Tech Startup

VIPKid สร้างรายได้หมื่นล้านจากการจับคู่ครู-นักเรียน


​ 

     การมองเห็นโอกาสและการเติบโตในตลาดก่อนย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง เราทราบกันดีว่าธุรกิจหนึ่งที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำคือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ทุ่มเทและสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้บุตรหลานอยู่แล้วหากอยู่ในฐานะที่จ่ายได้ และการศึกษาก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ปกครองทุ่มไม่อั้น แม้จะจับต้องไม่ได้แต่การศึกษาก็กลายเป็นสินค้าทำเงินอย่างหนึ่ง เราจึงเห็นธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาและบริการสอนพิเศษเฟื่องฟูยิ่งนัก โดยเฉพาะในประเทศเอเชียที่ผู้ปกครองคาดหวังต้องการเห็นลูกหลานประสบความสำเร็จ จึงเน้นเรื่องการเรียนเป็นพิเศษ

     ที่ประเทศจีน นโยบาย One-Child Policy ที่รัฐบาลกำหนดให้แต่ละครอบครัวมีลูกเพียงคนเดียว เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้พ่อแม่ทุ่มเทให้กับลูกมาก ๆ  ด้วยมองเห็นโอกาสจากเด็กนักเรียนจีนจำนวนหลายร้อยล้านคนที่ผู้ปกครองยินดีจ่ายเพื่อการศึกษา ซินดี้ มี (Cindy Mi) ติวเตอร์สาวในปักกิ่งที่ทำธุรกิจสถานบันกวดวิชาอยู่แล้วจึงเปิดบริการกวดวิชาออนไลน์ VIPKid ซึ่งแตกต่างจากเจ้าอื่นตรงไม่ใช่การเรียนการสอนแบบ passive หรือนักเรียนศึกษาเอง แต่เป็นแบบ real time ที่มีครูมาสอนผ่านจอแบบ live สดตรงหน้า ทำให้โต้ตอบซักถามกันได้ทันควัน

     วิชาที่สอนมีทั้งภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษนั้น ครูที่สอนเป็นครูเจ้าของภาษาจากสหรัฐฯและแคนาดา  โดย VIPKid ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นขึ้นมาจับคู่นักเรียนกับครู เหมือนแอพอูเบอร์ที่จับคู่คนขับแท็กซี่กับผู้โดยสาร เปิดตัวไปเมื่อปี 2013 และได้รับเงินทุนสนับสนุนจากบริษัทใหญ่ ๆ บริษัทเท็นเซนต์ โฮลดิ้ง หนึ่งในบริษัทไอทีที่ใหญ่สุดของจีน และบริษัทในเครือแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งเว็บอี-คอมเมิร์ซอาลีบาบา รวมเป็นเงินกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

    ปัจจุบัน VIPKid มีนักเรียนเข้ามาใช้บริการกว่า 200,000 คน อายุระหว่าง 5-12 ปี และมีครูต่างชาติจากอเมริกาและแคนาดาในสังกัดกว่า 20,000 คน ครูดังกล่าวที่สมัครเข้ามาสอนต้องผ่านการคัดเลือกและตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในอเมริกาที่ VIPKid จ้างมาเพื่อคัดสรรโดยเฉพาะ สำรับสนนราคาค่าบริการอยู่ที่คอร์สละ 1,500 ดอลลาร์สหรัฯ ครอบคลุมการเรียนการสอนทั้งหมด 72 คาบ นักเรียนจะได้เรียนตรงกับครูสัปดาห์ละ 2-3 คาบ คาบละ 25 นาที ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2017  VIPKid ทำรายได้จากบริการติวภาษาอังกฤษถึง 2,000 ล้านหยวน (ราว 10,000 ล้านบาท) ซีอีโอ VIPKid คาดปลายปี 2017 รายได้จะเพิ่มเป็น 5,000 ล้านหยวนหรือประมาณ 25,000 ล้านบาท       

     ล่าสุดเมื่อเดือนส.ค.ปีนี้ VIPKid เพิ่งเปิดตัวแพลทฟอร์มใหม่ Lingo Bus ที่เปิดคอร์สสอนภาษาจีนกลางให้กับนักเรียนต่างชาติ ซินดี้เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องจากผู้คนทั่วโลกสนใจเรียนภาษาจีนกลางมากขึ้น แพลทฟอร์มนี้จะทำให้คนที่สนใจเรียนภาษาจีนกลางได้เรียนกับครูชาวจีนที่ผ่านหลักสูตรการสอน ผู้ก่อตั้ง VIPKid กล่าวว่าอินเตอร์เน็ตทำให้รูปแบบการศึกษาเปลี่ยนไป การทำธุรกิจรูปแบบ on-demend เช่นนี้นับว่ามีประสิทธิภาพอย่างมากในการเชื่อมโยงการสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนทั่วโลก

     ธุรกิจกวดวิชาออนไลน์แบบ real time ได้รับความนิยมอย่างมากในจีน นอกจาก VIPKid แล้ว ก็มีบริษัทอื่นที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน อาทิ 51Talk ซึ่งเน้นเรียนภาษาอังกฤษกับครูจากฟิลิปปินส์ หลังเปิดตัวได้ 4 ปี ก็มีนักเรียนใช้บริการกว่า 100,000 คน มีครูเกือบ 10,000 คน และปัจจุบัน  51Talk กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว อีกบริษัทหนึ่งที่รุ่งโรจน์ไม่แพ้กันคือ Tutor Group Co. ที่เน้นเรียนสอนกับครูจากอเมริกาและแคนาดาเช่นเดียวกับ VIPKid  โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทข้ามชาติ ได้แก่ บริษัทเทมาเส็ก โฮลดิ้งจากสิงคโปร์ และโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป วาณิชธนกิจระดับโลก ปัจจุบัน Tutor Group Co. เป็นเทคสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นที่มีมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในตลาด  
 
                
ที่มา : www.scmp.com/tech/start-ups/article/2107989/private-mandarin-tutors-are-hire-chinas-uber-style-service
           www.bloomberg.com/news/articles/2016-12-19/if-the-u-s-won-t-pay-its-teachers-china-will


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี