Text : Yuwadi.s

     เมื่ออดีตมนุษย์เงินเดือนที่บอกลางานประจำมาตามหาความฝันกับร้านเค้กเล็กๆ ที่มีหน้าร้านบนโลกออนไลน์แถมยังมีจุดขายคือความฮาแบบเต็มขั้นด้วยการหยิบเอาความพังของเค้กที่ทำมาสร้างเป็นคอนเทนต์ จนกลายเป็นคนชอบแถมยังมีผู้ติดตามบน TikTok เกือบแสนคน! นี่คือเรื่องราวของ เจนนี่ ภาวิดา พรวนิชเจริญ ที่เธอเริ่มต้นทำขนมตั้งแต่อยู่มัธยมแถมยังเคยจับเงินแสนจากการขายขนมตอนอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 กับร้านเค้กที่ชื่อว่า Bonbon Mer

จากเตาอบที่ได้เป็นของขวัญสู่เส้นทางนักอบขนมตั้งแต่มัธยม

     โดยเจนนี่ได้เล่าย้อนไปให้ฟังถึงเส้นทางการเป็นนักอบขนมของเธอ เริ่มต้นตั้งแต่การได้เตาอบตัวแรกเป็นของขวัญ เธอจึงใช้เตาอบที่ได้มาสร้างรายได้เสริมเล็กๆ ในช่วงมัธยม จนต่อยอดมาเรื่อยๆ ถึงตอนเรียนมหาวิทยาลัย

     “ตอนนั้นอยู่ม.5 ที่บ้านซื้อเตาอบมาให้เป็นของขวัญ เราเลยลองทำเมอแรงค์มาขายเล่นๆ ที่โรงเรียน กลายเป็นว่ามันบูมมาก ไม่ได้หลับไม่ได้นอนทั้งบ้าน พอม.6 เราสอบติดมหาวิทยาลัยแล้วก็เลยว่าง ก็มาทำเมอแรงค์ขายจริงจัง ราคาถุงละ 25-30 บาท จนได้เงิน 3-4 หมื่น ตอนนั้นคือเยอะมาก แล้วก็หยุดไป จนเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 มันดันมีโควิด เราไปเรียนไม่ได้ ก็ลองปรึกษาเพื่อนสนิทชื่อบ๊วย ก็เอาเงินมาลงกองกลางคนละ 2,500 บาท มีเตาอบอยู่แล้วทั้งคู่ ทำสติกเกอร์เอง ออกแบบเอง จนได้ชื่อว่า Bonbon Mer เมนูแรกของร้านคือชีสเค้กหน้าไหม ขายเพื่อนๆ ที่ยังอยู่หอ ทำจากบ้านแล้วแบกไปขายที่มหาวิทยาลัย เพื่อนเราเลิกทำไปตอน 3 เดือนแรก เราก็ลุยเดี่ยว ตอนนั้นจับเงินแสนตั้งแต่อยู่ปี 3 ต้องขอบคุณเพื่อนคนนี้ที่เป็นแรงผลักดันและซัพพอร์ตให้เราได้กลับมาทำขนมอีกครั้ง”

     หลังจากนั้นการขายขนมของเจนนี่ก็ดำเนินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอต้องหยุดพักเมื่อตอนที่เธอทำงานประจำ เพราะทำควบคู่กันไปแล้วไม่เวิร์ก แต่หลังจากทำงานประจำได้ครบปี เธอก็ตัดสินใจลาออกเพื่อมาขายขนมเต็มตัว

     “เราหยุดไปช่วงหนึ่งตอนทำงานประจำ เคยทำคู่กันไปได้ประมาณ 5 เดือนแล้วหยุด เพราะมันไม่ไหว ด้วยความที่เราเป็นเซลล์ ขับรถทั้งวัน ออกไปเจอลูกค้า ไม่มีเวลาเลย เราก็หยุดไปก่อน แล้วเราเป็นคนขี้เบื่อมาก มีช่วงที่คิดว่าอยากลาออก จะไปสมัครงานที่อื่นดีหรือกลับมาทำขนมดี แต่ลูกค้าเก่าก็หายไปหมดแล้ว เขาจำเราไม่ได้แล้ว เราก็เลยงั้นลองกลับมาทำขนมแล้วลงคลิปดีกว่า ถ้ามีคนดูอยู่ก็จะกลับมาทำจริงจัง ปรากฏว่าพอลงคลิปไป คนดู 4 หมื่นคน เลยใจชื้น มีคนดูเยอะ หลังจากนั้นเลยลาออกแล้วกลับมาทำขนมจนทุกวันนี้”

      แต่การกลับมาไม่ได้ง่าย เพราะเธอต้องเจอกับอุปสรรคหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวงการเค้กที่ล้ำหน้าไปไกล ทำให้เธอต้องฝึกสกิลใหม่ๆ รวมถึงการที่ลูกค้าเก่าหายหมดด้วย

     “ลูกค้าเก่าเราหายหมด อีกอย่างคือวงการเค้กมันไปไกลมากจนเราตามไม่ทัน มีหลายรูปแบบ เอาโบว์มาติด อันนี้เรายังตามทัน แต่ถ้าให้ปั้นตุ๊กตานู่นนี่ด้วยมือหรือวาดรูปด้วย บอกเลยว่ายังไปไม่ถึง เพราะมันยากและใช้เวลานานมาก แต่ละวันที่เราทำบัตเตอร์ครีมเค้ก เราทำได้มากสุดแค่ 3-4 ก้อน ไม่ไหวแล้วเพราะเราทำคนเดียว อย่างปัญหาการทำเค้กมันจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิเลยค่ะ วันไหนอากาศร้อนอบอ้าว เราเอาเค้กออกมาจากตู้เย็นเพื่อจะแต่งต่อ เราบีบไปแล้ว ทุกอย่างสวยมาก พอหมุนมาอีกที ไหลไปกองข้างล่างหมด เราก็ต้องโละ แกะทีละจุดที่พังแล้วทำใหม่ ทำจนกว่าจะได้ ต้องอาศัยความเร็วด้วย”

หยิบความพังมาสร้างคอนเทนต์จนคนตามเกือบแสน!

     แม้ว่าจะเจอปัญหาและอุปสรรคมากแค่ไหน สิ่งที่เจนนี่ทำคือการหยิบเอาปัญหานั้นมาเล่าให้คนดูฟัง พากย์เสียงเข้าไปแบบเป็นตัวเองสุดๆ จนเกิดเป็นคอนเทนต์สุดฮาบนโลกออนไลน์ที่ใครๆ ต่างก็เอาใจช่วย

     “ด้วยความที่เรากลับมาทำแล้วเจอปัญหาเยอะ เราไม่ได้เรียน มันต้องลองทำด้วยตัวเองก็เจออุปสรรคเยอะ กลายเป็นคลิป TikTok คนเข้ามาดูเพราะมันฮาด้วย เราอยากลงไปในทางที่มันสายฮา สายตลก ก็หาคอนเทนต์ที่มันตลกแล้วก็พากย์เสียงแบบตลกๆ ลงไป ลูกค้าก็ชอบ บางคนไม่ได้อยากได้เค้กนะ แต่อยากให้เราทำคอนเทนต์ให้เขาดู เขาเลยมาสั่ง ทุกคลิปที่เราทำจะมีความผิดพลาด มันเหมือนเรียกคนมาดู จุดขายคือมันพัง คนนี้มันชอบทำเค้กพัง เขาอาจจะจดจำแบบนี้ แล้วเราก็เป็นตัวเอง ใส่หมด ปกติเป็นคนห้าวๆ พูดหยาบกระด้าง เราก็เป็นตัวเองแบบนั้นเลยใน TikTok”

     สำหรับจุดเด่นของเค้กร้าน Bonbon Mer คือการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดี อย่างเมนูบัตเตอร์ครีมเค้กก็ใช้เนยสดแท้ 100% ปราศจากไขมันทรานส์ รสชาติหวานน้อย นอกจากนี้ยังมีเมนูชีสเค้กหน้าไหม้ที่ขายดีตลอดกาล

     “จุดเด่นเราคือหวานน้อย ไม่ใส่เนยขาว บางร้านจะใส่เนยขาวเพื่อให้เค้กอยู่ตัวได้นาน เวลาทำมันง่าย ไม่ต้องคอยเอาเข้าออกตู้เย็น แต่เราจะไม่ใส่เนยขาว เราใส่เนยเพียวๆ เนยแท้ มันเลยราคาค่อนข้างสูง แต่จะแจ้งลูกค้าตลอดว่าไม่มีไขมันทรานส์นะ ไม่ใส่สารกันบูดนะ เวลากินเลยจะไม่ติดเพดานลิ้น ร้านเราเน้นเรื่องการเลือกใช้วัตถุดิบ เพราะที่บ้านชอบกิน คุณย่าชอบกินเค้กที่เราทำ เราเลยทำทุกอย่างให้หวานน้อยและใช้วัตถุดิบที่ดี”

     โดยเจนนี่ได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญในการทำร้านเค้กของเธอว่าต้องปรับตัวตามเทรนด์ที่เปลี่ยนไวให้ทันและต้องให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบที่ดีด้วย

     “วงการเค้กต้องหูไวตาไว แบบไหนกำลังมา กำลังฮิตเราต้องทำเป็นแล้ว หมายถึงว่าเราต้องปรับตัวตลอดเวลา หัวใจอีกอย่างคือคุณภาพ วัตถุดิบที่ดี รสชาติดี ยังไงก็ไปรอด เพราะมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการกินเค้กที่คุณภาพดี ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เราต้องเจาะให้ตรงกลุ่มลูกค้า ความฝันในอนาคตของเราคือการได้เปิดร้านเค้กในห้าง มีขายน้ำและเค้ก อยากทำเค้กตรงหน้าร้านเลยให้มีพนักงานทำเค้กโชว์ที่หน้าร้าน เป็นความฝันของเรา”

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup