เมื่อความวุ่นวายของกรุงเทพฯ นั้นทำให้ใครหลายคนหมดไฟและค่อยๆ ถูกกลืนกินความฝันไปด้วยภาระหน้าที่การงาน การแข่งขัน หลายคนจึงต้องทิ้งความฝันไปเพราะไม่กล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone แต่มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กล้าที่จะก้าวออกจากงานประจำและกลับมาทำตามความฝันที่บ้านเกิด ณ จังหวัดอยุธยา เกิดเป็นร้าน Homeboy คาเฟ่สุดเท่ใจกลางเมืองที่มาพร้อมกับบริการล้างฟิล์มร้านเดียวในจังหวัด! 

     กฤตนัย คล้ายทิม, ทัศน์พล ภู่วพงษ์ศิริและราชสกุล ศรีสมาน 3 หนุ่มแห่งร้าน Homeboy ที่หยิบความคำว่า “Homeboy” มาใช้เพราะอยากสื่อถึงความเป็นเด็กในพื้นที่และยังให้ความรู้สึกถึงความผูกพันของแก๊งเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันจนมาสานฝันกลายเป็นร้านกาแฟยอดฮิตแห่งหนึ่งของจังหวัด

     “Homeboy เราชอบคำนี้ มันแปลว่าเด็กพื้นที่ ผมรู้สึกว่ามันอบอุ่นดี ชอบคำว่า Home อยู่แล้ว ฟีลแบบกลับมาทำอะไรที่บ้าน อีกอย่างมีพี่ที่รู้จักบอกว่าจริงๆ คำนี้มันแปลว่าเพื่อนที่โตมาด้วยกัน ซึ่งมันก็คือพวกเรา” กฤตนัยเล่าให้ฟังถึงที่มาของชื่อร้าน

 

 

     โดยกฤตนัยเล่าให้ฟังต่อว่าก่อนหน้านี้พวกเขาแต่ละคนทำงานประจำที่กรุงเทพฯ เหมือนเป็นการแยกย้ายกันไปเติบโตและในระหว่างทางพวกเขาก็มาแชร์ความฝันในการเปิดร้านกาแฟ จนในที่สุดแต่ละคนก็ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อกลับมาทำความฝันให้เป็นจริง 

     “เราสามคนทำงานประจำที่กรุงเทพฯ กันหมด แล้วในมีช่วงที่เราเริ่มเบื่องานประจำที่กรุงเทพฯ อยากกลับมาทำอะไรที่บ้าน วันนั้นกินเบียร์กันแล้วไอซ์ (ทัศน์พล) ก็ชวนผม ผมอยากเปิดร้านกาแฟอยู่แล้ว เราก็ชอบเล่นกล้องฟิล์มด้วย เลยเห็นว่าอยุธยายังไม่มีร้านรับล้างฟิล์ม เราอยากเปิดร้านล้างฟิล์มด้วย ก็ชวนกัน ตกลงกัน 3 คน”

     หลังจากที่ตัดสินใจว่าจะกลับบ้านมาเปิดร้านกาแฟ ทั้ง 3 คนก็วางแผนอนาคตด้วยการเริ่มต้นเรียนรู้การทำกาแฟอย่างจริงจัง รวมถึงการเรียนล้างฟิล์ม ในช่วงแรกยังทำควบคู่ไปกับการทำงานประจำ จนกระทั่งลาออกก็หันมาทำอย่างเต็มตัวทั้งเรียนทำกาแฟ ไปเสาะหาเมล็ดกาแฟคุณภาพดีจากเชียงใหม่ เริ่มต้นออกแบบร้าน ก่อสร้าง จน Homeboy เป็นรูปเป็นร่างในที่สุด

 

 

     จุดเด่นของร้าน homeboy นั่นคือเรื่องของ Lifestyle ทั้ง 3 คนที่หยิบเอาความชอบ แพสชั่น มาใส่เอาไว้ในร้านทั้งการดีไซน์ร้านที่จะมีความเท่ในแบบของตัวเองตั้งแต่ทางเข้าร้าน จนถึงการเอาความหลงใหลเรื่องกล้องฟิล์มมาไว้ในร้าน ที่สำคัญกาแฟที่นี่ยังคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพ เกิดเป็นเมนูที่หลากหลาย ไม่ได้ตอบโจทย์แค่ชาว Cafe Hopper แต่ยังเป็นที่รักของ Coffee Lover ด้วย 

     “Homeboy เป็นร้านที่โชว์ไลฟ์สไตล์ของพวกเรา ที่มีความเป็นวัยรุ่น อีกอย่างจุดเด่นของร้านเราที่ในอยุธยายังไม่มีคือกาแฟ Nitro ร้านเราเป็นร้านเดียวที่มี ส่วนร้านล้างฟิล์มก็เป็นร้านเดียวในอยุธยาเหมือนกัน นอกจากนี้เรายังมีจุดถ่ายรูปในร้าน มุมต่างๆ”

     แม้ทุกอย่างจะดูราบรื่นแต่ความเป็นจริงพวกเขาเจออุปสรรคหลายช่วงตั้งแต่เปิดร้าน ทั้งช่วงล็อกดาวน์ ขาดนักท่องเที่ยว จนถึงช่วงที่อยุธยาน้ำท่วม สิ่งที่เขาทำเพื่อปรับตัวคือการนำ Homeboy ไปอยู่บนออนไลน์มากขึ้นเพื่อสะดวกต่อการที่ลูกค้าออเดอร์ โดยมีการเปิดรับออเดอร์ทั้งจากไลน์แมน เดลิเวอรีเองบริเวณใกล้ๆ ตลอดจนทำกาแฟบรรจุขวดพร้อมดื่มเพื่อขายลูกค้าต่างจังหวัด 

 

 

     “มันมีช่วงที่คนมาที่ร้านน้อยลง แต่เรายังมีค่าใช้จ่ายอยู่ เราก็ต้องเปิดต่อ เลยหาช่องทางการขายเพิ่มขึ้น ตอนนั้นเราทั้งส่งเองในเมือง มีทำไลน์แมน มีทำกาแฟบรรจุขวด จังหวัดอื่นๆ เราก็ส่ง ช่วงนั้นต้องเน้นขายออนไลน์ไป”

     โดยกฤตนัยได้ปิดท้ายสำหรับการก้าวออกมาจาก Comfort Zone เพื่อตามความฝัน แม้หลายคนจะมองว่าเสี่ยงหรือไม่มั่นคง แต่สำหรับตัวเขานี่คือโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง

     “สำหรับความคิดของผม เรารู้สึกว่าเราอยู่ใน Comfort Zone มาเยอะ แล้วสิ่งที่ไม่โอเคคือการที่เราไม่มีความสุขกับการทำงาน ก็ลองบอกที่บ้านว่าไม่ไหวแล้ว แต่เขาก็คิดว่าออกมามันไม่มั่นคง อย่างน้อยทำงานไปก่อนก็มีกินทุกเดือน ส่วนเราก็คิดว่าทำไมชีวิตมันแย่ขนาดนั้น เราอยู่แค่ใช้ชีวิตไปให้พอกินทุกวัน ไม่มีความสุข ทำไมเราไม่มีสิทธิ์มีความสุขเลย เราเลยคิดว่าถ้าไม่มีความสุข แล้วจะอยู่แบบนั้นไปทำไม เราอยากออกมาทำอะไรสักครั้งในชีวิต เราเองก็เริ่มโตขึ้น ถ้าเราอายุ 30 แล้วทำงานที่ไม่มีความสุขมาหลายต่อหลายปี ก็รู้สึกว่าตัวเองห่วยอ่ะ เลยตัดสินใจออกมา คิดแค่ว่าแม้มันจะดี หรือไม่ดี แต่อย่างน้อยผมได้ลองทำ ได้ใช้ชีวิตของเรา”

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup