“ข้าวแกงสี่ขา” ไอเดียร้านข้าวแกงน้องหมา แค่เริ่มต้นก็ขายหมดทุกวัน
TEXT : Ratchanee P.
เชื่อว่าบรรดาทาสทั้งหลายจะเจอกับปัญหานี้ นั่นคืออยากจะให้น้องหมาสี่ขาได้กินอาหารดีๆ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ครั้นจะลงมือทำเองก็ไม่มีเวลา ปิ๊ก-อัญมณี ลักขษร ก็เช่นกัน ด้วยความเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่ต้องทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำให้บ่อยครั้งไม่มีเวลาทำอาหารให้น้องหมาที่เลี้ยงไว้ ดังนั้น เมื่อมีโอกาสจึงหยิบปัญหานี้มาทำเป็นธุรกิจ ด้วยการเปิดขาย “ข้าวแกงสี่ขา” ร้านข้าวแกงของน้องหมาที่เธอตั้งใจทำสุดฝีมือจนขายหมดทุกวัน
ไอเดียธุรกิจที่เกิดความรัก
“ดูกับข้าวไปฝากน้องหมาไหมคะ ไม่ปรุงรส ไม่เสี่ยงโรคไตนะคะ”
“บางคนก็จอดรถถามว่า พี่ข้าวแกงของหมาจริงๆ เหรอ”
อัญมณี เล่าให้ฟังถึงภาพของการเปิดขายข้าวแกงสี่ขาในวันแรกๆ ที่เธอต้องใช้เสียงตะโกน เพื่อเรียกความสนใจจากคนที่เดินผ่านไปมา ด้วยคิดว่าข้าวแกงน้องหมานี้เป็นสิ่งใหม่ ที่คนยังไม่คุ้นเคย ดังนั้น จึงจะต้องพรีเซนต์ตัวเองและต้องอธิบายให้เข้าใจ ซึ่งมีคนที่สนใจแวะเข้ามาถามไถ่มากมาย หรือบางคนก็เดินยิ้มๆ ผ่านไป แต่สุดท้ายแล้วก็กลับมาซื้อ
อัญมณี เล่าต่อถึงไอเดียธุรกิจนี้ว่า เกิดจากการที่เธอเลี้ยงน้องหมาที่ตอนนี้อายุ 11 ปีอยู่แล้ว โดยถ้ามีเวลาก็จะทำอาหารให้น้องหมาเองตลอดเวลา แต่ด้วยความที่ต้องทำงานประจำ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่
“เคยคิดว่าถ้ามีร้านที่ขายอาหารสำหรับน้องหมาน้องแมวแบบนี้ก็จะสะดวกสำหรับคนที่ค่อยไม่มีเวลา อย่างเมื่อก่อนก็จะแวะซื้ออาหารคนอย่างข้าวมันไก่ แต่ก็กังวลว่าน้องหมาเราจะอ้วนไปหรือเปล่า จนวันหนึ่งรู้สึกหมดไฟกับการทำงานประจำ พอลาออกก็คุยกับแฟนว่าน่าจะทำข้าวแกงสำหรับน้องหมาขาย พอตัดสินใจแล้วก็รวบรวมหม้อ กระทะ อุปกรณ์เครื่องครัวทั้งหมด สั่งทำไวนิลป้ายร้านแล้วเปิดเลย ซึ่งปกติเราทำอาหารสำหรับน้องหมาอยู่แล้ว ก็จะรู้ว่าต้องเป็นอาหารแบบไหน ไม่ควรจะปรุงให้มีรสเหมือนอาหารคน ไม่ควรใส่ซอส น้ำปลา เครื่องปรุงรสต่างๆ เพราะว่าจะทำให้น้องมีปัญหาเรื่องไต ส่วนความหวานก็ใช้ซุปจากน้ำต้มผัก พวกกะหล่ำ แครอท ฟักทอง”
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากว่าอาหารข้าวแกงของเจ้าสี่ขานี้นับเป็นตลาดใหม่ และเป็นตลาดเฉพาะ ซึ่งอัญมณี บอกว่า จริงๆ แล้ว ไม่รู้ตลาดมีความต้องการมากน้อยแค่ไหน จึงเลือกตั้งโต๊ะเปิดขายง่ายๆ ที่หน้าบ้านเพื่อนบริเวณแยกวุ่นวาย จ.พิษณุโลก ซึ่งมีคนผลุกผล่าน และตอนเย็นเป็นตลาดของกิน พร้อมกับป้ายร้านข้าวแกงสี่ขา ข้าวแกงสำหรับสุนัข โดยเปิดขายตั้งแต่ช่วงเย็นๆ ไปจนถึง 4 ทุ่ม
ปรากฏว่าวันแรกก็ขายหมดเกลี้ยง และวันถัดๆ ก็เริ่มมีลูกค้าประจำมากขึ้นเรื่อยๆ
“เขาก็จะบอกว่าดีมากเลยหมาที่บ้านกินยากมาก ชอบเบื่ออาหาร ซื้อไปแล้วน้องหมาชอบ”
จากนั้นก็ขายหมดทุกวัน โดยได้กำไรวันละ 800 บาท ซึ่งแม้จะน้อยเพราะเป็นช่วงเริ่มต้น แต่อัญมณีมั่นใจว่าธุรกิจนี้ไปต่อได้ และเตรียมเปิดสาขาใหม่ในเร็วๆ นี้
ขายดีจนต้องเปิดสาขา 2
นอกจากจะขายข้าวแกงสี่ขาแล้ว จริงๆ แล้ว อัญมณียังเปิดขายเดลิเวอร์รี่ผ่าน Grab และมีบริการรับให้ข้าวสุนัขตามบ้านด้วย สำหรับอาหารนั้นจะมี 3-5 เมนู สลับเปลี่ยนทุกวัน เช่น อกไก่ฉีก กระดูกอ่อน ตับผัด และจะมีท็อปปิ้งผักให้ด้วย โดยขายขีดละ 30 บาท
“ตรงนี้พอใจเพราะว่าเราตื่นสายได้ บริหารงาน ควบคุมดูแลเองได้ เมนูที่ขายดีที่สุดคือ ตับผัดกับอกไก่ฉีก เพราะว่าตับจะมีกลิ่นหอมไหม้ๆ น้องหมาชอบ แล้วเวลาทำนอกจากเราจะชิมเองแล้วยังให้น้องหมาที่บ้านได้ชิมก่อนด้วย คือเขาจะมานั่งรอ QC ทุกวัน ดังนั้น รับรองว่าทุกเมนูที่ขายนั้น น้องหมาต้องชอบแน่ๆ มีลูกค้าเอาน้องหมานั่งมอเตอร์ไซค์มาด้วย จะมาให้ลองชิมก่อน ส่วนบริการให้ข้าวสุนัขตามบ้านนั้น ในเวลานี้มีลูกค้าประจำ 3 รายที่ใช้บริการนี้อยู่ ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะลูกค้าไปต่างจังหวัด ไม่สะดวก โดยเราจะเก็บเงินเพิ่ม ประมาณ 5 กม.จะคิดแค่ 100 บาท มีเนื้อสัตว์ 2 ขีด มีข้าว ถึงเวลาเราก็เอาอาหารไปให้น้องหมาที่บ้านลูกค้า
“เปิดมาวันแรกก็ขายหมด แล้วก็ขายดีมาเรื่อยๆ เลย ถือว่าเกินคาด ขายขีดละ 30 บาท คละได้เป็นกระดูกอ่อน ตับเนื้อปนหนัง หรืออกไก่ฉีก ถามว่าราคาถูกมั้ยก็ไม่ได้ถูก เพราะว่าสำหรับสุนัขหนึ่งตัวต้องซื้อ 2 ขีด แล้วมีข้าวด้วย แต่สำหรับคนที่รักหมา เชื่อว่าเขายอมจ่ายแน่นอน”
จากความสำเร็จในร้านแรก ในเร็วๆ นี้อัญมณี ตั้งใจจะเปิดสาขา 2 บริเวณตลาดนัดราชพฤกษ์ ซึ่งจะเป็นย่านคนทำงาน และมีแผนที่จะทำเป็นอาหารพร้อมกินสำหรับสุนัข เพื่อขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี