เซเพลนท์ นมแพลนต์เบสจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ไอเดียของคนรุ่นใหม่ที่อยากกู้โลกด้วยวีแกน
Text : จีราวัฒน์ คงแก้ว
เมื่องานประจำไม่ตอบโจทย์ ไม่สนองจุดยืนในชีวิต ก็ถึงคราวลาออกจากมนุษย์เงินเดือน มาลองเป็นนายตัวเองดูสักตั้ง นี่คือเรื่องราวของ เพชร-สทาวีย์ โมรา สถาปนิกหนุ่มวัย 25 ปี ที่พึ่งเรียนจบและทำงานประจำมายังไม่ถึงปี หลังได้ดูสารคดีเกี่ยวกับวีแกน จุดประกายให้เขาอยากออกจากงานมาทำประโยชน์เพื่อโลกให้มากขึ้น จึงได้เปิดตัว เซเพลนท์(Saplents) นมแพลนต์เบสจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ (Cashew Milk) ไอเดียกู้โลกฉบับคนรุ่นใหม่ ที่เรื่องรวยเป็นเรื่องรอง แต่โลกต้องรอดก่อน
ลาออกมาเปลี่ยนโลก
ในวัย 20 ต้นๆ สทาวีย์ มีชีวิตที่หลายคนอยากมี เขาเรียนจบจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง สาขานวัตกรรมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ทำงานตรงสายในบริษัทที่ดี ทว่าชีวิตมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานเหมือนตกอยู่ในวังวน กลับไม่ตอบโจทย์คนอย่างเขา
“ผมเรียนจบมาได้ทำงานตรงสายเลยคือทำในบริษัทเกี่ยวกับการสร้างบ้านและคอนโด แต่ก่อนจะ Work from home ชีวิตผมมันวนเวียนมาก ตื่นเช้ามาทำงานกลับบ้าน ข้างในผมมันว่างเปล่า ไม่ตรงกับอุดมการณ์และจุดยืนของตัวเอง จนวันหนึ่งมีโอกาสดูสารคดีเกี่ยวกับวีแกน ผมเกิดความสนใจขึ้นมาทันที และรู้สึกอินมาก เพราะโดยส่วนตัวผมเป็นคนรักสัตว์อยู่แล้ว และไม่เคยคิดว่าสัตว์เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ และยังได้รู้อีกว่าการทานผักช่วยลดโลกร้อนได้ด้วย เพราะอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงมาก หลังจากดูสารคดีจบ ผมเกิดความรู้สึกอยากสร้างประโยชน์บางอย่างให้กับโลก และมองว่างานประจำไม่ตอบโจทย์ ตอนนั้นผมยังไม่ลาออกทันที แต่มาคิดว่าตัวผมเองจะสามารถเข้าไปช่วยเหลืออะไรเกี่ยวกับวีแกนได้บ้าง ซึ่งมันก็มีพวกงานอาสา งานประชาสัมพันธ์ ให้คนรู้ว่าวีแกนดีอย่างไร แพลนต์เบสดีอย่างไร ผมจึงเริ่มจากเปิดเพจให้ความรู้เกี่ยวกับแพลนต์เบสขึ้นมาก่อน โดยใช้ชื่อว่า Brocoboy (บร็อคโคบอย) ซึ่งมาจากบรอกโคลีนั่นแหล่ะ”
สถาปนิกหนุ่มไม่เพียงให้ความรู้แก่ผู้คน ทว่าเขายังปรับวิถีชีวิตของตัวเองจนกลายเป็นชาววีแกนโดนสมบูรณ์หลังจากนั้น
ต่อยอดอุดมการณ์สู่ผลิตภัณฑ์นมจากพืชเพื่อชาววีแกน
หลังจากก้าวสู่โลกของวีแกน เขาเกิดความคิดที่อยากจะสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเองขึ้นมา โดยเป็นอาหารจากพืช เขามุ่งความสนใจมาที่ “นมจากพืช” เนื่องจากเขาเองก็เป็นหนึ่งในเด็กที่แพ้นมวัว และต้องทานนมจากพืชเป็นทางเลือกอยู่แล้ว จนเมื่อประเทศไทยเริ่มมีนมแพลนต์เบสเข้ามาจำหน่ายมากขึ้น เช่น นมอัลมอนด์ นมพิตาชิโอ และสารพัดนมจากถั่วนำเข้าชนิดอื่นๆ เขาจึงเกิดแรงบันดาลใจที่อยากทำนมแพลนต์เบสสัญชาติไทย จากวัตถุดิบในท้องถิ่นไทยขึ้นมาบ้าง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนรักสุขภาพและรักษ์โลก ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้
“ผมเลือกใช้เม็ดมะม่วงหิมพานต์มาทำเป็นนม เพราะเป็นพืชที่หาได้ง่ายในประเทศไทย และมีความครีมมี่ รสชาติมันจะนัว มันๆ โดยเริ่มจากนำมาทดลองคั้นเป็นนมในห้องตัวเองก่อน จากนั้นเกิดความคิดที่อยากจะขายออนไลน์ เลยให้บริษัทวิจัยเอกชนช่วยพัฒนาสูตรให้ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถเก็บได้อย่างน้อย 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น”
ที่มาของนมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เก็บได้นาน 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น ด้วยเทคโนโลยีสเตอริไลซ์ (Sterilization) ภายใต้แบรนด์ Saplents (เซเพลนท์) ซึ่งมาจาก คำว่า Sapiens (Homo sapiens-มนุษย์) + Plants (พืช) นั่นเอง
นมเซเพลนท์ ไม่ได้มีแค่ส่วนผสมของเม็ดมะม่วงหิมพานต์เท่านั้น ทว่าเป็นนมโปรตีนจากพืช 3 อย่าง นั่นคือโปรตีนจากถั่วหิมพานต์ โปรตีนจากถั่วลันเตาสีทอง และโปรตีนจากถั่วเหลือง เพื่อทำให้ได้กรดอะมิโนที่หลากหลายขึ้น เพิ่มคุณค่าสู่สุขภาพของลูกค้า เริ่มต้นพัฒนาออกมา 2 สูตร คือรสดั้งเดิม และรสคาราเมล โดยวางแผนที่จะจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือชาววีแกน
สร้างแบรนด์ผ่านเรื่องเล่า Brocoboy
แม้จะมีเพจสุขภาพอยู่แล้วในชื่อ Brocoboy แต่เมื่อมาทำผลิตภัณฑ์ เขาเลือกที่จะเปิดเพจใหม่ในชื่อ Saplents.brand เพื่อแยกระหว่างเพจที่ให้ความรู้คน กับเพจที่ขายสินค้าออกจากกัน อย่างไรก็ตามระหว่างที่ทำ Brocoboy นั้น เขาได้สร้างมาสคอตของเพจขึ้นมาในชื่อ Brocoboy คาแรกเตอร์หนุ่มน้อย หัวเป็นบรอกโคลี ที่มีเรื่องเล่าของตัวเองตั้งแต่เกิดจนเข้าสู่โลกของวีแกน เมื่อมีแบรนด์ของตัวเองเขาจึงหยิบยกคาแรกเตอร์นี้มาสร้างแบรนดิ้งผ่านมาสคอต
“ถามว่าทำไมต้องเป็น Brocoboy ผมดีไซน์คาแรกเตอร์นี้มาจากบรอกโคลี และเรื่องราวของเขาคือเกิดในไร่บรอกโคลี ที่เลือกใช้เพราะเป็นผักที่เฮลตี้ และยังเป็นผักชนิดแรกๆ ที่ผมรู้สึกกินแล้วไม่เหม็นเขียว การใช้มาสคอตมาบอกเล่าแบรนด์เพราะผมอยากให้คนรู้จักแพลนต์เบสโดยที่ไม่น่าเบื่อ และมันยังตรงกับสิ่งที่ผมสามารถทำได้ด้วยคือการวาดรูป เลยเลือกใช้ตัวการ์ตูนมาสื่อสารแบรนด์ ซึ่งเราทำออกมาเป็นหนังสือการ์ตูนและใช้ในแพ็กเกจจิ้งของเราเองด้วย” เขาบอก
เมื่อถามถึงแผนและเป้าหมายในอนาคต เขาบอกตรงๆ ว่ายังไม่คิดไปไกลขนาดนั้น นาทีนี้เขาอยากรู้แค่ว่าแบรนด์จะขายได้ไหม แล้วจะต้องไปยังไงต่อ เลยขอก้าวไปทีละสเต็ปไม่ต้องฝันไกลไปกว่านี้
“ตอนนี้ผมคิดแค่นี้จริงๆ ผมอยากรู้ว่ามันจะขายได้ไหม แล้วเราจะต้องไปยังไงต่อ ผมอยากให้แบรนด์ของเราสร้างความตระหนักถึงปัญหาของสิ่งแวดล้อม และให้ผู้คนมีความเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมโลกกันมากขึ้น ผ่านแนวคิดของตัว Brocoboy ที่เราพัฒนาขึ้น เบื้องต้นผมต้องการแค่นี้”
เติบโตคู่เทรนด์แพลนต์เบสไทย
เมื่อถามถึงมุมมองที่มีต่อตลาดแพลนต์เบสในเมืองไทย เขาสะท้อนผ่านมุมมองของคนที่เริ่มกินนมจากพืชมาตั้งแต่สมัยเรียน จากที่มีนมอยู่แค่ไม่กี่ชนิด ไม่กี่แบรนด์ วันนี้จะเห็นได้ว่า มีนมจากสารพัดพืชเข้ามาในตลาดกันเยอะมาก รวมถึงผลิตภัณฑ์แพลนต์เบสอื่นๆ ถึงขนาดที่บางห้างฯ แบ่งเป็นโซนอาหารสำหรับชาววีแกนด้วยซ้ำ หลายคนอาจมองว่านี่คือสัญญานของการแข่งขัน ทว่าเด็กหนุ่มบอกเราว่าสำหรับเขามันคือ “โอกาส”
“หลังจากสถานการณ์โควิด ผมรู้สึกว่าคนหันมาสนใจแพลนต์เบสกันเยอะขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะเขาเริ่มรู้แล้วว่า ปศุสัตว์เป็นต้นเหตุของโรคระบาด ทำให้มีคนเข้ามาในตลาดนี้มากขึ้น ซึ่งการที่ผู้เล่นเยอะ ผมมองว่า มันมีดีมานด์ มีความต้องการเยอะขึ้น ซึ่งนั่นสะท้อนถึงโอกาสของเราด้วย” เขาบอก
การเข้าสู่ถนนของคนทำธุรกิจ เขาบอกว่ายอมรับได้หากสุดท้ายสิ่งที่ทำจะไม่ซัคเซส ต้องขาดทุน หรือไม่มีคนสนับสนุน เพราะเชื่อว่าการทำเพื่อโลกนั้นยังมีอีกหลายหนทาง ถ้าทำธุรกิจแล้วเจ๊ง เขาก็อาจเลือกไปทำงานช่วยโลกในหน่วยงานอื่นแทนก็ได้ เพราะเป้าหมายของเขามีแค่ ก่อนสิ้นลมหายใจขอให้ได้ใช้ชีวิตเพื่อทำประโยชน์ให้โลกบ้าง
“ถ้าไม่เวิร์คจริงๆ ผมก็แค่หางานที่เกี่ยวกับอุดมการณ์ของเรา ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นธุรกิจก็ได้ เพียงแต่ว่าผมอยากให้เป็นธุรกิจ เพราะสามารถทำเองได้ ได้ออกแบบธุรกิจของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องทำตามใคร ผมไม่รู้นะว่าคนอื่นคิดยังไง และผมไม่ได้มองว่าเพราะเป็นเด็กยุคใหม่เลยคิดแบบนี้ ผมมองว่ามันขึ้นกับแต่ละคนมากกว่า ผมแค่คิดว่า สำหรับผมเงินไม่ได้สำคัญที่สุด แต่ผมอยากใช้เวลาที่เหลือทำประโยชน์ให้มากที่สุด ก่อนที่จะหมดเวลาบนโลกนี้” เขาบอกไว้แค่นั้น
และนี่คือวิชันของเด็กรุ่นใหม่ ที่ไม่ได้ใช้ธุรกิจเพื่อสั่งสมความร่ำรวยเพื่อตัวเอง แต่เป็นอีกโมเดลในการช่วยโลกให้อยู่รอด
อยากรู้จักแบรนด์น้องใหม่จากฝีมือของคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น พบกับพวกเขาได้ที่งาน PLANT BASED Festival 2022 มหกรรมอาหารแห่งอนาคต ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9-10 กันยายนนี้ ณ สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์ ชั้น 5
Saplents
FB : Saplents.brand
Brocoboy
FB : BrocoboyTH
IG : brocoboy.official
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup