Starting a Business

"A Park" เมื่อดอกไม้ X คาเฟ่ กลยุทธ์สุด Win-Win ช่วยกระตุ้นยอดขาย จับมือกันสร้างรายได้ให้ปัง

 

Text : rujrada.w

     ตอนนี้เป็นยุคที่ธุรกิจที่ธุรกิจร้านดอกไม้กำลังบานสะพรั่งเพราะซัมเมอร์ปีนี้เราได้เริ่มออกไปเที่ยวเล่นอีกครั้งหลังโควิด ด้วยบรรยากาศแบบนี้ ปลา-ฐิติพร ชื่นชนม์ และ พลอย-ภัณฑิลา คล้ายกูล จึงลุกขึ้นมาทำร้านดอกไม้เล็กๆ ที่คนรักดอกไม้สามารถซื้อให้ตัวเอง มอบให้เพื่อนหรือคนรักได้ในทุกๆ วัน

 

 

  • เริ่มต้นที่ดอกไม้

     ความตั้งใจของปลาและพลอยไม่ใช่ร้านดอกไม้แต่วางแผนจะทำ selected shop ในชื่อแบรนด์ A PARK ให้เป็น friendly brand ที่สนับสนุน SME ไทยหรือผู้ประกอบการไทยที่ทำโปรดักต์ด้านแฟชั่นหรือข้าวของเครื่องใช้ โดยเริ่มต้นที่ดอกไม้เป็นโปรดักต์แรกจากความชอบของพลอย ซึ่งปลาก็เห็นด้วย

     “เราเริ่มจากลองมองว่าใน A PARK จะเห็นอะไรได้บ้าง ก็นี่ล่ะเราชอบดอกไม้แล้วก็เป็นสิ่งที่เฟรนด์ลี่ที่สุดที่คนจะเข้าถึงได้ง่าย เราอยากให้ดอกไม้เข้าถึงง่ายกว่าการที่จะต้องมีใครซื้อให้ ต้องมีเทศกาล มีวาเลนไทน์ มีรับปริญญาเราถึงจะซื้อ ทั้งที่จริงแล้วดอกไม้เราสามารถซื้อได้ทุกวัน ซื้อได้ทุกอาทิตย์มาใส่ในห้อง ไม่จำเป็นต้องซื้อให้ใคร คุณซื้อให้ตัวเองก็ได้”

     พลอยบอกว่าทั้งสองคนเป็นคนคลั่งแพ็คเกจจึงใช้ความชอบด้านนี้มาสร้างความแตกต่างให้แบรนด์ ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าช่อดอกไม้ของ A PARK จะไม่เหมือนกับร้านอื่นๆ ที่ห่อช่อใหญ่ต้องมีกระดาษเพื่อความสวยงาม แต่ A PARK จัดแพ็คเกจเรียบง่ายและคิดไว้อย่างรอบด้าน เพื่อให้คนจำว่า A PARK สนุก เฟรนด์ลี่ และเข้าถึงง่าย

     “จริงๆ ใครจะเปิดร้านดอกไม้ก็ได้แต่เราจะทำอย่างไรให้แตกต่าง ถ้าลูกค้าซื้อดอกไม้ไปแล้วได้อะไรจากเราบ้าง พลอยเลยคิดว่าเราทำเป็นกระเป๋าไหม ซึ่งกระเป๋าอันนี้สามารถเอาไปรียูสได้ ดอกไม้ที่ซื้อไปสามารถเอาไปใส่ในแจกันในห้องของคุณได้ อีกอย่างหนึ่งคือช่วงนี้กระแสโซเชียลมีเดียอย่าง Tiktok, Instagram มาแรงมาก คนอยากถ่ายรูปเพื่ออัพเดต ก็เลยคิดว่าถ้าเราจะออกโปรดักต์อะไร โปรดักต์นั้นต้องทำคอนเทนต์ได้ด้วยเหมือนกัน”

 

 

  • ร้านดอกไม้ของคนคลั่งแพ็คเกจจิง

     A PARK เปิดตัวในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแต่ร้านมีคนรู้จักอย่างรวดเร็วจากการเปิด pop-up store ในคาเฟ่ต่างๆ โดยเริ่มที่ Hint Coffee คาเฟ่แนวเกาหลีย่านฝั่งธนที่พลอยเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนอยู่ แล้วต่อด้วย Knock Knock Cafe & Bar ย่านอารีย์

     “ทุกคาเฟ่ที่เราไปทำ pop-up store แปลว่าเราต้องเคยไปมาแล้วเราถึงจะชอบ มีความประทับใจบางอย่างกับเขาอยู่แล้วและเราพยายามให้มันแตกต่างกัน อันแรกเป็น hint coffee มีความมินิมอล คลีนๆ ลูกค้า Hint Coffee มักจะเป็นคนสดใสร่าเริง เดินถือดอกไม้เดินเล่นไปมา ซึ่ง mood & tone ของ knock knock ค่อนข้างแตกต่างออกไปเป็นแนววิจเทจ โทนสีเขียวแดง มีดนตรีสดตอนกลางคืนด้วย ดังนั้นลักษณะการให้ดอกไม้จะต่างกันออกไป พอมันแตกต่างกันปุ๊บมันเหมือนเป็นชาเลนจ์ของเราด้วยว่าจะเลือกดอกไม้อะไรให้เข้ากับร้านของเขา และด้วยความที่ร้านเล็กมากเราก็เลยคิดแพ็คเกจที่เล็กกะทัดรัด ให้กล้าให้บนโต๊ะอาหารเล็กๆ ของ knock knock ได้ เช่น เป็นการ์ดที่เอาไว้เสียบดอกไม้แล้วเขียนได้ และคิดว่าถ้าเราไป pop-up ในที่ต่างๆ เราอยากจะทำแพ็คเกจจิงใหม่ทุกครั้ง”

 

 

  • A Park’s Friends

     แน่นอนว่าไอเดียพวกนี้เกิดจากความสนุก แต่อีกแง่หนึ่งมันคือการทำการตลาดแบบ collaboration ที่เกื้อหนุนกันระหว่างแบรนด์ที่พวกเธอนิยามว่า A PARK’s friends

     “พอเรามี A PARK Friends เวลาทำงานเราไม่ได้เหมือนทำกัน 2 คน การทำ pop-up store ทำให้เรามี community ใหม่ขึ้นมา เราก็สนุกที่ได้เชื่อมสัมพันธ์เชื่อมไมตรีกับคนอื่นๆ ถ้าเราทำ pop-up store ที่คาเฟ่เขาก็จะได้ทราฟิกจากเรา ส่วนเราก็ได้ลูกค้าที่เขามีมาอยู่แล้วด้วย ทำให้เรามีโอกาสทำมาร์เกตติงให้เขา ขณะที่เขาเองก็ทำมาร์เกตติ้งให้เรา มันตรงกับคอนเซ็ปต์ที่เราต้องการเป็น friendly brand ที่เราดีขึ้น คุณก็ต้องดีขึ้น” ปลาบอกถึงวิธีคิดของพวกเธอ

 

 

     หลังจากที่ทำเป็น pop-up store และเปิดให้สั่งซื้อทางไลน์ @apark มาได้แค่ 2 เดือน ก็มีเสียงเรียกร้องจากลูกค้าให้ทำหน้าร้านจริงจังเสียที วันนี้จึงมีหน้าร้านเล็กๆ เรียกว่า A PARK surrounding shop ขึ้นมาที่ชั้นบนของ Hint Coffee โดยที่ยังทำ pop-up store ในคาเฟ่ย่านต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไปในทุกเดือน

     “พลอยเชื่อว่าถ้าเราเริ่มจากความชอบอย่างไรมันก็จะสนุกแน่ๆ ดอกไม้คือแพสชั่น มากกว่านั้นคือเราชอบแพ็คเกจจิง เราชอบมาร์เก็ตติง เราชอบคอนเทนต์ เราก็จะดึงทุกอย่างที่เราชอบออกมาใน A PARK ให้หมดเลย”

 

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup