ทิ้งงานประจำมาเปิด “ท่านขุน” ร้านอาหารไทยสไตล์ ร.5 ที่ไม่พึ่งเครื่องปรุงรส แต่โดนใจลูกค้า
Text : Yosita T.
หลายคนก็คงมีความฝันอยากทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เหมือนกับ เบ็น สาโรจน์จิตติ ที่ลาออกจากงานประจำมาร่วมกับหุ้นส่วน ธีรภัทร มณีนพผล เปิดร้านอาหาร “ท่านขุน” ร้านอาหารไทยคอนเซปต์ครัวไทยสมัย ร.5 ที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ 100% ใครได้ลองต้องกลับไปกินซ้ำ
ยอมทิ้งงานประจำที่มั่นคงมาทำตามฝัน
ในชีวิตของเบ็นเขามีสิ่งที่ชื่นชอบที่สุดตั้งแต่เด็กคือการทำอาหาร แต่เมื่อเติบโตขึ้นก็ต้องทำงานประจำ แต่ความชอบทำอาหารและความฝันที่จะทำร้านอาหารของเขาก็ไม่ได้เลือนลางไปตามกาลเวลา เมื่อโอกาสที่จะได้เปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองมาถึง เขาไม่ลังเลเลยที่จะลาออกจากงานแล้วเลือกเส้นทางนี้ถึงแม้ว่าครอบครัวจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
“เราชอบทำอาหารตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่โตมาก็อยากลองไปทำงานประจำก่อนเป็นที่ปรึกษาการลงทุน การที่เราจะทำตามความฝันมันก็ยากเพราะแม่ก็อายุเยอะแล้ว เขาอยากให้เรามีงานที่มั่นคงซึ่งงานที่เราทำก็เป็นเซฟโซนแล้วในตอนนั้น แต่ตอนทำงานก็ได้มาเจอกับ ธีรภัทร คนที่เป็นหุ้นส่วนร้านกันตอนนี้ เราก็จะชวนกันไปกินอะไรเรื่อยๆ ไปพบปะเพื่อนๆ ทำอาหารกินกัน ซึ่งให้เราเป็นคนทำ พอมีความชอบเหมือนกันก็เลยลองคุยกันว่าจะเปิดร้านอาหาร เลยเป็นจุดเริ่มต้นของร้านท่านขุน เราตัดสินใจลาออกจากงานเลยทันทีแล้วค่อยบอกครอบครัวตอนที่ลาออกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งครอบครัวก็กังวลกับเรากลัวจะไปไม่รอด แต่เราเองก็คิดว่าถ้าไม่ทำตอนนี้ก็คงไม่มีโอกาสได้ทำอีกแล้ว”
ไม่ถนัดทำอาหารไทย แต่อยากเปิดร้านอาหารไทย
ในเริ่มแรกคอนเซปต์ของร้านที่เบ็นและหุ้นส่วนคิดไว้จะเป็นร้านเนื้อย่างสไตล์ยากินิกุขนาดใหญ่ เพราะเบ็นไม่ถนัดทำอาหารไทย แต่ได้เปลี่ยนมาเป็นร้านอาหารไทยเพราะเขาค้นพบว่าวัตถุดิบของไทยนั้นมีดีไม่แพ้ต่างประเทศ และใช้คอนเซปต์ร้านเป็นร้านอาหารไทยสมัยร.5 ที่เน้นวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยมาใช้ในการทำอาหาร ไม่มีสารเคมี และใช้เทคนิคเฉพาะที่ทำให้รสชาติอาหารออกมาจัดจ้านและโดนใจลูกค้าได้โดยไม่พึ่งเครื่องปรุงรสที่มีสารเคมี
“เราเป็นคนชอบทำอาหารแต่ไม่ถนัดอาหารไทย เราจะทำสไตล์อเมริกัน เกาหลี อิตาเลียน แต่ว่าชอบกินอาหารไทย แต่ก็มีช่วงที่เราออกไปหาอะไรกินแล้วก็ได้ค้นพบว่าสเต็กเนื้อ เนื้อไทย วัตถุดิบไทยมันดีมากไม่แพ้ต่างชาติเลย ก็เลยอยากลองทำดู เลยเปลี่ยนคอนเซปต์จากร้านยากินิกุกลายเป็นมาลองทำอาหารไทยที่ตัวเองไม่ถนัด แล้วเราจะใช้วัตถุดิบที่เป็น Local ทั้งหมด แล้วตามคอนเซปต์ร้านเราเหมือนยกครัวสมัยร.5 มาเลย เพราะในสมัยนั้นเขาจะไม่ใช่น้ำมันหอย ผงชูรส อะไรพวกนี้ ร้านเราก็คงคอนเซปต์เหมือนกันคือใช้วัตถุดิบมาจากธรรมชาติ100% แต่เราใช้เทคนิคในการผัด การทอด หรือเทคนิคการประกอบอาหารแบบโบราณตามแบบฉบับของร้านเราเอง เพื่อให้สีสันและรสชาติของอาหารออกมาเหมือนปรุงรสทั่วไปเลย”
ฟีตแบคจากลูกค้าทำให้ยิ่งมั่นใจในสิ่งที่ทำ
เพราะการลาออกจากงานที่มั่นคงทำให้ครอบครัวค่อนข้างกังวลกับเบ็นไม่น้อย เขาจึงต้องพิสูจน์ว่าการลาออกจากงานแล้วมาเปิดร้านอาหารเป็นสิ่งที่เขาเลือกถูกแล้ว ถึงแม้จะเจออุปสรรคอะไรระหว่างทางเขาก็พร้อมจะก้าวข้ามไปให้ได้ แต่เป็นเรื่องดีที่ลูกค้าให้ฟีดแบคที่ดีมาตลอด กลับมาทานอาหารซ้ำที่ร้านและยังพาลูกค้าใหม่ๆ มาทานเพิ่มอีกด้วย ทำให้เบ็นยิ่งมั่นใจในการตัดสินใจของตัวเองในครั้งนี้ว่ามาถูกทางแล้ว
“ตอนแรกๆ เลยเรายังมั่นใจแค่ 50% แต่เราโชคดีที่มีหุ้นส่วนคอยซัพพอร์ตกันอยู่ว่าสักวันมันต้องไปได้ดี เพราะเราตั้งใจและเต็มที่กับมันมาก แต่ตอนนี้มั่นใจ 100% แล้ว ต้องขอบคุณลูกค้าหลายคนที่ให้ฟีดแบคที่ดีกับเรา เลยทำให้รู้สึกมั่นใจว่าร้านเราเป็นร้านที่ลูกค้ามาแล้วเขามีความสุข เขาก็อยากจะบอกต่อคนอื่นๆ แล้วก็กลับมาอีก สิ่งนี้ทำให้รู้สึกว่าตัดสินใจไม่ยากเลยที่จะมายืนอยู่ตรงนี้ ตรงที่มีแต่คนเดินเข้ามาแล้วยิ้มให้เรา”
ทุกอย่างจะสำเร็จได้ต้องลงมือทำ
กว่าจะทำอาหารไทยให้ออกมาอร่อยและมีเอกลักษณ์แบบทุกวันนี้ได้ เบ็นต้องศึกษาและใช้ความตั้งใจอย่างมากกับการจะทำให้รสชาติอาหารออกมาถูกปากทุกคน เพราะเขาเลือกเส้นทางนี้แล้วก็ต้องไปให้สุดจะถอยไม่ได้
“เราเชื่อว่าทุกคนมีความฝันนะ อยู่ที่ว่าเราจะทำฝันนั้นให้เป็นจริงได้ไหม สำหรับเราฝันจะเป็นจริงได้ต้องลงมือทำเลย ทุกเรื่องก็ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้จนกว่าเราจะลงมือทำจนสำเร็จ เพราะฉะนั้นการลาออกจากงานไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยสำหรับเรา แต่การลาออกคือเครื่องเตือนใจว่าเราต้องตั้งใจกับเส้นทางที่เลือกให้มากต้องทำให้ดี”
FB : Tan Kun ท่านขุน
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup