Starting a Business

บล็อกเกอร์สายเที่ยวมาสร้าง “บ้านไร่นายรุ่ง” กลายเป็นแลนด์มาร์กสุดฮอตเมืองกาญฯ ที่ห้ามพลาด

     จะดีไหม ถ้าหากคุณได้ท่องเที่ยว ได้กินอาหารอร่อยๆ แถมยังทำรายได้จากสิ่งนี้ได้ด้วย! เรากำลังพูดถึงอาชีพในฝันของใครหลายคนนั่นคือบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว ที่พวกเขาเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ แล้วนำกลับมารีวิวให้แฟนเพจได้ตามรอย โดยเราจะพาคุณไปรู้จักกับหนึ่งในบล็อกเกอร์สายเที่ยวตัวท็อปของจังหวัดกาญจนบุรีที่บุกเบิก Facebook Page ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีสไตล์ฮิปๆ จนมีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน “พีม - วงชกร รัศมีธนาธร” เจ้าของเพจ รีวิวกาญจนบุรี ที่นอกจากจะมีบทบาทเป็นบล็อกเกอร์สายเที่ยวแล้วเขายังช่วยธุรกิจที่บ้านพร้อมกับสร้างแลนด์มาร์กใหม่ล่าสุดของเมืองกาญฯ ที่มีคนรีวิวเยอะสุดๆ กับ “บ้านไร่นายรุ่ง”

 

 

     โดยพีมเล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นว่าเขาได้เริ่มทำเพจแรกชื่อว่า Peemwong Journey ตั้งแต่สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย ด้วยความที่เขาชอบท่องเที่ยวและถ่ายรูปเป็นทุนเดิม พอหลังจากเรียนจบก็ได้เริ่มต้นการเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ให้แก่เพจท่องเที่ยวต่างๆ แต่ตอนนั้นเขายังไม่ได้เป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวจริงจัง จนในที่สุดก็ได้กลับมาช่วยธุรกิจที่บ้าน ณ จังหวัดกาญจนบุรี

     “เราชอบถ่ายภาพ ปกติก็ชอบเที่ยวอยู่แล้ว ตอนแรกก็มีเพจ Peemwong Journey ทำตั้งแต่เรียนมหาลัยฯ จนจบก็เป็นฟรีแลนซ์อยู่ 2 ปีแล้วก็กลับมาอยู่กาญจนบุรี ช่วยธุรกิจที่บ้าน ตอนนั้นเราคิดว่ากาญจนบุรียังไม่มีเพจในสไตล์ที่เราชอบเลย เราอยากให้กาญฯ มีสื่อสไตล์นี้เพื่อให้คนรู้จักกาญฯ มากขึ้น ความตั้งใจแรกไม่ได้กะว่าจะทำเพื่อหารายได้เลย เรารู้แค่ว่าเพจสไตล์ไหนที่คนจะชอบ เราควรดึงดูดด้วยอะไร เราเลยลองทำดูแล้วผลตอบรับมาก็มาเรื่อยๆ ที่ทำตอนแรกก็ไม่คิดเลยว่าจะมาถึงจุดนี้” เขาเล่าถึงที่มาที่ไป

 

 

     สำหรับจุดเด่นของเพจรีวิวกาญจนบุรีที่ทำให้มีคนติดตามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถสร้างรายได้จนกลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพของพีมนั่นคือการที่เขาดึงดูดผู้อ่านด้วยรูปภาพที่มีความสวยงาม ดูแล้วอยากไปตามรอย นอกจากนี้การทำคอนเทนต์ต้องบอกรายละเอียดที่คนอ่านต้องการให้ครบ มีความสม่ำเสมอ ก็สามารถทำเพจของคุณเติบโตได้เช่นกัน

     “เพจผมจะเน้นการนำเสนอด้วยภาพสวยก่อนแล้วหนึ่ง รูปภาพจะเล่าเรื่อง มีสตอรี่ในการทำรีวิว เราจะเล่าจุดต่างๆ ส่วนการเขียนเราจะมีการบอกรายละเอียดให้ครบ มีพิกัด ภาพของเราก็จะเป็นสไตล์ที่ดูวัยรุ่น ตอนนี้มีเพจเกิดขึ้นใหม่เยอะมาก ที่สำคัญคือพีมว่าเราต้องขยัน มีคอนเทนต์ลงเรื่อยๆ แล้วก็ยังต้องคงสไตล์ของเราเอาไว้ให้คนเห็น มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจ”

 

 

     ภายใต้ภาพสวยๆ ของเพจ การรีวิวที่ดูมืออาชีพ คอนเทนต์ที่น่าสนใจของเพจรีวิวกาญจนบุรี แต่ใครจะรู้ว่าทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นโดยมือของพีมแต่เพียงผู้เดียว ทั้งถ่ายรูป แต่งรูป ทำคอนเทนต์ อีกทั้งยังต้องช่วยธุรกิจที่บ้าน เขาเล่าถึงวิธีจัดการเวลาของตัวเองให้ฟัง

     “เพจรีวิวกาญจนบุรี พีมทำคนเดียว คนอาจจะคิดว่ามีทีมงานหรือเปล่า แต่จริงๆ เราทำคนเดียว พีมถ่ายเสร็จ กลับมาแต่งรูป เขียนคอนเทนต์ ส่วนช่วงกลางวันเราจะทำงานที่บ้าน บางวันอาจจะมีออกไปถ่ายรีวิวก็ออกไปช่วงกลางวันและกลับมาทำคอนเทนต์ช่วงกลางคืน ถ้าทำจริงๆ จังๆ 2-3 ชั่วโมงต่อ 1 คอนเทนต์ พยายามที่จะจัดสรรเวลาและคุยกับลูกค้า ว่าถ่ายวันนี้จะมีคิวลงวันไหน”

     ด้วยความที่พีมสั่งสมประสบการณ์ท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน จนล่าสุดเขาได้บุกเบิกสถานที่ท่องเที่ยว โดยใช้มุมมองของนักท่องเที่ยวที่สั่งสมมาทำให้เขารู้ว่าคนต้องการอะไร กลายเป็นแลนด์มาร์กยอดฮิตของอำเภอด่านมะขามกับ “บ้านไร่นายรุ่ง”

 

 

     เขาเล่าว่าพื้นที่นี่เป็นที่ของครอบครัวและน้องชายของเขาต้องการจะมาทำฟาร์มเพราะอยากมีบ้านไร่ของตัวเอง ทำให้มีการลงมือปรับพื้นที่ ปลูกดอกไม้เพื่อปรับพื้นที่และความสวยงาม จนเขามองเห็นศักยภาพว่าน่าจะพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้

     “เกิดขึ้นประมาณ ปีที่แล้ว ตอนแรกเป็นที่ของคุณพ่อที่ปลูกอ้อยไว้ ไม่ได้ทำอะไร น้องชายอยากมาทำฟาร์ม อยากมีบ้านไร่ของตัวเอง เขาก็ทำในส่วนข้างหลัง แล้วมีโซนข้างหน้าที่เหลือ ตอนแรกคุณพ่อปลูกเป็นปอเทืองเพื่อปรับพื้นดิน มันก็ขึ้นสวยงาม จนจบปอเทืองก็ปลูกดอกทานตะวัน ลงปุ้ปใช้เวลา 2 เดือนก็ขึ้นสม่ำเสมอ ดินมันดี ตอนนั้นเลยคิดว่าเปิดให้คนมาเที่ยวไหม เราเลยทำเพจบ้านไร่นายรุ่ง ด้วยความที่อำเภอด่านมะขาม จริงๆ มันใกล้ตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร แต่คนมาเที่ยวกาญฯ จะไม่นึกถึง ไม่รู้มาแล้วจะทำอะไร เราเลยคิดว่าถ้าอำเภอนี้มีแหล่งท่องเที่ยวก็น่าจะดี ตอนแรกก็กลัวว่าคนจะไม่มา อย่างน้อยก็อาจจะมีคนเมืองกาญฯ บ้าง แต่พอเราลองทำเพจ โพสต์ไป ปรากฎว่าคนสนใจเยอะ”

 

 

     มีสถานที่ท่องเที่ยว มีดอกไม้ มีคนให้ความสนใจแล้ว สิ่งต่อมาที่พีมคิดคือต้องมีมุมถ่ายรูป ทำให้เขาเสกมุมถ่ายรูปภายใน 2 อาทิตย์ โปรโมตออกไปพร้อมกับช่วงดอกทานตะวันบานที่ลพบุรีพอดี ยิ่งทวีความสนใจให้คนมากขึ้น กลายเป็นทุ่งดอกทานตะวันของจังหวัดกาญจนบุรี ใครที่แพลนมาเที่ยวก็สามารถมาถ่ายรูปกับดอกทานตะวันได้โดยไม่ต้องไปลพบุรี

     “เราจัดมุมถ่ายรูปภายใน 2 อาทิตย์ แล้วก็เริ่มโปรโมต ข้อได้เปรียบคือเรามีสื่อในมือด้วย อย่าง รีวิวกาญจนบุรี พอเราโพสต์ก็ได้ความช่วยเหลือจากบล็อกเกอร์หลายๆ คน ที่เรารู้จัก ประจวบเหมาะช่วงนั้นพอดีกับดอกทานตะวันบานที่ลพบุรีพอดี มันเลยกลายเป็นกระแสที่คนรู้จักตั้งแต่ครั้งแรกเลย”

 

 

     โดยการเปิดบ้านไร่นายรุ่งรอบล่าสุดนั้นได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เฉลี่ยผู้เข้าชมจากที่เปิดประมาณ 1 เดือนอยู่ที่ 3 หมื่นคนเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากความสวยงามจากดอกทานตะวันแล้ว บ้านไร่นายรุ่งยังดึงดูดด้วยมุมถ่ายรูปสไตล์ญี่ปุ่น ที่พีมได้คิดจากมุมของคนถ่ายรูปว่าควรถ่ายมุมไหน ต้องยืนตรงไหน ทำให้รูปที่ออกมา ถ่ายด้วยโทรศัพท์ธรรมดาก็สวยได้

     “เราจะมีพร้อพต่างๆ ให้ถ่ายรูป พีมชอบไปนู่นนี่ก็จะรู้ว่าตรงนี้ควรเป็นมุมยังไง ตรงไหนถ่ายรูปยังไง เราก็จัดพร้อพ เราไม่ใช่แค่สวนดอกไม้ที่คนมาชมดอกไม้ แต่เรามีพร้อพ มีสตอรี่เมื่อเข้ามาในสวน พีมจะพยายามจัดมุมก่อนวางพร้อพ ดูก่อนเลยว่าตรงนี้ คนที่เขาถ่ายด้วยกล้องมือถือ ถ่ายมุมนี้จะสวยมั้ย พีมจะดูมุมให้เลย คนถ่ายต้องยืนสูงแค่ไหน มีจุดสำหรับคนยืนถ่ายให้ด้วย”

 

 

     พีมได้ปิดท้ายสำหรับหลายคนที่มีความฝันอยากเป็นบล็อเกอร์สายเที่ยวหรืออยากกลับบ้านเกิดไปพัฒนาพื้นที่ให้เป็นที่ท่องเที่ยว

     “ถ้าสมมติใครที่อยากมาแนวนี้เลย ต้องขยัน ต้องดูคอนเทนต์ ถ้าคอนเทนต์น่าสนใจ ยังไงก็เกิด อย่าเพิ่งท้อในการทำ ช่วงนี้คือเพจเกิดใหม่เยอะมาก ถ้าเราขยันและคิดว่าจะกลายเป็นอาชีพได้สักวันหนึ่งก็อย่าเพิ่งท้อ อาจจะต้องใช้เวลา กว่าพีมจะมาทำจนสร้างรายได้ก็ 2 ปีเลย ส่วนเรื่องบ้านไร่นายรุ่ง พีมมองว่าถ้าใครอยากทำและคิดว่าทำได้ ต้องดูว่าเราทำได้ต่างจากที่อื่น มีจุดเด่นยังไง กลุ่มลูกค้าเป็นใคร มองคนในพื้นที่ก่อนว่าเขาอยากเที่ยวแบบไหน เราดึงดูดคนในพื้นที่ก่อน ก็จะเป็นการบอกต่อกันไป อยากทำก็เริ่มเลย ไม่เสียหายใดๆ” เขาปิดท้าย

 

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup