Text: วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์






     
     หลายๆ ธุรกิจคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิดกันอย่างสาหัส แต่ Flash Coffee ร้านกาแฟแบบ Grab & Go ที่สั่งไปดื่มนอกร้าน ไม่เพียงไปต่อได้ หากแต่ยังมีทุนสนับสนุนไหลเข้ามาจุนเจือ ล่าสุดเพิ่งได้รับการอัดฉีดในรอบซีรีส์ A จำนวน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากไวท์ สตาร์ แคปิตอล บริษัทชั้นนำที่ลงทุนด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ


     จากสาขาแรกในอินโดนีเซีย ในระยะเวลาไม่ถึงปี Flash Coffee ขยายไป 50 สาขาใน 3 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย ท่ามกลางวิกฤตไวรัสที่ยังคุกคาม แต่จำนวนผู้ใช้บริการ Flash Coffee ก็ไม่แผ่วลงเลย แถมยังเข้าสู่ภาวะทำกำไรในหลายสาขา ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Flash Coffee คือ เดวิด บรูเนียร์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Startup รายนี้จะมาบอกเล่าถึงแนวคิดและการวางกลยุทธ์ที่ทำให้ร้านกาแฟอายุแค่ปีกว่าๆ เติบโตรวดเร็วและได้รับความนิยมแบบติดลมบน โดยเขาตั้งเป้าแต่แรกว่า Flash Coffee จะต้องเป็นเชนร้านกาแฟที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารร้านอย่างเต็มรูปแบบ


     เดวิดเล่าว่า เขาเคยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับธุรกิจร้านกาแฟ และพบว่าโดยส่วนใหญ่เป็นร้านอนาล็อกที่ยังไม่มีการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้กลายเป็นร้านดิจิทัล และหลายๆ แบรนด์บริการกาแฟคุณภาพปานกลางในราคาที่สูง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงตลาดมวลชน หรือ Mass Market เรียกได้ว่ายังมีช่องว่างในตลาดอีกมากที่จะออกแบบร้านกาแฟที่สามารถมอบประสบการณ์ดีๆ แก่ลูกค้าเมื่อใช้บริการ






     ย้อนกลับไปหลังจบการศึกษา เดวิดสั่งสมประสบการณ์จากการทำงานด้านการตลาดใน Tech Startup ยุโรป เช่น ดีลิเวอรีฮีโร่ และฟู้ดแพนด้า โดยมีเป้าหมายว่าสักวันจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ความฝันของเดวิดก่อเค้าในปี 2562 เมื่อโอลิเวอร์ แซมแวร์ และ อเล็กซานเดอร์ คุดลิช ผู้ก่อตั้งร็อคเก็ต อินเตอร์เน็ต บริษัทในเบอร์ลิน เยอรมนีที่เคยปั้นแพลตฟอร์มช้อปปิงออนไลน์อย่าง ลาซาด้า และ ซาโลรา จนโด่งดังมาแล้วได้ทาบทามเดวิดให้ริเริ่มธุรกิจด้วยกัน


     “ช่วงนั้นมีข่าวเกี่ยวกับเชนร้านกาแฟ Luckin Coffee จากจีนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และสามารถโกยไปได้ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเสนอขายหุ้นแก่สาธารณะวันแรก ทั้งที่ Luckin Coffee เพิ่งให้บริการได้เพียง 18 เดือนเท่านั้น ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้น และเริ่มสนใจธุรกิจกาแฟ” เดวิดกล่าว และเมื่อมาเจอกับเซบาสเตียน ฮันเนคเคอร์ ผู้มีแนวคิดใกล้เคียงกันที่มองเห็นภาพร้านกาแฟในแบบเดียวกัน ไม่นานหลังจากนั้น Flash Coffee จึงกำเนิดขึ้นโดยประเดิมที่จาการ์ตาเป็นสาขาแรก





     ใช้เวลาเพียงปีเดียวหลังเปิดบริการก็สามารถรองรับการขยายสาขาจำนวนมาก และสามารถรับมือกับคำสั่งซื้อหลายพันออร์เดอร์ในแต่ละวัน ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาใช้งาน เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันที่เอื้อให้ลูกค้าสั่งกาแฟและชำระเงินออนไลน์ สามารถเลือกว่าจะมารับเองที่ร้าน หรือใช้บริการดิลิเวอรี นอกจากนั้น ยังมีการสะสมแต้ม และฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย ทำให้ได้ฐานลูกค้าเป็นวงกว้างโดยที่ลูกค้าจำนวนหนึ่งไม่เคยมาที่ร้านด้วยซ้ำ


     ไม่เท่านั้น Flash Coffee กำลังอยู่ระหว่างติดตั้งระบบการตรวจนับสต็อกสินค้า และยอดคำสั่งซื้ออัตโนมัติโดยใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์ ทั้งยังวางระบบงานที่ควบคุมและมอนิเตอร์จากส่วนกลางเพื่อให้ระบบที่ติดตั้งตามสาขาต่างๆ ดำเนินไปอย่างราบรื่นไม่ติดขัด มีการประยุกต์เทคโนโลยีที่ใช้ในวงการอสังหาริมทรัพย์มาเก็บข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และการใช้งานในแต่ละสาขา   


     นอกจากเรื่องเทคโนโลยีแล้ว จุดขายอีกอย่างของ Flash Coffee คือ การตั้งราคาไม่แพงเพื่อให้ลูกค้าทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ทั้งนี้ กาแฟของทางร้านเริ่มต้นที่แก้วละถ้าเทียบเป็นเงินไทยก็ 40 บาท แม้ราคาจะย่อมเยา แต่คุณภาพนั้นสวนทางเนื่องจากเน้นใช้กาแฟอาราบิก้า และเมนูเครื่องดื่มก็คัดสรรโดยบาริสตาระดับแชมป์โลกเทียบเท่า Specialty Coffee ช่วงเกิดโควิด-19 ระบาด การเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ผู้บริโภคดื่มกาแฟมากขึ้น และเปลี่ยนวิธีการซื้อกาแฟโดยซื้อแบบดิลิเวอรี





     การขยายสาขา Flash Coffee ในปัจจุบันอยู่ที่ 3 สาขาต่อสัปดาห์ และวางแผนจะขยับเป็นสัปดาห์ละ 10 สาขา โดยตั้งเป้าไว้ราวปลายปีนี้จะมีสาขาใหม่ผุดขึ้นรวม 300 แห่ง เดวิดกล่าวว่า การขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วเช่นนี้เป็นผลจากการบริโภคกาแฟต่อคนเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาค


     ทั้งนี้ ตลาดกาแฟทั่วโลกมีมูลค่ามากกว่า 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ในเอเชีย ผู้บริโภคมีความรู้เกี่ยวกับกาแฟมากขึ้น ความต้องการกาแฟคุณภาพสูง และข้อเลือกที่ดีกว่าก็เพิ่มอย่างรวดเร็วเช่นกัน Flash Coffee จึงสนองกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังขยายตัวด้วยกาแฟพรีเมียมในราคาที่จ่ายได้


     เดวิดเปิดเผยว่าความฝันของเขาคือ การเห็นร้าน Flash Coffee กระจายทุก 500 เมตรตามเมืองใหญ่ของเอเชีย ด้วยเม็ดเงินสนับสนุนจากนักลงทุนในซีรีส์ A จะเป็นใบเบิกทางให้บริษัทสามารถเจาะตลาดที่มีศักยภาพในภูมิภาคนี้ ซึ่งความสำเร็จจะเกิดขึ้นอีกเมื่อ Flash Coffee สามารถเข้าไปปักหลักในตลาดใหม่อีก 7 แห่ง ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ในปี 2564 นี้

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup