รู้จัก Claribelle Candle เทียนหอมแฮนด์เมดที่ผลิตทีละชิ้นเมื่อลูกค้าสั่งเท่านั้น!
“ทันทีที่เปลวไฟละลายต่อหน้าเทียนแล้ว สวนแห่งนี้ก็จะกลายเป็นสายน้ำเทียนที่สวยงาม มีกลิ่นหอมอโรมา และดอกไม้ที่ชวนฝัน”
คำบรรยายถึงเทียนหอมของเบสท์-ชนาภา ลดาวงศ์สุนทร ที่บอกเล่าถึงอารมณ์ศิลปะผสมผสานกับความชอบของเธอ จนกลายมาเป็นคอนเซปต์ของแบรนด์เทียนหอม Claribelle Candle
เบสท์เรียนจบด้านแฟชั่นดีไซน์ และเลือกที่จะทำงานเป็นฟรีแลนซ์รับออกแบบคอลเลกชันเสื้อผ้า โดยใช้เวลาว่างไปเรียนการทำเทียนหอม การปรุงน้ำหอม เพื่อหวังเป็นงานอดิเรก แต่ด้วยแรงยุของเพื่อนๆ หลังจากทดลองทำเป็นของขวัญแจกจนเพื่อนติดใจ จึงเริ่มผลิตชิ้นงานถ่ายรูปลงอินสตาแกรมและกลายเป็นอีกหนึ่งงานที่รักและสร้างรายได้เสริมให้กับเธอ
“เทียนหอม Claribelle Candle มาจากตัวตนของเบสท์ เป็นสไตล์ส่วนตัวที่เราชอบตั้งแต่งานแฟชั่น งานศิลปะ นิยายที่อ่าน ความคิดความเชื่อหลายอย่างมาประกอบแล้วใส่ไปในงาน และเพราะเบสท์เป็นคนไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมเป็นภูมิแพ้ เลยเลือกกลิ่นที่ไม่หอมฉุนแต่ผ่อนคลายธรรมชาติ เช่น ทับทิม โรสแมรี่ มาปรุงกลิ่นใส่ในงานเทียนหอม Claribelle Candle”
เสน่ห์ของ Claribelle Candle เริ่มตั้งแต่การตกแต่งด้วยดอกไม้แห้ง เครื่องเทศ โดยเบสท์จินตนาการว่าหน้าเทียนคือป่าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่า กลิ่นจากเทียนหอมล้วนเกิดจากการปรุงกลิ่นของเบสท์เอง จึงมีความพิเศษเฉพาะและหาที่ไหนไม่ได้ เช่น กลิ่น Haunted House หรือบ้านผีสิง หรือกลิ่น Chocolate Cafe ที่ผสมระหว่างช็อกโกแลตและเปเปอร์มินต์ เป็นต้น
“อย่างกลิ่น บ้านผีสิงเบสท์จินตนาการว่าสมมติเราหลุดเข้าไปอยู่ในป่าเจอกระท่อมแห่งหนึ่งแล้วก็เป็นกระท่อมที่มีกลิ่นอายของไม้ เตาผิง ผสมกับลาเวนเดอร์ เป็นกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ซึ่งเมื่อมาผสมด้วยกันมันจะออกฟิลกลิ่นไม้มาก่อนแล้วก็ตามด้วยกลิ่นละมุนของลาเวนเดอร์ ซึงมาทีหลังมันก็จะกลมกล่อมมาก”
ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ Claribelle Candle มีความพิเศษสำหรับผู้ซื้อ หรือแม้แต่การนำไปส่งต่อเป็นของขวัญ เธอจึงเลือกที่จะผลิตทีละชิ้นตามที่ลูกค้าต้องการมากกว่าการทำทีละมากๆ แล้วจำหน่าย โดยจะมีให้เลือก 3 ไซส์คือ ไซส์เล็กราคา 150 บาท ไซส์กลาง 280 บาท และไซส์ใหญ่ 450 บาท
“ช่วงแรกๆ ที่เราเปิดรับมีคนสั่งเข้ามาเยอะมาก เรารับได้อาทิตย์หนึ่งไม่เกิน 80 แก้ว แต่สุดท้ายมันก็จะเกินมาทุกครั้ง แล้วเบสท์ทำหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวาดภาพประกอบ ออกแบบเสื้อผ้าด้วย ก็เลยมีความรู้สึกว่าไม่ไหวทั้งเหนื่อยและไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย เลยเปลี่ยนวิธีการรับออร์เดอร์ คือสั่งมาแล้วเราก็จัดตารางส่งให้ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเข้าใจ บางคนก็จะสั่งล่วงหน้า 2-3 อาทิตย์ก่อนที่จะใช้งาน คือไม่ได้เปิดรับพรีออร์เดอร์เป็นรอบๆ และก็ไม่ได้ผลิตเพื่อขายอย่างเดียว ถ้าไม่มีออร์เดอร์ก็จะไม่ทำ ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งว่าอยากได้ไซส์ไหนกลิ่นไหน ส่วนการตกแต่งหน้าเทียน เบสท์จะเป็นคนแต่งเอง ซึ่งทำมาทั้งหมดก็จะไม่เหมือนกันเลย”
ด้วยเป็นงานแฮนด์เมดทุกชิ้นที่มีคุณค่าทางจิตใจ ตั้งใจทำด้วยใจ สร้างสรรค์และออกแบบทุกสิ่งทุกอย่างจากเอกลักษณ์ของเจ้าของแบรนด์ จึงทำให้ Claribelle Candle ไปไกลถึงต่างแดน
“วันนี้ Claribelle Candle มีลูกค้าเป็นชาวรัสเซีย อเมริกัน และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเขาเห็นเราจากอินสตาแกรม ส่วนตัวเบสท์ตั้งใจอยากไปขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าลูกค้าต่างประเทศเขายอมจ่ายค่าส่งซึ่งแพงกว่าค่าเทียนด้วยซ้ำ”
เบสท์บอกว่าทุกวันนี้แม้จะไม่ได้ทำงานประจำ แต่ก็มีรายได้จากหลายทาง เช่น ออกแบบเสื้อผ้าให้กับแบรนด์ งานวาดภาพ การทำเทียนหอมเลยเป็นการสนองต่อความชอบของตัวเองทำด้วยใจรักมากกว่าที่จะหวังเรื่องรายได้ แต่กระนั้นก็เป็นรายได้เสริมที่งดงาม โดยแต่ก่อนที่เคยรับอาทิตย์ละ 80 กว่าแก้วจะมีรายได้หมื่นกว่าบาท ยิ่งทำเป็นคอลเลกชันในช่วงเทศกาลก็มีรายได้เกือบ 100,000 บาทต่อคอลเลกชัน
“อย่างคอลเลกชันพิเศษวัน Halloween เบสท์จะเป็นคนออกแบบถ้วยเองแล้วก็สั่งเพื่อนที่จบทางเซรามิกเป็นคนปั้นให้ ในเซตก็จะทำกลิ่นที่เป็นกลิ่นพิเศษที่เราคิดขึ้นมาไม่มีขายทั่วไป คือเราจะเปิดให้เอฟ คือ 60 เซต ใน 60 เซตก็จะมีงานวาดของเบสท์ ไม้กวาดแม่มดที่ทำขึ้นมาเฉพาะแล้วก็เทียน ปรากฏว่าขายหมดใน 10 นาทียอดเกินทะลุอีก ลูกค้าบอกว่าทำไมเปิดรับแค่นี้ เบสท์ก็เลยให้เหตุผลว่างานทุกชิ้นเบสท์ทำเองทุกอย่างทุกขั้นตอนแล้วก็ทำทีละถ้วยจริงๆ”
ก่อนจากกัน เบสท์ทิ้งท้ายเคล็ดลับการทำเทียนหอม Claribelle Candle ของเธอไว้ว่าเลือกในสิ่งที่รักก่อน รักในสิ่งที่อยากจะทำเพื่อออกมาเป็นผลงาน แล้วถามตัวเองก่อนว่าเราอยากทำอะไร ถนัดทางด้านไหน ถ้าเราทำทุกอย่างออกมาด้วยเอกลักษณ์และตัวตนของเราเองยังไงก็มีคนสนใจ
IG : claribelle.candles
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup