Text: Vim Viva





     จากงานอดิเรกคั่นเวลาระหว่างสมัครงานประจำ ทำไปทำมาการอบคุกกี้เมอแรงกลับกลายเป็นอาชีพหลักที่ทำให้เดนิส เทห์ หญิงสาวชาวมาเลเซียเจ้าของแบรนด์ขนม Sweet Hato ล้มเลิกความตั้งใจที่จะประกอบอาชีพนักกฎหมายตามสายที่เรียนมา เดนิสเป็นบัณฑิตสาขานิติศาสตร์ที่เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่ผ่านการฝึกงานในเดือนกุมภาพันธ์ เธอก็เริ่มร่อนใบสมัครไปตามที่ต่าง ๆ แต่สถานการณ์โควิด-19 และรัฐบาลมาเลเซียประกาศล็อกดาวน์ทำให้การหางานเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก


     กระทั่งวันหนึ่ง ข้อมูลที่เดนิสพบเจอในอินเตอร์เน็ตก็นำไปสู่จุดเปลี่ยนในอาชีพของเธอ “ฉันสังเกตว่าในไอจีร้านคาเฟ่ของเกาหลีและญี่ปุ่นเขาจะมีเค้กและขนมหวานสวย ๆ น่ารัก ๆ บังเอิญว่าฉันไปเจอคลิปในยูทูปที่สอนทำคุกกี้เมอแรง ฉันเลยเริ่มเรียนรู้และฝึกทำ” เดนิสเล่าถึงจุดเริ่มต้นเกี่ยวกับการทำคุกกี้เมอแรง คุกกี้ที่ทำจากไข่ขาวตีจนขึ้นฟูแล้วอบเป็นรูปต่าง ๆ และสามารถนำมาใช้ตกแต่งเครื่องดื่ม เช่น ชา กาแฟ หรือนม ซึ่งการตกแต่งถ้วยกาแฟด้วยคุกกี้เมอแรงกลายเป็นเทรนด์ทางเลือกของการทำ Late Art หรือการสร้างลวดลายบนกาแฟแบบเดิม ๆ ที่เคยมี   





     หลังจากที่ลองอบและแจกจ่ายให้คนรอบข้างชิม เพื่อน ๆ ก็สนับสนุนให้ทำขาย แต่เดนิสลังเลเนื่องจากเธอเพิ่งหัดทำและใช้เวลาค่อนข้างมากในการบีบคุกกี้แต่ละชิ้น แต่ที่เธอสร้างเพจ Sweet Hato ขึ้นมาก็เพื่อแสดงผลงานเท่านั้น แต่หลังจากถูกเพื่อนคะยั้นคะยอ เดนิสจึงลองเปิดรับออร์เดอร์ครั้งแรก และนับจากนั้นก็มีคำสั่งซื้อเข้ามาเรื่อย ๆ จนเธอตัดสินใจปั้นแบรนด์คุกกี้ Sweet Hato อย่างจริงจังในเดือนมิถุนายนปี 2020


     คุกกี้เมอแรงของเดนิสโดยมากจะบีบเป็นรูปสัตว์และตัวการ์ตูนที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย เช่น ชินจัง สติทช์ วินนี่ เดอะ พูห์ โดราเอมอน และอื่น ๆ คุกกี้ของเธอจะมี 2 แบบคือแบบมีแครกเกอร์ กับแบบไม่มีแครกเกอร์ เธอยังรับผลิตเป็นตัวการ์ตูนต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการอีกด้วย ทุกสัปดาห์ เดนิสจะแนะนำคุกกี้ตัวการ์ตูนใหม่ ๆ ออกมา สินค้าภายใต้แบรนด์ Sweet Hato บรรจุในกล่องพลาสติกใส กล่องละ 21 ชิ้นสำหรับคุกกี้บนแครกเกอร์ และ 28 ชิ้นสำหรับคุกกี้เมอแรงล้วน





     การตอบรับของลูกค้าเรียกได้ว่าดีเกินคาด ถ้าเป็นช่วงเทศกาล เดนิสจำเป็นต้องหาคนมาช่วย แต่ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา เธอขาดผู้ช่วยทำให้ต้องลุยทำขนมคนเดียวตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงคืน ด้วยคำสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้น เดนิสจึงตัดสินใจว่าจะต้องขยับขยายโดยหาทีมมาช่วยทำงาน และวางแผนจะพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพิ่มขนาดให้เลือก และรับผลิตตามสั่งเพื่อเป็นของขวัญในวาระต่าง ๆ อาทิ วันเกิด ขึ้นบ้านใหม่ ปาร์ตี้ฉลองทารกเกิดใหม่ และปาร์ตี้อื่น ๆ 


     เดนิสกล่าวว่าคุกกี้เมอแรงถือเป็นของใหม่ที่คนมาเลเซียส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก เนื่องจากไม่เป็นที่นิยมเท่ากับขนมอื่น เช่น มาการอง เธอจึงหวังจะทำให้ผู้บริโภคในประเทศคุ้นเคยกับขนมชนิดนี้มากขึ้น เมอแรงเป็นขนมที่ใช้เวลาอบค่อนข้างนาน แต่ละล้อตใช้เวลาเฉลี่ย 4 ชั่วโมง นอกจากนั้น การบีบเมอแรงให้เป็นรูปต่าง ๆ ก็ต้องใช้ความชำนาญ และความอดทน





     แต่นั่นก็ก่อมรรคผลเมื่อคุกกี้ Sweet Hato เป็นขนมที่คุณภาพดี เมื่อนำไปลอยบนเครื่องดื่มก็ไม่ละลายเร็ว “กระทั่งดื่มไปหมดแก้วแล้ว คุกกี้เมอแรงของฉันก็ยังเหมือนเดิม แค่นิ่มกว่าเดิม แต่ไม่ละลายหายไป บางทีต้องใช้ช้อนบี้จึงแตกออก” เดนิสเล่าถึงคุกกี้ของเธอ อย่างไรก็ตาม เมแรงค่อนข้างไวต่อความชื้นในอากาศ ดังนั้นจำเป็นต้องเก็บในขวดสุญญากาศ และควรบริโภคให้หมดภายใน 3 สัปดาห์


     ปัจจุบัน Sweet Hato จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และยังเป็นธุรกิจแบบขายตรงถึงผู้บริโภค แต่ช่วงหลัง เริ่มมีลูกค้ารายใหญ่ติดต่อมา เช่น บริษัทออร์แกไนเซอร์ที่สั่งคุกกี้ไปใช้ในงานอีเวนต์ และได้รับเลือกให้วางจำหน่ายในห้างอิเซตันช่วงเทศกาลคริสต์มาส เป็นต้น





     สำหรับคุกกี้เมอแรง Sweet Hato สามารถทานเป็นของว่าง หรือนำไปตกแต่งเครื่องดื่มได้โดยไม่เพิ่มความหวานให้เครื่องดื่มมากขึ้นจากเดิมนัก นอกจากใช้กับเครื่องดื่ม  เดนิสมีแผนจะพัฒนาให้คุกกี้เมอแรงสามารถนำไปใช้ตกแต่งเค้กและขนมหวานอื่น ๆ ได้ด้วย นอกจากนั้น เธอยังกำลังพิจารณาจะเปิดคาเฟ่ หรือร้านเพื่อจำหน่าย Sweet Hato และในอนาคตอันใกล้  เธออาจเปิดคลาสสอนทำคุกกี้เมอแรงเนื่องจากมีเสียงเรียกร้องเข้ามา แต่ ณ เวลานี้เธอขอสั่งสมประสบการณ์ให้มากกว่านี้ก่อน 


     เดนิสทุ่มเททั้งเวลา และแรงกายให้กับธุรกิจ Sweet Hato และตัดสินใจจะก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางนี้โดยไม่หวนกลับไปสมัครงานด้านกฏหมายตามที่ร่ำเรียนมา โชคดีอยู่อย่างที่บิดามารดาและคนในครอบครัวสนับสนุนหลังมองเห็นธุรกิจของเธอเติบโตเกินจากที่คาดไว้
 
อ้างอิง
https://vulcanpost.com/740859/sweet-hato-meringue-cookie-drinks-malaysia/


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup