เมื่ออายุได้ 12 ปี เบลล่า หลิน ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงทุกสัปดาห์ในการ ขูด ขัด และล้างอุจจาระออกจากกรงหนูตะเภา 2 กรงของเธอ ซึ่งจากงานที่หนักหน่วงและสปรกนี่เอง ที่กระตุ้นให้หลินออกแบบกรงในแบบของเธอเอง  

     หลินเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Guinea Loft ซึ่งเป็นแบรนด์กรงและอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กที่ขายบน Amazon กรงของ Guinea Loft ทำด้วยผนังอะคริลิกและฐานกระดาษเคลือบขี้ผึ้งแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น เธอเปิดตัวกรงนี้ในเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยใช้เงินออม 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากใช้เวลาสร้างต้นแบบประมาณ 1 ปี Guinea Loft ก็ทำให้เธอมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 34,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมา แต่มาในปีนี้ Guinea Loft มีรายได้ประมาณเดือนละ 71,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

     หลิน ยกเครดิตการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ให้กับงานอีเวนต์หนึ่ง โดยเธอได้รับเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการแข่งขันการนำเสนอผลงานที่ BizWorld และเธอใช้เงินรางวัลนั้นซื้อเครื่องตัดเลเซอร์อะคริลิก ซึ่งช่วยให้ใช้เวลาในการผลิตกรงสั้นลงอย่างมาก  

     Guinea Loft จ้างพนักงานประจำ 6 คนเพื่อพัฒนา สร้าง และทดสอบผลิตภัณฑ์ แต่กระนั้นธุรกิจนี้ก็ยังคงเป็นงานเสริม เพราะเธอเพิ่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย และกำลังจะย้ายไปเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยชิคาโก ซึ่งเธอวางแผนเอาไว้

เส้นทางสู่ Kidpreneur

     อันที่จริงแล้ว Guinea Loft ไม่ใช่ธุรกิจเสริมแรกของหลิน เพราะตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เธอก็พยายามหาวิธีต่างๆ เพื่อหารายได้เล็กๆ น้อยๆ อยู่เสมอ ตั้งแต่ขายน้ำมะนาวไปจนถึงขายผ้าพันคอถักมือ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากพ่อของเธอ ซึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ที่เคยทำงานในธุรกิจสตาร์ทอัพ

     ครั้งหนึ่ง ขณะที่กำลังไปซ้อมโปโลน้ำ หลินเห็นราคากางเกงเลกกิ้ง Lululemon แล้วรู้สึกตกใจกับราคา เธอจึงค้นหาข้อมูลต่อและพบว่ากางเกงเลกกิ้งส่วนใหญ่ทำจากผ้าที่คล้ายกับกางเกงเลกกิ้ง Lululemon มีต้นทุนการผลิตประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น จากนั้นไม่นาน TLeggings ซึ่งเป็นธุรกิจเสริมอีกธุรกิจหนึ่งของหลินก็ตาม โดย TLeggings สามารถทำรายได้สูงสุดในปี 2563 ถึง 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทีเดียว

     หลินบอกว่า “พ่อปฏิบัติกับฉันเหมือนผู้ใหญ่เสมอ เหมือนกับเป็นคนที่ทำงานเคียงข้างพ่อมาตลอด”

Guinea Loft 100 กรงขายหมดใน 2 สัปดาห์

     กลับมาที่ Guinea Loft  หลินใช้เวลาประมาณหนึ่งปีกว่าที่จะนำกรงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Guinea Loft จากต้นแบบแล้วไปวางขายบน Amazon จำนวน 100 กรง โดยกรงชุดแรกขายหมดภายใน 2 สัปดาห์ และยอดขายยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ต้องยกความดีความชอบให้กับเครื่องตัดเลเซอร์อะคริลิก 3 เครื่องที่ใช้ในการผลิต การทำการตลาดที่เพิ่มขึ้น และการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งหน้าร้านของ Guinea Loft บน Amazon นั้น ไม่เพียงแต่มีกรงหนูตะเภาเท่านั้น ยังจำหน่ายเครื่องให้อาหารหญ้าแห้ง ขวดน้ำหยดสำหรับหนูตะเภา และอุปกรณ์เสริมสำหรับหนูแฮมสเตอร์ กระต่าย และนกด้วย

     ปัจจุบัน หลินทำงานพิเศษสัปดาห์ละ 30 ชั่วโมง และลงทะเบียนเรียนหลักสูตรวิทยาลัย 2 หลักสูตร แม้ว่าบริษัทจะมีกำไร แต่เธอก็ยังไม่ได้จ่ายเงินเดือนให้ตัวเอง แต่นำเงินกลับไปลงทุนใน Guinea Loft และวางแผนที่จะนำสินค้าไปวางบนชั้นวางสินค้าจริงในเร็วๆ นี้ เพราะเธอมีเป้าหมายสูงสุด นั่นคือ

     “Guinea Loft เป็นแบรนด์สัตว์เลี้ยงขนาดเล็กที่ได้รับการยอมรับ”

ที่มา : https://www.cnbc.com

Photo : Instagram@guinealoft, Linkedin@bellalin-guinealoft

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup