Starting a Business

Little Merlion ร้านอาหารสิงคโปร์ในแดนปลาดิบ ธุรกิจใหม่ของคนตกงานที่ฮึดสู้จนรายได้ดี

 

Text : Vim Vipa

     ญี่ปุ่นอาจจะเป็นประเทศที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมในเรื่องวิถีการบริโภค ถึงกระนั้นก็ยังเปิดใจให้กับอาหารนานาประเทศ และอาหารต่างชาติที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ก็เห็นจะเป็นอาหารอิตาเลี่ยน ว่ากันว่าเฉพาะในโตเกียว จำนวนร้านอาหารอิตาเลียนมีมากกว่าในนิวยอร์กด้วยซ้ำ ส่วนอาหารเอเชีย ที่ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคยก็เห็นจะเป็นอาหารจีน เกาหลี และไทย ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ชาวโตเกียวก็ได้ต้อนรับร้านอาหารเปิดใหม่ชื่อ “Little Merlion” ที่ให้บริการอาหารต้นตำรับจากสิงคโปร์

     ร้านดังกล่าวเป็นของสองสามีภรรยา มาร์ค นามิกิ หนุ่มลูกครึ่งวัย 36 ปีกับเมลิสสา ยัป ภรรยาชาวสิงคโปร์ มาร์คเล่าว่าเขามีคุณพ่อเป็นชาวญี่ปุน และคุณแม่ชาวมาเลเซีย แต่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ที่สิงคโปร์ตั้งแต่มาร์คอายุเพียงขวบเดียว หลังเรียนจบมาร์คทำงานในแวดวงโรงแรม และได้เจอกับเมลิสสาที่ทำงานโรงแรมเช่นกัน ก่อนตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน และย้ายมาอาศัยที่ญี่ปุ่น โดยมาร์คได้งานเป็นผู้จัดการโฮสเทลแห่งหนึ่ง





     ทั้งคู่มีลูกสาววัย 2 ขวบและใช้ชีวิตที่โตเกียวนานเกือบ 4 ปีจนกระทั่งเกิดวิกฤติโควิด-19 โฮสเทลที่มาร์คทำงานปิดตัวลง เขากลายเป็นคนตกงานทันที ในฐานะหัวหน้าครอบครัว ระหว่างที่ชั่งใจว่าจะกลับไปสิงคโปร์หรือจะอยู่ที่ญี่ปุ่นต่อ มาร์คก็นึกถึงความฝันของเขาที่เคยอยากเผยแพร่วัฒนธรรมและอาหารสิงคโปร์ให้คนญี่ปุ่นได้รู้จัก เขาจึงปรึกษากับภรรยา  

     แม้จะไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจร้านอาหาร แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจจะลุยธุรกิจนี้ “การทำธุรกิจครั้งนี้ถ้าไม่รุ่งก็คือร่วง แต่เราอาศัยความเชื่อในสัญชาตญาณล้วนๆ ในย่านอาดาจิ ไม่มีร้านอาหารสิงคโปร์หรือมาเลย์เลย มีร้านเราร้านเดียวที่มาเปิด เราหวังว่าคนญี่ปุ่นจะยอมรับในรสชาติของอาหารสิงคโปร์ ส่วนตัวเชื่อมั่นในคุณภาพของอาหาร และการบริการ”





     หลังจากได้สินเชื่อจากธนาคารกว่า 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือ 2.5 ล้านกว่าบาท และหาทำเลได้ ใช้เวลาเพียง 3 เดือน Little Merlion ก็พร้อมเปิดบริการเมื่อเดือนธค. 2020 โดยเสิร์ฟอาหารสิงคโปร์ ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวหลักซา นาซิเลอมัก (เมนูข้าวมัน) นาซิโกเรง (ข้าวผัด) โรตีแกง ขนมหัวผักกาด กะหรี่ปั๊บ หมั่นโถวทอด และเครื่องดื่มต่างๆ รวมถึงไมโลปั่นอันเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตในสิงคโปร์ 

     อาหารทั้งหมด เมลิสสาเป็นคนลงมือปรุงโดยเป็นสูตรจากครอบครัวที่เธอนำมาปรับจนได้รสชาติที่ลงตัวที่สุด สำหรับคนที่สงสัยว่าทำไม Little Merlion ไม่เสิร์ฟบะกุดเต๋ (ซุปกระดูกหมู) หรือข้าวมันไก่ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของสิงคโปร์ คำตอบก็คือเนื่องจากมาร์คกับเมลิสสาเป็น pescatarian คือไม่บริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิดยกเว้นปลากับอาหารทะเล เมนูที่ร้านจึงไม่มีเนื้อวัว หมู สัตว์ปีก และสัตว์อื่นๆ สำหรับเมนูที่ขายดี ประกอบด้วย ก๋วยเตี๋ยวหลักซากุ้ง และนาซิเลอมัก





     นับตั้งแต่เปิดร้านมา ผลตอบรับค่อนข้างน่าชื่นใจ ลูกค้าญี่ปุ่นที่เคยมาลองก็กลับมาใช้บริการซ้ำ บางคนมาประจำทุกสัปดาห์ หลายคนมาไกลจากเมืองอื่น อาทิ โยโกฮาม่า คาวาซากิ และทาชิคาว่า อีกกลุ่มลูกค้าที่สำคัญคือชาวสิงคโปร์ที่ตกค้างในญี่ปุ่นตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด ทำให้เดินทางไม่ได้ ทำให้ Little Merlion กลายเป็นที่พบปะสังสรรค์ของชาวสิงคโปร์พลัดถิ่น

     เนื่องจากที่ตั้งร้านอยู่ชานเมืองโตเกียว ลูกค้าที่มาใช้บริการช่วงวันธรรมดาจะเป็นลูกค้าญี่ปุ่น เช่น คนทำงาน นักเรียนนักศึกษา และแม่บ้าน ส่วนช่วงสุดสัปดาห์จะเป็นลูกค้าสิงคโปร์เสียมาก มาร์คกล่าวว่าช่วงโควิด ลูกค้าที่เข้าร้านอาจไม่คึกคักมากนักเพราะยังอยู่ในช่วงระมัดระวังการแพร่ของเชื้อโรค และอาหารสิงคโปร์ก็ยังไม่เป็นที่คุ้นเคยเท่าไร       

     อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือจากเงินอุดหนุนของรัฐบาลญี่ปุ่น มาร์คมีแผนจะเพิ่มช่องทางการขายโดยการทำฟู้ดทรัคเพื่อเข้าถึงลูกค้าตามพื้นที่ต่างๆ ในโตเกียว คาดว่าจะเริ่มบริการได้ในเดือนพย.นี้ นอกจากนั้น เพื่อเป็นการสร้างรายได้เพิ่ม Little Merlion ยังมีบริการรับทำอาหารเพื่อจัดงานเลี้ยง และงานอีเวนต์ รวมถึงการจำหน่ายสินค้าที่ออกแบบโดยเมลิสสาอีกด้วย

 
ที่มา : https://mothership.sg/2021/10/little-merlion-cafe-tokyo/
www.asiaone.com/lifestyle/little-merlion-chicken-rice-menu-singapore-cafe-tokyo
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup