จาก Cafe Hopper สู่เจ้าของร้านกาแฟ “Thanwaa” ที่ปั้นธุรกิจ เพราะความคิดตอนหมดไฟ
Text : Yuwadi S.
“วันนั้นมันหมดไฟมากๆ เราไม่ชอบกรุงเทพฯ ไม่ชอบขับรถ ไม่ชอบรถติด เรานั่งอยู่ใต้คอนโด แล้วมีห้องมันว่างอยู่ ตอนนั้นความคิดมันง่ายมากเลย มันมโน ฝัน...ก็แบบ เปิดร้านกาแฟเลย”
จากความคิดที่แว้บเข้ามาพอดีใจช่วงเวลาที่จิตใจกำลังห่อเหี่ยว จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของร้านกาแฟสุดโฮมมี่ที่ให้ความรู้สึกได้อยู่ในบ้านสวยๆ เหมือนในฝัน นี่คือร้าน “Thanwaa” ที่อยู่ใต้ตึกธีรวรรณเพลส โดย “เมย์ - จรัญญา โลหะเวช” ได้เล่าให้ฟังว่าเธอเป็นคนชื่นชอบการไปร้านกาแฟเป็นทุนเดิมบวกกับความขี้เบื่อและความรู้สึกในวันนั้นที่หมดไฟ ทำให้เกิดเป็นร้าน Thanwaa
“เราเริ่มจากการเป็นคนกินกาแฟ Cafe Hopper เราอยู่เชียงใหม่ เรียนเชียงใหม่ ชอบไปร้านกาแฟ ชอบบรรยากาศ แล้วก็ทำงานคอนเทนต์ ครีเอทีฟ เคยทำที่บ้านและสวน เราชอบการแต่งบ้าน ต้นไม้ จนเราออกมาเป็นฟรีแลนซ์ 2-3 ปี ก็เริ่มรู้สึกว่าอยากกลับไปทำงานประจำ รู้สึกตัวเองเริ่มไม่เก่ง เริ่มเบื่อ เราทำงานประจำได้ 2 เดือน แล้ววันนั้นมันหมดไฟมากๆ เราไม่ชอบกรุงเทพฯ ไม่ชอบขับรถ ไม่ชอบรถติด เรานั่งอยู่ใต้คอนโด แล้วมีห้องมันว่างอยู่ ตอนนั้นความคิดมันง่ายมากเลย มันมโน ฝัน...ก็แบบ เปิดร้านกาแฟเลย”
จากความฝันสู่ความจริง
ด้วยความที่คิดแล้วลงมือทำทันที ทำให้ความคิดที่ลอยฟุ้งในอากาศกลายเป็นร้านกาแฟ Thanwaa ในเวลาอันรวดเร็วภายใต้ทีมซัพพอร์ตที่ดีของหุ้นส่วนอีก 2 คน ณ ช่วงเวลานั้น ซึ่งทุกชอบของเมย์ก็ถูกใส่ลงไปในดีเทลของร้าน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ของแต่งบ้าน แม้กระทั่งแมว ทำให้ร้าน Thanwaa เป็นมากกว่าคาเฟ่แต่เป็นสถานที่ที่ทำให้เราอบอุ่นเหมือนบ้าน
“เราใส่ทุกความชอบลงไป ชอบดูหนังก็เอาชื่อหนังมาตั้งเป็นชื่อเครื่องดื่ม ชอบต้นไม้ก็เอาต้นไม้มาแต่งร้าน เราค่อนข้างเอาแต่ใจ เพื่อนก็บ้ายุ ปล่อยให้เราอยากทำอะไรก็ทำไป แต่เราไม่ได้เคลมว่าเราเป็น Specialty Coffee เพราะเราไม่ได้ลึก แต่เราก็เลือกกาแฟที่ดีมีคุณภาพ เราก็คิดว่าวันหนึ่งคนเรากินกาแฟได้ราคาเท่าไรที่กินได้ทุกวัน เราไม่อยากขายแพงมาก จุดเริ่มต้นเราไม่ได้มีความรู้เรื่องธุรกิจหรือบริหารเงินขนาดนั้น เปิดมาเรื่อยๆ กำไรนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้เป็นธุรกิจจริงจัง”
แต่ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นเสมอไป เมื่อสถานการณ์โควิดมาเยือน ตั้งแต่โควิดรอบ 1 จนถึงรอบล่าสุดที่ทำให้ทุกธุรกิจต้องปรับตัว บางคนงัดทุกไม้ตายมาสู้แล้วก็ต้องพ่าย เช่นเดียวกับร้าน Thanwaa ที่ต้องปรับตัวเอง จนถึงขั้นที่ต้องปรับปรุงร้านใหม่จนกลายเป็น Thanwaa เวอร์ชั่น 2 ที่สวยและปังกว่าเดิม
“โควิดมันแย่มาก มีช่วงที่เราต้องลดชั่วโมงพนักงาน แล้วเราอยู่ร้านเอง ความดาวน์คือเราเห็นร้านกาแฟที่ไม่เป็นร้านกาแฟเลย เราเปิดร้านแต่ไม่มีลูกค้า เครียดและเหงามาก ไม่มีชีวิตชีวา ตอนนั้นยังไม่เครียดเรื่องเงินด้วยนะ จนร้านเริ่มกลับมาเปิด เขาฮิตต้นไม้ ร้านเราก็บูมขึ้นเฉยเลย คนยังมีเงิน กระแสต้นไม้แรง ตอนนั้นเราเริ่มมีใจว่าเรามาถูกทางแล้ว แต่ทีนี้โควิดมันไม่หยุด เราโดนมา 3 รอบ รอบนี้รอบที่ 4 คนเริ่มไม่มีเงิน และเรายังไม่ได้ปรับกลยุทธ์ ยังเป็น Conntection เป็นเพื่อน แล้วทีนี้ร้านมันจะเจ๊ง เรามีแค่ 2 ทางคือปล่อยให้มันเจ๊งไป ปิดแล้วไปทำอย่างอื่น กับเราต้องเกิดใหม่”
Thanwaa เวอร์ชั่น 2
โดยก่อนหน้าที่จะปรับปรุงร้าน Thanwaa เมย์ได้มีโอกาสได้เข้าไปเรียนรู้ระบบของการทำธุรกิจจากงานประจำ ทำให้เธอได้แนวคิดในการทำธุรกิจให้เป็นระบบมากขึ้น จนพอถึงช่วงที่ลาออกจากงานประจำก็ปิดร้านเพื่อปรับปรุง
“นอกจากร้าน เรามีรับงานฟรีแลนซ์ด้วย แล้วพอเราอยู่กับร้านกาแฟมากๆ รู้สึกว่าความรู้น้อยลง โลกมันไปเร็ว อยากรู้ว่าการตลาดมันไปถึงไหน อยากรู้เรื่องแบรนด์ เลยมีโอกาสได้ไปทำงานประจำ เราเข้าไปได้ความรู้จากตรงนั้นว่าเขาจัดการระบบต่างๆ ยังไง วางแผนเรื่องเงินยังไง ได้ความรู้ธุรกิจกลับมา เหมือนตอนร้านเก่า เราคิดง่ายๆ แค่ขายได้เท่าไร ต้นทุนเท่าไร ที่เหลือคือกำไร แต่ทีนี้พอเราทำงานประจำ ก็เริ่มเหมือนเดิม เราไม่สามารถอยู่ในระบบได้ ไม่สามารถตื่นตอนเช้าทุกวัน ทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ได้ เราอ่อนแอกว่านั้น เราชื่นชมคนที่ทำได้มากๆ นะ แล้วด้วยความที่เราต้องบริหาร Thanwaa ด้วย งานประจำด้วย มีจ๊อบนอกด้วย จนเริ่มแบบ เดี๋ยวๆ ตอนนี้กูอยู่ตรงไหนวะ เรามีคนเดียวนะ เลยลาออกได้ 2-3 เดือน แล้วปิด Thanwaa และปรับปรุงเลย ก่อนหน้านั้นคือจะเจ๊ง เพราะเราประเมินว่าถ้าเราไม่ได้เงินเท่านี้ ภายในเดือนนี้ จะเริ่มขาดทุน พอเห็นว่าจะขาดทุนแน่ ก็ปิดเลย ทำใหม่”
หลังจากที่ Thanwaa เวอร์ชั่น 2 ได้เปิดตัวขึ้น ไม่ได้มีเพียงความสวยงามที่เกิดขึ้นเท่านั้นภายในร้าน แต่เบื้องหลังยังมีความแข็งแกร่งในเรื่องของแนวคิดการทำธุรกิจเพิ่มขึ้นด้วย
“เราเริ่มได้ความรู้มากแล้ว มีความเป็นธุรกิจมากขึ้น เรามีการคำนวนว่าต้นทุนต้องคุมได้ในกี่เปอร์เซ็นต์ เรามี Fix Cost เท่าไร เราไม่เคยแบ่งงบการตลาดว่าต้องเท่าไร ต้องวางแผนยังไง ตอนนี้เราเปิดร้านใหม่มาก็ยังไม่ได้เวิร์คมาก เราใส่เต็มในเดือนแรก ลูกค้าเต็ม แต่เปิดได้ 3 วีค ก็เจอล็อกดาวน์ ประกาศตอนตี 1 ตี 2 ตื่นมาโมโห ให้เวลาเราเตรียมตัว 2 วัน ยอดขายหลังจากที่เปิดร้าน 3 เดือน เดือนแรก 100% เดือนที่ 2 น้อยลง 35% เดือนที่ 3 น้อยลงมาอีก 35% เราช็อก ไม่ไหวจริงๆ เราจ้างพนักงานเพิ่ม Fix Cost เยอะขึ้น โพรดักส์เยอะขึ้น ไลน์อาหารเยอะขึ้น เรามีเบเกอร์ทำเค้กจริงจัง แล้วยอดมันตกลงมาก เริ่มไม่รอดละ เออ งั้นขายไก่ทอดแล้วกัน”
จาก Thanwaa สู่ Hidden Chicken
เมื่อยอดขายตกลง ทั้งที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทางรอดของร้าน Thanwaa คือขายไก่ทอด แต่เป็นการแตกแบรนด์ลูกออกมานั่นคือร้าน Hidden Chicken
“มันง่ายแบบนั้นเลย เราชอบกินไก่ แล้วมันมีครัวอยู่แล้วไง เลยขายไก่เลย เห็นแล้วว่ายอดเดลิเวอรีมันตกลง ทีนี้ถ้าเราอยากขายข้าว เราต้องเปิดร้านใหม่ และเราไม่อยากให้มีหน้าร้าน ไม่อยากเสียแบรนด์ Thanwaa เรารู้ว่าเราไม่สามารถเอา Thanwaa ไปทำอะไรทุกอย่างที่ไม่ใช่แบรนด์ดิ้งได้ เราเลยสร้างแบรนด์ใหม่ เป็นไก่อิติ๋ม สร้างโลโก้ เขียนหน้ากล่องว่า Stay Safe นะคะ ขอบคุณที่ให้หนูไปเกิด แล้วอยู่ดีๆ ก็แมสในทวิตเตอร์ แม้ยอดขายจะน้อยกว่า Thanwaa ประมาณ 30% เหนื่อยมากๆ แต่มันคือทางรอดของ Thanwaa กำไรไม่ได้สูงมากแต่เราเน้นโวลลุม เลยต้องทำ 2 แบรนด์ควบคู่กันไป”
โดยเธอได้เล่าถึงบทเรียนของการทำร้านตั้งแต่ร้านแรก มาจนถึงร้านที่สอง ว่าสิ่งสำคัญคือการเตรียมความพร้อม เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เสียโอกาสการขายได้ง่ายๆ
“การทำร้าน Thanwaa แรกทำให้เรารู้ว่าพอเราตั้งใจจะเปิดแล้ว ต้องไม่มีอะไรที่ไม่พร้อม พอเราทำร้าน Thanwaa ใหม่ เรารู้เลย ยอดคาเฟ่ที่ขายดีที่สุดจะอยู่เดือนที่ 2 ตอนร้านเก่า เรายังรับเค้กมา ควบคุมต้นทุนได้ไม่ดี สต๊อกของไม่แน่น ทำให้เราเสียโอกาสทางการขาย เลยรู้ว่า ถ้าจะเปิด Thanwaa รอบนี้ เราต้องพร้อม เผื่อเหลือดีกว่าเผื่อขาด”
สำหรับการทำร้าน Thanwaa นั้น ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟที่เปิดมาเพื่อขายกาแฟ แต่เมย์อยากให้ Thanwaa เป็นสถานที่สำหรับฮีลใจให้ใครหลายคน ซึ่งตัวเธอเองก็ได้รับแรงบันดาลใจนั้นกลับมาให้ตัวเองได้แล้วเช่นกัน
“มีช่วงหนึ่งที่เราหนักมาก ต้องพบจิตแพทย์ เลิกกับแฟน ย้ายคอนโด เปลี่ยนแปลงทั้งชีวิต เราย้ายกลับมาอยู่ที่เดิม เราอยู่ในห้องที่ไม่มีผ้าปูเตียง ไม่มีต้นไม้ พอเราฮึบขึ้นมา ทำให้ Thanwaa มันสวย คนแรกที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Thanwaa คือเราเอง เราสร้างร้านกาแฟได้หน้าตาแบบนี้แล้วย้อนมาดูตัวเอง ชีวิตเราใช้จริงๆ ทำไมเละเทะแบบนี้? อย่างแรงบันดาลใจห้องเราตอนนี้ก็มาจาก Thanwaa เราอยากให้คนที่มาร้านได้อะไรพวกนี้กลับไป อยากเปิด Thanwaa อีกหลายสาขาเลย อยากให้โตกว่านี้ เราขายความเป็นไลฟ์สไตล์ควบคู่โพรดักส์ มา Thanwaa เหมือนอยู่บ้าน อุ่นใจ แต่บ้านเราไม่ได้สวยเท่านี้ ถ้าอยากมีบ้านสวยๆ ยังงี้ ก็มา Thanwaa ดิ” เธอปิดท้าย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup