Text : Ratchanee P. Photo : กิจจา อภิชนรจเรข





     ถ้าพูดถึงปลาร้าวีแกนก็มีให้เห็นอยู่มากมาย แต่สำหรับเติมสุขน้ำปลาร้าแบรนด์นี้พิเศษกว่าตรงที่เป็นน้ำปลาร้าที่ทำจากเทมเป้รายแรกในโลกซึ่งเกิดจากคน 2 วัย ธุรกิจที่เริ่มต้นจากคน 2 ที่ทำอาหารระดับซูเปอร์ฟู้ด

 

     ธุรกิจที่เริ่มต้นจากคน 2 วัย


     ขณะที่ พีระ ศรีจันทร์งาม เป็นคนรุ่นใหม่ที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากน้ำปลาร้าวีแกนจากเทมเป้ อาจารย์ศุภษา เจริญพงศ์ ก็เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการทำเทมเป้และพลิกสูตรอาหารสารพัดจากเทมเป้รวมถึงน้ำปลาร้าด้วย ดังนั้น เมื่อคนทั้งสองได้มาเจอกัน การเริ่มต้นธุรกิจของคน 2 วัยจึงเกิดขึ้น



 

   “ผมสนใจเรื่องอาหารมังสวิรัติ เลยเข้าไปเรียนการทำอาหารมังสวิรัติซึ่งอาจารย์ศุภษาเป็นผู้สอน ซึ่งอาจารย์ถือว่าเป็นเบอร์ 1 ของเมืองไทยในเรื่องการทำเทมเป้ มีแนวคิดการแปรรูปอาหารโดยเทมเป้หลายอย่าง เช่น กะปิ น้ำบูดู รวมถึงน้ำปลาร้า ผมเป็นคนรุ่นใหม่เลยเริ่มเห็นโอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจจากน้ำปลาร้าวีแกนโฮมเมดที่อาจารย์ทำอยู่ ถ้าสามารถนำน้ำปลาร้าจากครัวมาสู่การผลิตแบบโรงงาน ขอ อย. GMO มีเครื่องหมายฮาลาล แน่นอนว่าสินค้าตัวนี้จะไปได้อีกไกล เพราะตลาดเครื่องปรุงวีแกนมาแรงมากๆ เราเลยร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจกัน”
 

     แน่นอนว่าแม้จะเป็นการจับมือกันของคน 2 วัย แต่ด้วยความที่ทั้งคู่ต่างเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน ภายใต้การทำธุรกิจที่ Win-Win ทั้งสองฝ่าย จึงได้เห็นภาพทั้งคู่เดินสายเปิดตลาดออกบู๊ธในงานต่างๆ ด้วยกันตลอดเวลา





     โดยอาจารย์ศุภษากล่าวเสริมว่า หายากมากที่คนรุ่นใหม่จะสนใจอาหารมังสวิรัติ ยิ่งเป็นน้ำปลาร้าหลายคนเบือนหน้าหนี แต่รู้หรือไม่ว่าตลาดนี้มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งหากสังเกตดีๆ มีแบรนด์น้ำปลาร้าเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา
 

     น้ำปลาร้าวีแกนจากเทมเป้การหมักที่ทำให้เกิดอูมามิ


     หากทอดตาในตลาดจะเห็นว่ามีน้ำปลาร้าแบรนด์ต่างๆ มากมาย รวมถึงปลาร้าวีแกน 
มากกว่าน้ำปลาร้าที่มีในตลาด เติมสุขเป็นน้ำปลาร้าที่ตอบโจทย์สายวีแกนที่ต้องการอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าเทมเป้ขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นอาหารซูเปอร์ฟู้ด ที่ทดแทนเนื้อสัตว์อยู่แล้ว แถมน้ำปลาร้านี้ยังมีโซเดียมต่ำอีกด้วย





     “น้ำปลาร้าทำจากถั่วเหลืองหรือน้ำปลาร้าวีแกนมีมานานอยู่แล้ว แต่ว่าเติมสุขเป็นน้ำปลาร้าที่ทำจากเทมเป้ แล้วรสชาติเหมือนน้ำปลาร้าจริงๆ มากกว่า กรรมวิธีการทำน้ำปลาร้าวีแกนคือ การเอาถั่วเหลืองต้มสุกมาหมักเกลือซึ่งเป็นการหมักสเตปเดียว แต่น้ำปลาร้าจากเทมเป้เป็นการหมัก 2 รอบ ทฤษฎีการหมักคือ การเกิดอูมามิ เกิดรสอร่อยโดยธรรมชาติ พอได้เทมเป้แล้วเราเอามาบดใส่เกลือหิมาลัย ดอกเกลือ หมักเอาไว้เป็นปี พอระยะเวลาในการหมักยิ่งยาวก็ยิ่งอูมามิ เหมือนกับพวกกิมจิยิ่งนานยิ่งอร่อย” อาจารย์ศุภษาเล่าถึงกรรมวิธีการผลิตน้ำปลาร้าจากเทมเป้ที่ทำให้ได้รสชาติอร่อยเหมือนน้ำปลาร้าจริงๆ


     น้ำปลาร้าเทมเป้สามารถทดแทนน้ำปลาร้า โดยพีระอธิบายว่า เทมเป้คืออาหารหมักจากถั่วหรือธัญพืชต่างๆ ด้วยเชื้อราชนิดดี โดยเทมเป้เป็นอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง ไฟเบอร์สูง มีโปรไบโอติกส์ที่ดีต่อลำไส้ มีวิตามิน B12 ซึ่งหาได้ยากในอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ชนิดอื่น โดยได้มีการส่งให้เซ็นทรัลแล็บไทย ตรวจวิเคราะห์แล้ว ผลปรากฏว่าโซเดียมต่ำ นอกจากนี้ ยังได้มีการส่งให้เชฟได้ลองนำไปปรุงอาหาร จึงมีความมั่นใจ ซึ่งในตอนนี้กำลังจะเริ่มนำสู่การผลิตในรูปแบบโรงงาน เพื่อที่จะผลิตและสามารถขยายกระจายสินค้าได้มากขึ้น





     “เป้าหมายจริงๆ นอกเหนือจากทางธุรกิจแล้ว เราต้องการเผยแพร่ให้คนหันมากินอาหารวีแกน ลดละเลิกการกินอาหารจากเนื้อสัตว์ สุดท้ายก็คือทุกคนต้องมีสุขภาพแข็งแรง คือเราทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ที่สำคัญคือเราต้องการช่วยเหลือสังคม ซึ่งเราทั้งคู่ก็เห็นตรงกันในเรื่องนี้”


     ด้วยเหตุนี้ไม่เพียงแต่น้ำปลาร้าวีแกนจากเทมเป้เท่านั้น พีระและอาจารย์ศุภษายังมีไอเดียที่จะแปรรูปเทมเป้ไปสู่อาหารเครื่องจิ้มชนิดอื่น เช่น กะปิ น้ำบูดู และต่อยอดน้ำปลาร้าวีแกนนี้ด้วยนวัตกรรมพัฒนาสู่ปลาร้าผงสำเร็จรูปเพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบายอีกด้วย


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup