Starting a Business

“Liebeknot ถักด้วยรัก” ร้านไหมพรมของคนที่รักโครเชต์ตั้งแต่อายุ 11 ปี ลาออกจากงานมาปั้นร้านด้วยความรัก

 

Text : Yuwadi.s

     คุณรู้ตัวตั้งแต่ตอนไหนว่าคุณชอบอะไรในชีวิต มีสาวคนหนึ่งที่รู้ตัวตั้งแต่อายุ 11 ปีว่ารักการถักไหมพรม โดยซึมซับจากคุณแม่ที่ถักไหมพรมให้เห็นตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ ตาล-อำไพพร ชัชวัลกรณ์ เริ่มลงมือถักไหมพรมครั้งแรกตอนอายุ 11 ปี จนปัจจุบันเธออายุ 25 ปีและมีการถักไหมพรมอยู่ในชีวิตของเธอมาโดยตลอด แม้กระทั่งการยื่นขอทุนตอนเข้ามหาวิทยาลัย เธอยังปั้นโปรเจกต์ไหมพรมสุดครีเอทีฟและได้ทุนเรียนจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จากความรักการถักไหมพรมทำให้เธอตัดสินใจหยิบความรักมาปั้นร้านไหมพรมของตัวเองชื่อ Liebeknot ถักด้วยรัก (ลีเบ้อน็อท) ที่กำลังปังจากกระแสชุดไหมพรมของน้องลาบูบู้

จากเด็กที่ถักไหมพรมตอนอายุ 11 ปีสู่เจ้าของร้าน Liebeknot ถักด้วยรัก

     ตาลเล่าว่าเธอเริ่มต้นถักไหมพรมครั้งแรกตอนอายุ 11 ปี โดยเธอเริ่มต้นเห็นคุณแม่ถักไหมพรมมาก่อน หลังจากนั้นก็ถักมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอเรียนจบได้มีโอกาสทำงานประจำ แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ ทำให้เธอตัดสินใจลาออกมาเปิดธุรกิจของตัวเองในที่สุด

     “เราโตมาในสังคมที่คุณแม่ถักไหมพรมอยู่แล้ว เราเห็นเขาถักมาตั้งแต่เด็ก ส่วนเราเริ่มถักตั้งแต่ตอนอายุ 11 ปี ตอนนี้ 24-25 ปี การถักมันอยู่ในชีวิตเรามาเป็นสิบปีแล้ว แต่ช่วงแรกๆ ตอนนั้นสื่อมันยังไม่ได้มากขนาดนี้ เวลาจะถัก เราต้องหาวิชาที่เรียนแล้วเปิดคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนได้เพื่อไปเปิดดูในยูทูปหรือซื้อแพทเทิร์นจากหนังสือในเซเว่นมา มันยาก เราก็เลยถักบ้าง ไม่ถักบ้าง แต่พอเราเริ่มถักเป็นแล้วมันสนุก มันถักได้เรื่อยๆ เราก็ถักดอกกุหลาบขายวันวาเลนไทน์ ถักพวงมาลัยขายในวันแม่ให้เพื่อนที่โรงเรียน จนเราเรียนจบ ทำงาน มีไปใช้ชีวิตต่างประเทศช่วงหนึ่ง พอกลับมาไทยก็ทำงานประจำ เป็นจุดที่ทำให้รู้สึกว่างานประจำไม่เหมาะกับเราเลย เราตัดสินใจลาออกแล้วมาทำร้านไหมพรม”

     ช่วงแรกที่เธอตัดสินใจทำร้าน Liebeknot ถักด้วยรัก เธอใช้วิธีการแชร์ความรู้ในการถักไหมพรมของเธอลงใน TikTok ผ่านการทำคลิปวิดีโอเพื่อทำให้คนรู้จัก ผลปรากฏว่ามีคนเริ่มสนใจและทักเข้ามาสั่งซื้อ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจ

     “ช่วงแรกเราจะแชร์วิธีการถักไหมพรมเบื้องต้น อย่างการถักหัวใจ เป็นอะไรที่ถักง่าย มือใหม่ก็ถักตามได้ ตอนที่ตาลเริ่มหัดถักครั้งแรก ตาลก็เริ่มจากการถักหัวใจ เราเลยคิดว่าถ้าคนเข้ามาดู เขาอยากถักเป็น ก็อาจจะต้องเริ่มจากหัวใจ แต่คลิปที่เริ่มแมสจริงๆ จะเป็นคลิปที่เราสอนถักกระเป๋าหูรูดเล็กๆ ตาลทำคลิปสอนถักแล้วมีหลายคนคิดว่ามันน่ารัก เอาไปใช้ประโยชน์ได้ เขาเลยติดต่อเข้ามาขอซื้อ”

     โดยเธอมองว่าการแชร์ความรู้ให้กับคนดูใน TikTok เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนรู้จักเธอมากขึ้นในวงกว้าง รวมไปถึงการได้ลูกค้าจากคลิปแชร์ความรู้เหล่านี้ด้วย

     “เราคิดว่าการทำคลิปแบบนี้ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น เหมือนเราขายความตั้งใจให้คนดู เพราะเวลาที่เราทำคลิปสอนถักไหมพรม เราจะสอนแบบที่ไม่กั๊กเลย สอนทุกขั้นตอน ทุกแพทเทิร์นที่เราทำ เราตั้งใจจะแชร์จริงๆ คนเข้ามาดูเขาเห็นความตั้งใจของเรา เขาก็กดติดตาม กดให้กำลังใจเรา พอดูคลิปเราแล้วสามารถทำได้ก็ส่งข้อความมาหาเราว่าเขาทำได้แล้วนะ มีการแชร์ต่อ เหมือนเป็นการโปรโมตไปในตัวโดยไม่ต้องเสียเงินเลย”

หยิบกระแสอาร์ตทอยมาสร้างชุดลาบูบู้จนร้านแมสใน TikTok

     สำหรับจุดเด่นของงานไหมพรมร้าน Liebeknot ถักด้วยรัก จะอยู่ที่ความน่ารักและความเนี้ยบของงาน ที่สำคัญลูกค้ายังสามารถคัสตอมได้ทุกออเดอร์

     “ร้านตาลเหมือนที่แมสขึ้นมาจะเป็นกระเป๋าหูรูด เราพยายามทำไหมพรมให้เนี้ยบและครีเอทออกมาในแบบที่น่ารักกุ๊กกิ๊ก ถ้าลูกค้ารู้สึกว่ากระเป๋ามันเรียบ เขาก็ให้เราดีไซน์เพิ่มได้ เราก็จะดีไซน์เพิ่มเป็นดอกไม้หรือตัวการ์ตูนที่เขาชอบ เน้นการใช้สีพาสเทล และงานที่ร้านของเราจะเป็นงาน Made to order ไม่ได้มีพร้อมส่ง ลูกค้าก็จะสามารถคัสตอมได้เลยว่าอยากได้สีอะไร ทรงไหน ปรับแต่งสายยังไง”

     อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้ร้านกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นคือการหยิบเอากระแสลาบูบู้มาตัดเป็นชุดพร้อมเครื่องประดับ จนทำให้คลิปใน TikTok แมสและมีคนรู้จักมากขึ้น

     “ตอนแรกตาลตามกระแสอาร์ตทอยไม่ทัน เราไม่ได้เล่น แต่มีรุ่นน้องที่อยู่ในวงการอาร์ตทอยมาบอกและแนะนำว่าลองถักชุดลาบูบู้ดูไหม มันกำลังฮิตมาก และในคลิปเรามีสอนถักกระเป๋าก็มีคนมาคอมเมนต์เยอะมากว่าสอนถักชุดลาบูบู้หน่อย เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่เราต้องไปหาลาบูบู้มาเพื่อถักชุดให้เขา น้ำขึ้นให้รีบตัก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการถักชุดลาบูบู้มันทำให้ช่องของเราแมสขึ้นไปอีก”

     โดยตาลได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจนี้ว่าความอดทนกับความตั้งใจคือสิ่งสำคัญมาก นอกจากนี้ยังต้องอดทนกับยอดวิว รวมไปถึงความรับผิดชอบในการทำงานให้ลูกค้าด้วย

     “การทำธุรกิจนี้ต้องใช้ความอดทนมากๆ อดทนแรกคืออดทนกับความตั้งใจ และต้องพยายามต่อสู้กับยอดวิว ในวันแรกๆ ที่เราทำ ยอดวิวก็ไม่เยอะเลย อยู่แค่หลักสี่ห้าร้อย แต่พอเราอดทนถึงทุกวันนี้ ยอดวิวขึ้นหลักสามสี่หมื่น มันต้องอดทนให้ผ่านช่วงแรกให้ได้ก่อน ต่อมาที่จะทำให้ธุรกิจเราราบรื่นคือเราต้องมีความรับผิดชอบในการทำงาน เวลาเรารับออเดอร์ลูกค้ามา เราต้องลงคิวว่าจะส่งวันไหน ไม่เกินวันไหน ต้องทำให้ได้ตามนั้น”

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup