Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์

     ในการทำธุรกิจอะไรสักอย่าง แค่ชอบอย่างเดียวไม่พอแต่ต้องศึกษาข้อมูลและหากลุ่มลูกค้าให้เจอด้วย เหมือน คอร์ทนีย์ บลาโกรฟ และ แซน บี.อาร์. สองศรีพี่น้องชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา แซนมีอาชีพหลักเป็นทนายความ ส่วนคอร์ทนีย์นั้นมีดีกรีปริญญาเอกด้านโภชนาการ ทั้งคู่อาศัยที่นิวยอร์กและชมชอบการรับประทานของหวานอย่างมากโดยเฉพาะไอศกรีม แต่ที่จำหน่ายทั่วไปไม่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเธอนัก ทั้งสองจึงเกิดความคิดที่จะพัฒนาไอศกรีมภายใต้คอนเซปต์ “Happy&Healthy” ไอศกรีมที่กินแล้วทำให้มีความสุขและดีต่อสุขภาพ

     พี่น้องสองสาวช่วยกันหาข้อมูลและพบว่าจำนวนประชากรอเมริกันแพ้อาหารมากขึ้น ยกตัวอย่าง แลคโตสหรือน้ำตาลในนมวัวซึ่งแพ้กันมากโดยเฉพาะในกลุ่มคนผิวดำที่ไม่มีเอนไซม์ย่อยแลคโตส ขณะที่ตลาดผลิตภัณฑ์ขนมหวานสำหรับผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมีจำกัด บวกกับกระแส Plant-based กำลังมา คอร์ทนีย์และแซนจึงคิดสูตรไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟวีแกนที่ทำจากนมโอ๊ตขึ้นมา โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพมาอย่างดี เมื่อได้สูตรที่ลงตัวก็ทดลองเปิดร้าน Pop-up ขายในบรูคลินเมื่อเดือนธันวาคม 2562

    ปรากฏว่า ผลตอบรับดีมากจนขึ้นแท่นไอศกรีมทางเลือกของลูกค้ากลุ่มที่แพ้แลคโตส และกลูเตน (โปรตีนในแป้งสาลี) รวมไปถึงกลุ่มที่กำลังเริ่มรับประทานวีแกน และกลุ่มคนรักสุขภาพ เมื่อเห็นว่าธุรกิจน่าจะไปได้สวย อีก 2 เดือนต่อมา คอร์ทนีย์และแซนก็ขยับขยายลงทุนเช่าพื้นที่เปิดเป็นร้านชื่อ Whipped Urban Dessert Lab ในย่านโลเวอร์ อีสต์ ไซด์ในแมนฮัตตัน และอ้างได้อย่างเต็มปากว่าเป็นร้านไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่ทำจากนมโอ๊ตร้านแรกไม่ใช่ในนิวยอร์กหรืออเมริกา แต่เป็นร้านแรกของโลกเลยทีเดียว

     สัปดาห์แรกของการเปิดร้าน ลูกค้าแห่อุดหนุนล้นหลาม บางรายมาซื้อ 2-3 ครั้งในสัปดาห์เดียวก็มี ลูกค้าชอบในรสชาติที่หอมมัน อร่อยไม่ต่างจากไอศกรีมนมไขมันสูงแต่แคลอรีต่ำกว่าและดีต่อสุขภาพกว่า เรียกว่ากินแล้วไม่รู้สึกผิดต่อตัวเอง แต่ทว่าขายได้สัปดาห์เดียว ก็เกิดโควิด-19 ระบาด ทำให้ธุรกิจต้องปิดลงชั่วคราวเมื่อเดือนมีนาคม 2563 แม้ร้านจะปิด แต่ 2 พี่น้องก็ไม่ได้หยุด ถือโอกาสนั้นเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และคิดสูตรไอศกรีมใหม่ๆ ให้หลากหลายยิ่งขึ้น จนกระทั่งสถานการณ์โรคระบาดเริ่มกระเตื้อง ร้านค้าต่างๆ รวมถึง Whipped Urban Dessert Lab ก็เริ่มกลับมาบริการอีกครั้ง

     การกลับมาครั้งนี้เรียกได้ว่าปังกว่าเดิม ลูกค้าต่อแถวรอซื้อยาวกว่าเดิมมาก นอกจากซอฟต์เสิร์ฟนมโอ๊ตรสช็อกโกแลต และวานิลลา ก็ยังมีรสอื่นๆ ให้เลือก เช่น คุกกี้แอนด์ครีม มอลต์เอสเพรสโซ ช็อกโกแลตเนยถั่ว รสพีแคน มินต์ช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รีชอร์ตเค้ก รสกาแฟวอฟเฟิล และแอปเปิลอบเชย ไม่เท่านั้น คอร์ทนีย์และแซนยังแนะนำรสชาติใหม่ๆ เพื่อต้อนรับเทศกาลต่างๆ เช่น รส Taste of Freedom ที่มีส่วนผสมของนมโอ๊ต อบเชย และคุกกี้ขิงซึ่งเปิดตัวในวัน Juneteenth วันยกเลิกระบบทาสในสหรัฐฯ เป็นต้น

     ไอศกรีมอร่อยถูกปากลูกค้าถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง แซนซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์กล่าวว่า “ไอศกรีมไม่ได้เป็นแค่อาหารปาก มันสามารถเป็นอาหารตาได้ด้วย การพรีเซนต์ไอศกรีมจึงต้องมีเอกลักษณ์ มีความเฉพาะ สวยงาม เห็นแล้วเจริญตาจนลูกค้าอยากแชะภาพ โซเชียลมีเดียมีส่วนสำคัญอย่างมากในการโปรโมตธุรกิจ แบรนด์เป็นที่รู้จักก็เพราะลูกค้าช่วยบอกต่อนี่แหละ”     

     ไม่เพียงบริการซอฟต์เสิร์ฟในโคน และถ้วยจากที่ร้าน Whipped Urban Dessert Lab ยังแตกไปยังแบรนด์ Oaté สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อกลับบ้าน และจำหน่ายทางออนไลน์ผ่าน Goldbelly.com อีกด้วย หลังประสบความสำเร็จอย่างดงามในนิวยอร์ก คอร์ทนีย์และแซนก็พา Whipped Urban Dessert Lab ข้ามฝั่งไปเปิดตัวในย่านเวสต์ ฮอลลีวู้ดของแอลเอ

     ต่อคำถามที่ว่าทำไมต้องแอลเอ แซนให้สัมภาษณ์ว่า “หลังกระแสตอบรับในนิวยอร์กดีมาก เราก็อยากแนะนำแบรนด์ไอศกรีมแพลนต์เบสของเราไปยังกลุ่มลูกค้าที่เมืองอื่นด้วย และที่เลือกแอลเอเพราะเป็นเมืองจุดหมายปลายทางด้านอาหาร (Foodie Destination) อันดับต้นๆ ของผู้บริโภคสายกินในอเมริกา” สำหรับเมนูต่างๆ ในร้าน Whipped Urban Dessert Lab ที่แอลเอก็จะเป็นเมนูเดียวกับร้านในนิวยอร์ก โดยหนึ่งในรสชาติที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ ไอศกรีมนมโอ๊ตรสช็อกโกแลตเนยถั่วผสมเพรสเซล

     “โดยมากเราจะได้ลูกค้าวีแกนชักชวนเพื่อนที่ไม่ใช่วีแกนมาลอง และพอลองแล้ว หลายคนไม่รู้สึกเลยว่าไอศกรีมของเราเป็นแพลนต์เบส อันนี้เราถือว่าเป็นคำชม” หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์เล่าและกล่าวอีกว่า “ในการเริ่มต้นธุรกิจแม้จะเป็นธุรกิจขนาดเล็กก็มีความเสี่ยงอยู่ดี ฉะนั้น เราต้องยืดหยุ่นและรับมือให้ได้ ตอนที่เราเปิดร้านแล้วเกิดโควิดระบาด ขนาดธุรกิจใหญ่ยังรับมือไม่ไหว แต่สำหรับเราแล้ว ยังไงก็ไม่ยอมถอดใจ”

     ท่ามกลางกระแสอาหารจากพืชที่กำลังมาแรง และผู้คนหันหาอาหารเพื่อสุขภาพเป็นทางเลือกมากขึ้น ที่ว่างในตลาดยังมีให้จับจองเสมอ คอร์ทนีย์ และแซน สองพี่น้องเจ้าของ Whipped Urban Dessert Lab ผู้บุกเบิกไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟนมโอ๊ตเจ้าแรกตั้งเป้าว่าจะขยายธุรกิจเพื่อเสิร์ฟความอร่อยไปยังเมืองอื่นๆ ในอเมริกาอีกแน่นอน

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup