Text : Yuwadi.s

     จากคนไม่ชอบทำอาหาร ทำอาหารไม่เป็น ต้องมาทำธุรกิจอาหารจนกลายเป็นร้านที่เหมือนจะดูบ้านๆ แต่สร้างรายได้หลายแสนบาทต่อเดือนกับร้าน อร่อยเฉย กะเพราถาด ที่ใช้เมนูสุดเบสิกอย่างข้าวผัดกะเพรามาพลิกโฉมให้อร่อยถูกใจทุกคนพร้อมด้วยออฟชั่นที่ให้ลูกค้าได้เลือกกินผัดกะเพราได้แบบไม่เบื่อ ที่สำคัญยังเน้นการสร้างกลยุทธ์บนออนไลน์ ขายดีจนต้องเพิ่มสาขาแบบหยุดไม่อยู่ ซึ่งผู้ก่อตั้งร้านคือ เม - กมลพร เอมอิ่ม จากคนที่ไม่ทำอาหารมาสร้างร้านนี้จนประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้เธอทำได้อย่างไร?

 

จากพนักงานประจำสู่เจ้าของร้านกะเพราออนไลน์

     เมเล่าถึงจุดเริ่มต้นก่อนที่จะทำร้านอร่อยเฉยให้ฟังว่าเธอเป็นพนักงานประจำ จนเธอรู้สึกว่างานประจำนั้นเริ่มไม่เหมาะกับเธอ จึงตัดสินใจลาออกจากงานมาทำธุรกิจเล็กๆ ที่ยังไม่ใช่ร้านอาหาร หลังจากนั้นพี่สาวชวนเปิดร้านที่ตลาดแถวบ้าน แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

     “ตั้งแต่เรียนจบมาเราก็ทำงานออฟฟิศปกติ จนช่วงที่ออฟฟิศปิดตัวลง เราก็หางานใหม่ ได้ไปเทรนงานที่เวียดนามเกี่ยวกับการยิงโฆษณา ทำการตลาดให้บริษัทของเวียดนาม พอกลับมาทำก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับเรา ทั้งการเดินทาง การตื่นเช้าไปทำงาน เลยมาจับการทำธุรกิจส่วนตัว ตอนนั้นเราทำกระเป๋าสาน ก็ขายดี แล้วมันมีตลาดกลางคืนมาเปิดแถวบ้าน ชื่อตลาดอินดี้ พี่สาวเลยชวนมาเปิดร้านอาหาร ร้านกะเพรา ก็หุ้นกันคนละครึ่ง ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้ใส่ใจอะไร”

     จุดที่ทำให้พลิกผันมาจับธุรกิจกะเพราเต็มตัวและไปได้ดีจนถึงปัจจุบันคือช่วงที่เกิดโควิด ตอนนั้นร้านกะเพราที่ตลาดถูกพักไปแต่พนักงานที่ร้านมาขอให้ทำต่อ เมจึงใช้โอกาสนี้ในการทุ่มสุดตัวเพื่อเปิดร้านกะเพราที่บ้านแบบไม่มีหน้าร้าน จนปังในที่สุด

    “ตอนนั้นโควิด เราเลยไม่ได้ทำร้านต่อ พนักงานก็มาขอร้องว่าเปิดที่บ้านได้ไหม เขาไม่มีรายได้ เราเลยคิดว่ายังไงดีเพราะปกติเราไม่ได้เก่งด้านอาหารเลย ไม่ถนัดเลยแต่เราสงสารพนักงาน เลยลองเปิดดู พอมาเป็นร้านตัวเองเราก็ใส่ใจมากขึ้น ตอนนั้นเรามีแม่ครัวคนเดียว เราก็ต้องไปช่วยแม่ครัวผัด เขาก็ต้องสอนเรา พอสอนปุ้บ เราก็เอาไปต่อยอด ดูยูทูปแล้วมาปรับใช้ ทุกอย่างตอนนี้ของที่ร้านสูตรจะมาจากเม พอทำด้วยตัวเองก็จะรู้ว่าแบบนี้ไม่ได้นะ จะมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเรียนรู้เอามาสอนพนักงานต่อ”

 

ใช้กลยุทธ์ทำการตลาดออนไลน์พลิกร้านบ้านๆ ให้ปัง

     หลังจากที่เมตัดสินใจเปิดร้านกะเพราอีกครั้ง โดยใช้บ้านที่ลาดพร้าว 41 เป็นพื้นที่ขายออนไลน์แบบไม่มีหน้าร้าน เธอใช้องค์ความรู้ด้านการทำการตลาดจากประสบการณ์ทำงานมาปรับใช้ในธุรกิจ จนพลิกกลับมาปังและเปิดสาขาใหม่เรื่อยๆ

     “เราเอาความรู้ที่เคยไปยิงโฆษณาที่เวียดนามมาใช้ แล้วก็ถ่ายรูปอาหารใหม่หมดเลย ถ่ายรูปอาหารให้มีความน่าดึงดูด ทำการตลาดใหม่ ตอนนั้นช่วงโควิดด้วยก็จะมีเวลาเยอะขึ้น เราก็ลองตีโจทย์ ดูเพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจแบบเราแล้วสำเร็จเขาทำยังไง เขามีรูปอาหารที่น่ากิน เขาทำการตลาด ยิงโฆษณา เราเลยลองมาทำ หลังจากนั้นคือพลิกเลย ขายดีมาก แล้วเราก็ต้องทำการตลาดเรื่อยๆ สื่อสารกับลูกค้า โพสต์ภาพหน้าเพจ เพิ่มเมนูใหม่ๆ เรื่อยๆ”

    จุดเด่นของร้านอร่อยเฉย กะเพราถาดที่นอกจากจะใช้การตลาดในการเข้าถึงลูกค้าแล้วคือเรื่องของเมนูอาหารที่จะมีความแตกต่างจากร้านกะเพราทั่วไปเพราะมีตัวเลือกให้ลูกค้าเยอะมากกว่า 20 ตัวเลือก

     “กะเพราที่ร้านจะไม่ใช้น้ำมัน คนก็จะติดร้านเราเพราะเราใส่ใจจริงๆ เราชอบแบบนี้ น้ำมันห้ามเยิ้มนะ เราก็ไปศึกษามาอีกว่า คนที่ชอบกินกะเพรา บางคนชอบกินแห้งๆ บางคนชอบกินแบบมีน้ำคลุกข้าว เราก็ทำตัวเลือกให้ลูกค้าว่าชอบแบบไหน อยากได้แบบไหน ส่วนตัวเนื้อสัตว์ก็จะไม่จำเจ แต่เรามี 20-25 ตัวเลือก เช่น เบคอน ไก่กรอบ ปลาทอด อีกอย่างคือพริกน้ำปลา ร้านทั่วไปอาจจะใช้พริกน้ำปลาซอง แต่เราใช้พริกน้ำปลาสด ลูกค้าก็จะมารีวิวเยอะว่าร้านใส่ใจ อาหารอร่อย สั่งอะไรไปได้ตามสั่งทุกอย่าง เราก็จะเอารีวิวลูกค้าไปทำการตลาดอีกที”

 

จากขายออนไลน์ไม่มีหน้าร้านสู่การขยายสาขา

     ในปัจจุบัน ร้านอร่อยเฉยกะเพราถาด ได้ย้ายจากสาขาในบ้านนั่นคือสาขาลาดพร้าว 41 มาเปิดหน้าร้านที่ลาดพร้าววังหินแทน ทำให้ในตอนนี้ ทางร้านมีด้วยกันทั้งหมด 4 สาขานั่นคือ สาขาลาดพร้าววังหิน สาขาลาดพร้าว 101 สาขาสุทธิสารและสาขาพระรามเก้า โดยเมเล่าถึงจุดที่ตัดสินใจขยายสาขาให้ฟัง

     “มันเริ่มมีคนทักมาขอซื้อแฟรนไชส์เยอะขึ้น เราเลยคิดว่าเราอาจจะทำเองได้ เลยลองขยายสาขาดีกว่า เพราะเราอยากเพิ่มยอดขายด้วย เห็นทำเลใหม่ตรงนี้น่าลองเปิด ก็ไปเปิดดู สาขา 2 ผลตอบรับดี ลองสาขา 3 ผลตอบรับดีอีก เราก็คิดว่าน่าจะไปได้ เลยหาสาขาใหม่เพิ่มเรื่อยๆ แต่การขยายสาขามันเหมือนเราต้องเริ่มใหม่หมด เพราะเราไปทำเลใหม่ ลูกค้ากลุ่มใหม่”

     โดยเมได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจให้ฟังว่าเธอเน้นในเรื่องของคุณภาพอาหาร ต้องทำให้ตรงปกกับที่นำเสนอให้ลูกค้าได้เห็น มีความใส่ใจ ซื่อสัตว์กับลูกค้า ที่สำคัญคือความอดทน

     “คุณภาพสำคัญมากๆ ถ้าเราพลาดหรือทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจ เขารีวิวได้ แล้วรีวิวมันลบไม่ได้ เราต้องใส่ใจลูกค้าให้มากๆ เจอปัญหาอะไร รีบแก้ไขทันที เราต้องทำให้ตรงปก เรานำเสนออะไรไปต้องทำให้ได้แบบนั้น แล้วก็ต้องซื่อสัตย์ จริงใจ ความอดทน อย่าเพิ่งท้อในช่วงเริ่มแรก มันไม่ได้ดีทุกอย่าง ถ้าเรายังไม่เติบโตก็ลองมาปรับ วิเคราะห์ดูว่าเพราะอะไร คนที่สำเร็จเขาทำแบบไหน ต้องอดทนถ้าเราเลือกที่จะทำแล้วจริงๆ”

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup