Starting a Business
เลิกวลีเด็ด “ไม่มีเวลาว่าง” ด้วยเคล็ดลับบริหารเวลาเพื่อ Start Up Business
เรื่อง เจษฎา ปุรินทวรกุล
เชื่อว่าเราทุกคนมีไอเดียและความคิดดีๆ ในการทำธุรกิจ แต่คนส่วนใหญ่มักปล่อยให้ไอเดียเหล่านั้นถูกฝุ่นจับ และเลือนหายไปจากความทรงจำ ด้วยคำว่า “ไม่มีเวลาทำ” ...ช่างเป็นข้อแก้ตัวที่น่ากลัวเสียจริงๆ
หากคุณมีความคิดที่เป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ แล้วไม่ได้ลงมือทำ คุณอาจต้องมานั่งเสียใจในอนาคตก็ได้
“ผมว่าจะลองทำในปีหน้า” ...แล้วถ้าปีหน้ามีอะไรที่ทำให้เริ่มธุรกิจไม่ได้อีกละ
“ผมไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นตอนนี้เลยหรือเปล่า” ...ถ้าคุณไม่ทำ คนอื่นก็พร้อมที่จะทำอยู่ดี
“ผมยังไม่มีเวลาเลย” ...ก็หาเวลาสิ
เรามักมีเหตุผลหรือข้อแก้ตัวที่จะไม่ลงมือทำ แต่ลองมาดูเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นธุรกิจได้แม้ว่าคุณยังทำงานเต็มเวลาหรือรู้สึกว่ายังไม่มีเวลาจะเริ่มต้นก็ตาม
1. ใช้โซเชียลมีเดียสำหรับเรื่องส่วนตัวให้น้อยลง
โซเชียลมีเดียไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะ แต่ถ้าคุณต้องการทำธุรกิจอย่างจริงจัง ลองคิดดูว่าคุณสามารถเอาเวลาไปทำอะไรกับธุรกิจได้บ้างหากใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเมาท์มอยเรื่องส่วนตัว หรือเสพย์ข่าวดาราน้อยลง เพราะในแต่ละวันเราเสียเวลาให้กับโซเชียลมีเดียกันเยอะมากๆ ลองเอาเวลาเหล่านั้นไปทุ่มให้กับการคิด การก้าวเดิน และการเริ่มต้นธุรกิจดู เวลาเหล่านั้นจะช่วยให้คุณตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งที่คุณได้วาดฝันเอาไว้ อ้อ...ไม่ใช่ไม่ให้ใช้โซเชียลมีเดียนะ แค่ใช้ให้น้อยลง และใช้อย่างรู้เป้าหมาย
2. เลิกดูภาพยนตร์ซีรีส์แบบไม่หลับไม่นอน
โอพระเจ้า Game of Thrones กำลังสนุกเลย ส่วน Prison Break ภาคใหม่ก็กำลังจะมา แบบนี้ต้องดูทีเดียวให้จบทุกแผ่น ...เอาจริงเหรอ หากคุณกำลังทำธุรกิจอยู่หรืออยากทำธุรกิจเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม การทำแบบนั้นคงไม่ใช่วิธีที่ดีนัก แม้ว่าการดูโทรทัศน์หรือทำกิจกรรมพักผ่อนในยามว่างจะช่วยบรรเทาความเครียดได้ แต่เราก็ควรจัดสรรเวลาให้เหมาะสม ถ้าเอาเวลาทั้งหมดไปให้กับการดูซีรีส์ แล้วจะมีเวลาที่ไหนไปคิดเรื่องการทำธุรกิจได้ละ
3. บริหารจัดการภาระหน้าที่ส่วนตัว
เราทุกคนมีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบส่วนตัวกันทุกคน เช่น ต้องทำงานประจำ ไปร้านขายของชำ ทำธุรกรรมที่ธนาคาร และทำธุระอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งคุณสามารถบริหารจัดการให้เป็นระบบเพื่อให้เสียเวลาน้อยลงได้ ยกตัวอย่างเช่น หลังจากกลับจากโรงยิมช่วงเช้าคุณก็แวะร้านขายของชำเพื่อซื้อของ ส่วนวันพุธหลังเลิกงานคุณค่อยแวะไปทำธุรกรรมกับทางธนาคารในห้างสรรพสินค้าซึ่งปิด 1 ทุ่ม การจัดตารางภาระหน้าที่ของตัวเอง จะช่วยให้เราบริหารเวลาได้อย่างเป็นระบบ และมีเวลาเหลือสำหรับการทำธุรกิจส่วนตัวได้ด้วย
4. นอนดึกและตื่นเช้า
คนบางคนสามารถทำธุรกิจส่วนตัวได้แม้ว่าเขาต้องทำงานประจำเต็มเวลา และดูแลครอบครัวไปด้วย ทุกวันนี้คุณตื่น 8 โมงเช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและไปทำงานให้ทันตอน 9 โมงกันใช่หรือเปล่า ลองเปลี่ยนมาตื่น 6 โมงเช้า และใช้เวลาซัก 2 ชั่วโมงสำหรับคิดหรือบริหารจัดการธุรกิจของตัวเองดู ซึ่งในบางครั้งเราก็ใช้การทำงานเต็มเวลามาเป็นข้ออ้าง ส่วนบางคนก็บอกว่าต้องกลับไปดูแลครอบครัวหรือลูกคนเล็ก แต่เมื่อคุณกลับไปถึงบ้านและเล่นกับลูกเสร็จ ทานอาหารค่ำด้วยกัน กล่อมลูกจนหลับฝันดีแล้ว คุณก็สามารถใช้เวลาหลังจากนั้นบริหารจัดการด้านธุรกิจต่อ ...ช้าก่อน ไม่มีใครบอกว่ามันทำกันได้ง่ายๆ เพียงแต่เราได้ลองทำดูหรือยังเท่านั้นเอง
5. ตั้งเป้าหมายให้สมจริง
สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจคือการตั้งเป้า แล้วหาวิธีการว่าทำอย่างไรจึงจะไปถึงเป้าหมายหรือบรรลุเป้าหมายได้ ถ้าคุณมีเวลาว่างวันละ 1 ชั่วโมง แล้วตั้งเป้าหมายไว้ใหญ่ ก็อาจต้องใช้ระยะเวลา แต่ถ้าคุณตั้งเป้าหมายเล็กๆ ไว้ แต่ทยอยทำให้สำเร็จทีละเรื่อง ก็อาจจะก่อให้เกิดผลดีกับกำลังใจของคุณมากกว่า ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับแผนที่วางเอาไว้
6. ปรับเวลาที่ “ไม่ได้ทำงาน” ให้กลายเป็น “ช่วงเวลาพัฒนาธุรกิจ”
หากคุณใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ฯลฯ เพื่อเดินทางไปทำงาน ลองใช้เวลาเดินทางเพื่อคิดหรือบริหารธุรกิจดู ยกตัวอย่างเช่น จากที่เคยนั่งเล่น Candy Crush Saga ก็เปลี่ยนเป็นทำงานเล็กๆ น้อยๆ เช่น โพสต์บทความ ติดตามบริการหลังการขาย ตรวจสอบข้อมูลการส่งสินค้า คิดโปรโมชั่นให้คุ้มค่าคุ้มทุน เป็นต้น หรือบางวันจากที่เคยออกไปทานมื้อเที่ยงกับเพื่อนๆ ในออฟฟิศ ก็อาจจะนำข้าวกล่องมาทานและจัดการธุรกิจไปด้วยในตัว แม้จะเป็นเวลาเพียง 30-45 นาทีต่อวัน แต่นั่นคือการเดินหน้าทำตามสิ่งที่เราได้ฝันเอาไว้
สิ่งที่แย่ที่สุดคือเราพยายามหาข้ออ้างหรือข้อแก้ตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น “ฉันจะเริ่มต้นธุรกิจเมื่อมีเวลาว่างมากขึ้น” จนผ่านไป 6 เดือนก็ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรซักอย่าง นั่นจะทำให้คุณเสียเวลาที่จะทุ่มเทให้กับธุรกิจไปแล้วอย่างน้อย 180 ชั่วโมง
SME Thailand เพื่อนคู่คิด ธุรกิจเอสเอ็มอี
ติดตามข้อมูลดีๆ เพื่อ SME ได้ที่ www.smethailandclub.com