Main Idea
- ในยุคที่โลกกำลังขับเคลื่อนด้วยการเติบโตของเทคโนโลยีที่ใครๆ ก็ใช้งานได้ “Data” หรือข้อมูล นับเป็นสิ่งที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อโลกการทำธุรกิจอย่างยิ่ง ดังที่เคยได้ยินกันบ่อยๆ ว่า “ยุคนี้ต้องเอาชนะกันที่ข้อมูล”
- แต่ในขณะที่เทคโนโลยีกำลังเติบโตมากขึ้น บางครั้งเราเองก็อาจก้าวไม่ทัน ไม่เข้าใจ และไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริงๆ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจนำเทคโนโลยีอะไรเข้ามาใช้ เราควรตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อน ว่านำสิ่งนี้เข้ามาเพื่ออะไร ใช้ประโยชน์ด้านไหน และส่งผลต่อธุรกิจอย่างไร
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็พูดถึงแต่เรื่องของดาต้า (Data) อยากนำดาต้ามาใช้ในธุรกิจบ้างล่ะ อยากมีระบบเก็บรวบรวมดาต้าของตัวเองเหมือนอย่างธุรกิจอื่นที่เขามีกันบ้างล่ะ แต่จริงๆ แล้วเคยคิดกันไหมว่า เราจะนำดาต้าหรือระบบเก็บข้อมูลเหล่านั้นเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์อะไรในธุรกิจได้บ้าง? หรือการลงทุนสร้างระบบเหล่านั้นขึ้นมา มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือเปล่า? ไปจนถึงหากมีระบบดาต้าเหล่านั้นแล้ว เราจะสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าหรือไม่? สิ่งเหล่านี้ คือ โจทย์ที่ผู้ประกอบการต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน
หากยังไม่รู้ เรามี 3 คำถามง่ายๆ มาฝากกัน และถ้าตอบได้ครบทุกข้อ แสดงว่าคุณพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากดาต้าแล้วล่ะ!
รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร
อันดับแรกต้องรู้ก่อนว่า เราจะนำดาต้าที่ได้เหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ให้เกิดผลงอกเงยอะไรทางธุรกิจได้บ้าง รู้ในที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่รู้ลอยๆ คิดไปเองว่าหากมีระบบจัดการดาต้าเข้ามาช่วยแล้วจะทำให้ธุรกิจดีขึ้น แต่ต้องรู้ให้ละเอียดก่อนว่าสถิติข้อมูลต่างๆ ที่เราต้องการนั้น คือ ข้อมูลอะไร จะสามารถนำมาใช้แก้ปัญหาหรือตอบโจทย์ให้กับธุรกิจด้านใดได้บ้าง เพราะสิ่งนี้จะเป็นเหมือนเป้าหมายและแนวทางนำไปสู่สิ่งที่เราต้องการค้นหา รวมถึงช่วยกำหนดกรอบการทำงานที่ชัดเจนอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้สามารถประเมินต้นทุนและงบประมาณที่ต้องใช้ เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ ซึ่งหากเราสามารถลงรายละเอียดได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยให้ประหยัดเวลาและลดต้นทุนได้มากทีเดียว
รู้ว่าจะไปหาได้จากที่ไหน
เมื่อรู้ความต้องการแล้วว่าจะใช้ประโยชน์จากดาต้าเหล่านั้นได้อย่างไร ขั้นตอนต่อไป คือ ต้องลองสืบเสาะค้นหาผู้ให้บริการดังกล่าว ซึ่งหลายครั้งที่ผู้ประกอบการรู้ถึงสิ่งที่ต้องการ แต่ติดที่ไม่มีองค์ความรู้ในด้านเทคโนโลยี จึงทำให้ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นค้นหาบริษัทผู้ให้บริการเหมาะสมกับสิ่งที่ตนเองต้องการได้อย่างไร ในที่นี้แนะนำให้ลองเข้าไปขอคำปรึกษาจากผู้รู้ เช่น บริษัทด้านไอที หรือหน่วยงานที่เป็นพี่เลี้ยงและคอยให้ความช่วยเหลือ SME ถ้าจะให้ดีบริษัทเองควรมีทีมงานหรือที่ปรึกษาที่มีความรู้ด้านไอทีเข้าร่วมค้นหาและพูดคุยด้วย เพื่อทำให้การสื่อสารหรือความเข้าใจเทคนิคด้านไอที สามารถทำได้ง่ายขึ้น จากนั้นขั้นตอนต่อไปจึงค่อยลองเปรียบเทียบหาจุดเด่นจุดด้อย คุณภาพงาน ไปจนถึงราคาว่าสามารถรับได้หรือเปล่า คุ้มที่จะลงทุนใช่ไหม
รู้ว่าจะใช้งานอย่างไร
มาถึงขั้นนี้ ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ ที่ผู้ประกอบการซึ่งคิดจะนำระบบจัดการข้อมูลมาใช้สร้างประโยชน์ทางธุรกิจจะต้องเรียนรู้ให้ได้ เพราะคงไม่ดีแน่หากได้มีลงทุนไปแล้ว แต่กลับใช้ประโยชน์จากระบบได้ไม่คุ้มค่า ไม่เรียนรู้ฟังก์ชันการงาน การลงทุนที่จ่ายไปอาจสูญเปล่าได้ อย่างที่กล่าวไปว่าหากผู้ประกอบการไม่ได้มีองค์ความรู้ด้านไอที ก็สร้างทีมงานให้ดูแลด้านนี้ขึ้นมา เพื่อให้ช่วยเป็นตัวกลางในการประสานงานกับผู้ให้บริการอีกที อีกข้อที่สำคัญ คือ เราต้องรู้ด้วยว่าจะนำข้อมูลที่ได้เหล่านั้นมาต่อยอดอะไรในการทำธุรกิจได้บ้าง อาทิ การทำการตลาด การศึกษาความต้องการของลูกค้า เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการออกสินค้าตัวใหม่ หรืออาจรวมไปถึงการวางแผนทิศทางการทำธุรกิจต่อไปในอนาคตด้วย
ในทั้งนี้สำหรับผู้ประกอบการ SME รายย่อยที่ยังไม่ได้มีขนาดธุรกิจคุ้มกับการลงทุนในการสร้างฐานระบบข้อมูลของตัวเองขึ้นมา แต่สนใจอยากนำดาต้าเข้ามาใช้ประโยชน์ในธุรกิจดูบ้าง อาจลองเริ่มต้นจากเครื่องมือที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี เช่น Google Analytics เพื่อช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถเก็บข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และนำไปใช้วิเคราะห์วางแผนการทำตลาด โฆษณาได้ ไปจนถึงความต้องการ สิ่งที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์สนใจ หรือแม้แต่การใช้งานในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เอง Facebook, Line, Instagram ก็สามารถใช้เป็นช่องทางในการเก็บสถิติข้อมูลลูกค้า บางครั้งอาจทำให้รู้ถึง insight ความต้องการที่แท้จริงด้วยก็ได้จากการพูดคุย ขอเพียงไม่ทิ้ง และเก็บนำมาใช้ประโยชน์เท่านั้น
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี