้นด้านข้อมูล และการพัฒนากฎระเบียบข้อบังคับ ร่วมกับแรงขับเคลื่อนต่างๆด้านธุรกิจในภูมิภาค จะกำหนดอนาคตของเทคโนโลยีสารสนเทศในเอเชียแปซิฟิก ในปี 2015

1. แนวคิดเรื่องเมืองอัจฉริยะจะผลักดันให้มีการลงทุนอย่างมากใน Internet of Things 

     รัฐบาลประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก รวมถึงประเทศอย่างญี่ปุ่น จีน ศรีลังกา และเกาหลีใต้ กำลังริเริ่มโครงการเมืองอัจฉริยะเพื่อรองรับความท้าทายด้านการขยายตัวเมือง การจัดการพลังงงานและการใช้ทรัพยากร รวมถึงการเตรียมตัวสำหรับการเติบโตในอนาคต 

    แนวคิดในการสร้างชาติทั่วภูมิภาคครั้งนี้จะสร้างแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาโซลูชั่นด้านโครงสร้างอัจฉริยะเพื่อสังคมที่รวมเอาการวิเคราะห์ขั้นสูงเข้ากับ Internet of Things (แนวคิดที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์อัจฉริยะเหล่านี้ให้สื่อสารกันได้เองโดยไม่ต้องผ่านมนุษย์ในการสั่งการ เพื่อช่วยให้การทำงานสะดวกสบายขึ้น) หรือ การโต้ตอบระหว่างเครื่องจักร (M2M หรือ machine to machine) 

    ทั้งนี้ เมืองอัจฉริยะต้องอาศัยโครงสร้างด้านคอมพิวเตอร์เครือข่าย ระบบจัดเก็บ รวมถึงสถาปัตยกรรมด้านซอฟต์แวร์รูปแบบใหม่ เพื่อรองรับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งในแง่ของ ปริมาณ (Volume) ความเร็ว (Velocity) และความหลากหลาย (Variety)    

2. ภาคธุรกิจจะเพิ่มศักยภาพด้าน Big Data เพื่อเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขัน

    Big Data ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับภาคธุรกิจที่มีภาวการณ์แข่งขันสูง อาทิ ธนาคารและธุรกิจด้านบริการการเงิน กำลังปรับใช้ระบบวิเคราะห์เชิงลึกกับข้อมูลในองค์กรเพื่อประเมินความเสี่ยงของผู้กู้ วิเคราะห์การสูญเสียลูกค้า ชี้โอกาสในการขายแบบเพิ่มยอดตามพฤติกรรมการใช้จ่าย โซลูชั่น Big Data ในอนาคตจำเป็นต้องอาศัยไม่เพียงแต่แพลตฟอร์มด้านโครงสร้างใหม่เพื่อจัดเก็บและจัดการปริมาณข้อมูลจำนวนมาก (Data Lakes) หากยังต้องรวมถึงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างทันท่วงที ณ จุดเวลานั้นๆในแบบเรียลไทม์ ซึ่งการจะทำให้ได้เช่นนี้ต้องมีการประสานโครงสร้างขนาดใหญ่เข้ากับระบบการเรียนรู้ของเครื่องจักรและซอฟต์แวร์ด้านธุรกิจเพื่อให้การทำงานเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้เพื่อการใช้ประโยชน์สูงสุด

     ล่าสุดในการสำรวจที่ตีพิมพ์ใน Economist Intelligence Unit (EIU) เรื่อง “The Future for CIOs: Which Way Is Up?” ภายใต้การสนับสนุนจากบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เมื่อเร็วๆนี้ พบว่าร้อยละ 10 ขององค์กรในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคได้ลงทุนในระบบการวิเคราะห์ข้อมูลในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 12 ในปีต่อมา

3. Hybrid Cloud จะเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการติดตั้งแอพพลิเคชั่นระดับองค์กร

    จากการที่แพลตฟอร์มคลาวด์คอมพิวติ้งในรูปแบบต่างๆ ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง องค์กรต่างๆ จึงเริ่มปรับตัวในการปรับใช้แอพลิเคชั่นหลักในระบบคลาวด์ให้ผสานทั้งแบบ private และ public เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด การนำโซลูชั่นเพื่อการผสานแพลตฟอร์มทั้งคู่เข้าด้วยกันเพื่อสร้างระบบการใช้งานที่ราบรื่นจะช่วยให้องค์กรสามารถปรับลดต้นทุน และตอบสนองความจำเป็นด้านความเป็นส่วนตัวและกฎระเบียบต่างๆ 

    ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงด้านสารสนเทศที่ทันสมัยได้เริ่มย้ายแอพลิเคชั่นขององค์กร และจำเป็นต่อการปฏิบัติงานไปยังระบบ private cloud พร้อมทดสอบการลดปริมาณงานภายในชั่วคราว เช่นย้ายระบบสำคัญรองหรือระบบเว็บสำหรับลูกค้าไปไว้กับระบบ public cloud 

    แต่อย่างไรก็ดี ความง่ายในการใช้งานและประหยัดค่าใช้จ่ายทำให้เกิดการใช้งานอย่างไม่มีระเบียบ ทำให้ภาคธุรกิจเริ่มกังวลถึงการติดตามบริหารงานด้านทรัพยากรและการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งระบบ Hybrid Cloud สามารถจัดการความกังวลเหล่านี้ได้ ด้วยการอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันของระบบ Public และ Private Cloud ซึ่งหมายถึงระบบการจัดการและควบคุมที่ดีกว่าเดิม 

    และรายงานล่าสุดโดย Economist Intelligence Unit (EIU) ดังกล่าว ได้ชี้ว่าร้อยละ 10 บริษัทต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิกได้ลงทุนในคลาวด์คอมพิวติ้งแล้ว แต่ปริมาณการลงทุนยังกระจายตัวในระดับต่างๆ ทั่วภูมิภาคมากน้อยต่างกัน โดยสิงคโปร์มีการลงทุนด้านนี้มากที่สุดในปีที่แล้ว ร้อยละ 20 ในขณะที่อินโดนีเซียและไทยไม่มีการลงทุนด้านนี้มากนัก สำหรับปี 2015 ร้อยละ 13 บริษัทต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิก จะลงทุนในคลาวด์คอมพิวติ้งมากขึ้น

4. ความนิยมของอุปกรณ์เคลื่อนที่จะผลักดันโครงสร้างด้านเทคโนโลยีให้รองรับข้อมูลมากขึ้น

    ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ฝ่ายสารสนเทศขององค์กรและผู้ให้บริการด้านคลาวด์ต่างได้ลงทุนในเทคโนโลยีด้าน object storage เพื่อปกป้องและรักษาข้อมูลธุรกิจให้มีอายุยาวขึ้น โดยมีพื้นฐานสำคัญคือสามารถรองรับและบริหารผู้ใช้งานได้มากขึ้น การขยาย metadata เพื่อเชื่อมโยงกลุ่มข้อมูลอื่นๆ พร้อมลดปริมาณข้อมูลซ้ำซ้อนและบีบอัดข้อมูลเพื่อลดค่าใช้จ่าย และจากการที่ข้อมูลต้องเคลื่อนย้ายผ่านระบบคลาวด์หลายรูปแบบ ความสามารถต่างๆ ดังกล่าวจำต้องมีพร้อมมากกว่าแค่กำแพง 4 ด้านของดาต้าเซ็นเตอร์ องค์กรต้องหาทางในการสร้างระบบการเข้าถึงข้อมูลและแอพลิเคชั่นจากระยะไกลที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการแบ่งปันข้อมูลผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ในขณะที่สามารถปกป้องข้อมูลสำคัญได้อย่างเต็มที่

5. ระเบียบใหม่เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและป้องกันข้อมูลทำให้ธุรกิจต้องเพิ่มการลงทุนด้านนี้

    รัฐบาลต่างๆ ทั่วเอเชียแปซิฟิก กำลังออกกฎระเบียบใหม่หรือปรับปรุงกฎระเบียบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศสิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ต่างบังคับใช้หรือเพิ่มระดับกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัว ซึ่งต้องอาศัยกฎระเบียบด้านความเป็นส่วนตัวและความลับของข้อมูล สำหรับองค์กรต่างๆ นับเป็นความท้าทายอย่างมากในการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของข้อมูลจากแพลตฟอร์มและช่องทางที่หลากหลาย ซึ่งธุรกิจในปัจจุบันต้องเพิ่มความระวังเป็นพิเศษในการปกป้องข้อมูลของลูกค้าในขณะที่รับมือกับการเติบโตอย่างมหาศาลของข้อมูลแบบ structured และ unstructured ภายในองค์กร

     นอกจากการคาดการณ์สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ มร. Adrain แล้ว ทาง มร.Hu Yoshida ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ HDS ได้เผยถึงแนวโน้มของ 10 เทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลกไว้ที่นี่

 

RECCOMMEND: TECH

แสงตะวัน อ่อนน่วม พัฒนาแพลตฟอร์ม แก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนให้ธุรกิจที่พักไซส์เล็ก

ปัญหาหนึ่งของธุรกิจโรงแรมเล็ก คือต้นทุนการดำเนินงานสูง และมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน แสงตะวัน อ่อนน่วม ซึ่งเห็น Pain Point ดังกล่าว จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Shin Platform Hotel Self-Service Solution ขึ้นมา เพื่อช่วยทดแทนแรงงานคน, บริษัท ชิบะรูม

เจ๋งป่ะล่ะ! AI ผู้ช่วยเชฟคนใหม่ เก็บข้อมูลทำเมนูสุดโปรดเสิร์ฟลูกค้า ช่วยสแกนเศษอาหาร ลดต้นทุน ลดขยะ

ปัจจุบันโลกเรามีการนำ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ มาใช้พัฒนา ปรับปรุงสิ่งต่างๆ ขึ้นมากมาย ตั้งแต่เรื่องใหญ่ๆ ไปจนถึงเรื่องเล็กๆ ล่าสุดใครจะคิดว่า แม้แต่ถังขยะในครัวของโรงแรมและร้านอาหาร ก็มีการนำ AI เข้ามาใชั

Mewre น้ำดื่มเพื่อสุนัขและแมวเจ้าแรกของโลก จากไอเดียที่ไม่อยากให้น้องป่วย เมื่อผู้บริโภคไม่ได้มีแค่คนเท่านั้น

Mewre น้ำดื่มเพื่อสุนัขและแมวเจ้าแรกของโลก อีกหนึ่งสินค้านวัตกรรมที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์ชาว Pet Parent หรือ การเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก เป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว