Text : Yuwadi.s 





     ‘ถุงเท้างอละเง้ หม่ำๆ ตีนงื้อ’ ‘ตุ๊กตา 555 เธอหยอกเลาแรงจังเนาะ อ๊อก’ คำพูดเหล่านี้คือแคปชั่นจากเพจขายสินค้าที่กำลังไวรัลที่สุดบนโลกออนไลน์ซึ่งคอนเทนต์ของเขากระจายไวในเวลาเพียงไม่นาน และนี่คือเพจขาย ใช้เวลาในการปั้นเพจมาเกือบ 2 ปี สร้างผู้ติดตามเกือบแสนคน แต่ละคอนเทนต์ขายของนั้นก็มีคนแชร์มากมาย 

     เบื้องหลังของเพจขายคือกราฟฟิกดีไซเนอร์ชาวลำพูน ‘โอ-เกียรติศักดิ์’ ที่ผันตัวมาทำงานที่เชียงใหม่และได้ริเริ่มความคิดว่าอยากสร้างเพจขายของ หลังจากนั้นก็เกิดเป็นเพจขายขึ้น

     “เราเป็นคนชอบสื่อออนไลน์อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เราเปิดเพจหนึ่งก่อนเกี่ยวกับการออกแบบกราฟฟิก ชื่อว่าเพจคนอื่นคนไกล ตอนนั้นคนติดตามประมาณ 1-2 แสนคน พอคนเยอะขึ้น เราก็เริ่มรู้สึกว่าอยากขายของจังเลย แต่คิดไปคิดมาแล้วมันไม่ตรงกับจุดประสงค์ที่คนมาติดตามเรา ไม่แฟร์กับเขา เราเลยเปิดเพจใหม่เลยดีกว่าที่เน้นขายของโดยเฉพาะ ตอนแรกจะชื่อแบ่งกันกินแบ่งกันใช้ ขายทั้งของมือ 1 และมือ 2แต่ไปๆ มาๆ ด้วยคอนเทนต์ เลยคิดว่างั้นเราเจาะจงไปเลยดีกว่าว่าเพจขาย เราจะได้มีขอบเขตการตลาดที่ใหญ่ขึ้นในการเอาของมาขาย นี้คือจุดเริ่มต้น”

     ท่ามกลางสินค้ามากมายที่คล้ายกันในตลาด แต่เพจขายกลับดึงความสนใจของผู้คนได้มากกว่าประหนึ่งว่ามีสปอร์ตไลท์มาส่องเข้าที่เพจ เหตุผลสำคัญนั่นเป็นเพราะคอนเทนต์ที่เน้นสร้างรอยยิ้มให้กับคนที่ผ่านไปผ่านมา ซึ่งจะทำอย่างนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

     “ความจริงสินค้าในเพจทุกชิ้น เราสามารถหาได้จากในโลกออนไลน์ทั่วไป ถ้าหาดีๆ จะเจอสินค้าแบบนี้เต็มไปหมด เราเริ่มรู้สึกว่าถ้ามีสินค้าชิ้นนี้เต็มไปหมด เราจะทำให้สินค้าของเราโดดเด่นกว่าได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่หลายคนกำลังพยายามอยู่ว่าทำยังไงให้โดดเด่น เพจขาย วิธีการทำให้สินค้าโดดเด่นคือการสร้างสตอรี่ให้มัน รวมถึงการใส่ตัวตนเราเข้าไป ทำให้คนที่ผ่านไปผ่านรู้สึกว่า เอ๊ะ อะไร แล้วหยุดอ่านนี่คือวิธีการของเพจเรา”

    กว่าจะปั้นเพจที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะได้ขนาดนี้ คอนเทนต์แปลกแหวกแนวขนาดนี้ แอดมินเพจเป็นคนอย่างไร? นี่อาจจะเป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้

     “ถ้าสมมติถ้ามีชั้นวางสินค้าแล้วบนนั้นมีสินค้าเหมือนกันอยู่ 10 ชิ้น แต่มี 1 ชิ้นที่เป็นสีเหลือง ผมเลือกสีเหลือง คือเราเป็นคนชอบอะไรไม่เหมือนชาวบ้านเขา เช่น ปากกายี่ห้อเดียวกันแต่มีอันหนึ่งมีรอยตำหนิที่เป็นสีพาดออกมา เออ เราเอาอันนี้ เรารู้สึกว่าตัวเองแปลกจังเนาะ งั้นลองเอาความเป็นตัวเองที่แปลกๆ สนุกๆ ใส่ลงไปในคอนเทนต์ดีกว่า”

     แต่ด้วยความที่เพจขาย เน้นคอนเทนต์ตลก สนุกสนาน ทำให้หลายคนเริ่มคิดว่า ‘นี่เป็นเพจขายของหรือเพจตลกๆ เฉยๆ กันแน่’ ซึ่งแอดมินโอได้เล่าว่าจุดประสงค์หลักของเพจคือขายสินค้า แต่จุดประสงค์รองลงมาคือทำให้คนยิ้มได้

    “เวลามีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า วันนี้หนูไม่โอเคกับงานเลย แต่พอมาอ่านเพจขายแล้วรู้สึกว่าทำไมอารมณ์ดีขึ้น ตลกดี สนุกดี บางคนยิ้ม บางคนคลายเครียด ทำให้ผมนึกถึงช่วงสมัยเรียนมัธยมต้น อาจารย์เรียกไปแล้วถามว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข เรามองย้อนตัวเองว่าเราเอาทุกอย่างที่เป็นเรามาใส่ไว้ในเพจ มันทำให้รู้สึกว่ามันใช่เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ที่เราเคยบอกกับอาจารย์ไว้ว่า ถ้าผมเห็นเพื่อนหัวเราะ เห็นคนอื่นหัวเราะ มีความสุขเพราะตัวผม ผมได้รับพลังนั้นและรู้สึกโอเคมาก มากกว่าเงินทองที่ได้ พอเรื่องเหล่านั้นย้อนมาในเพจและลูกเพจได้รับรู้ เราเลยรู้สึกว่าอันนี้แหละเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้รู้สึกสบายใจ ช่วยให้คนอื่นที่เขาเครียดกันโอเคขึ้นกับชีวิตของเขา นี่ก็เป็นหนึ่งในจุดประสงค์ของเพจ”

     แม้ว่าข้างนอกจะดูเป็นเพจตลก ขำขันและสนุกสนาน แต่เมื่อพูดถึงแง่ของการทำธุรกิจนั้นค่อนข้างสาหัสเลยทีเดียว เพราะสินค้าในเพจส่วนใหญ่เป็นการนำเข้า ซึ่งการนำเข้าสินค้านั้นไม่ใช่เรื่องหมูๆ 

     “การนำเข้าสินค้ามาขายก็มีข้อเสียอยู่หลายอย่างเหมือนกัน โดนโกงเป็นเรื่องปกติ ส่งช้าเป็นเรื่องปกติ สินค้าเสียหายเป็นเรื่องปกติ เรามีการนำเข้าสินค้าจากหลายพื้นที่ทั้ง จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา แต่บางทีเรื่องการเคลมสินค้า เวลาเราสั่งผ่านตัวแทน Shipping จะบอกมาเลยว่า ไม่ ฉันไม่ดูแลให้คุณนะ บางทีส่งสินค้ามาผิดแบบ ล่าสุด ชุดปลาทูน่า พอส่งมาตัวใหญ่มาก เกินคาดไว้ พอส่งมาผิดแบบ เขาจะไม่เคลมให้ เพราะสินค้าเขาไม่ได้ผิดอะไร เขาจะหาเหตุผลมาหลายอย่าง หรืออย่างส่งนาฬิกา หน้าปัดแตกมาเลย แทบทุกอัน เขาไม่เคลมให้ แต่ด้วยความที่เราเป็นแอดมินเพจ เราก็คิดว่าลูกค้าจะรับของแบบนี้ไม่ได้ เราก็ต้องยอมและเคลมเงินให้ลูกค้าทันที บางทีเราบอก 3-7 วัน แต่บางทีไม่ถึง 3 นาที เราก็โอนเงินกลับให้แล้ว ปัญหาที่เข้ามา เนื่องจากเราไม่มีทีม เราทำงานคนเดียว พอมันมา ก็จะแบบทำยังไงดี แทนที่เราจะมานั่งกลุ้ม เรามาหาทางออกดีกว่าว่าทำอะไรได้บ้างให้กับลูกค้า”

     แอดมินโอได้ปิดท้ายถึงสิ่งที่ยังทำให้เขามุ่งมั่นสร้างเพจขายต่อไปแม้จะเจอปัญหาและอุปสรรคมากมายเพียงใดก็ไม่ย่อท้อ

     “เรารู้สึกว่าเพจขาย นอกจากจะเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้เข้ามาต่อเนื่องแล้ว ยังรู้สึกว่าการทำแบบนี้มันต่อยอดไปได้ในอนาคตแม้จะมีปัญหาเข้ามา ถ้าในอนาคตเราวางแผนไปแล้วว่าเราอยากเปิดร้าน อยากมีสินค้าของตัวเอง พื้นฐานสำคัญมาก ไม่ว่าจะเจอกับอะไร ถ้าทำอะไรแล้วไม่เคยเจอปัญหาแล้วไปประสบปัญหาตอนที่บริษัทเราสูงขึ้นไป เจอปัญหาใหญ่แล้วแกปัญหาไม่ได้ คงลำบากมาก แต่ถ้าเราเจอปัญหาครั้งแรกหรืออุปสรรคตั้งแต่เริ่มต้น เดี๋ยวในอนาคตก็จะแก้ปัญหาได้ เราต้องเจอเคสแบบนี้บ้าง ถือว่าเป็นบทเรียน”