Starting a Business

สุดครีเอท วิธีสร้างเงินจากการระบายความรู้สึกสู่ภาพวาด แบกบอย ที่ขายดีถึงไต้หวัน

Text : Marisa S. Photo : กิจจา อภิชนรจเรข





     ใครจะไปคิดว่าการที่ชอบเก็บอะไรมาคิดวนไปวนมาจนกลายเป็นความรู้สึกว่าตัวเองกำลังแบกอะไรเอาไว้ในใจ จะกลายมาเป็นผลงานภาพวาดคาแร็กเตอร์สุดสร้างสรรค์ที่มีชื่อว่า แบกบอย เด็กผู้ชายที่แบกทุกอย่างที่อยากจะแบก โดย เบน-ณัฐณิชา ณัฐธนกร ผู้ดูแลดีไซเนอร์ไทยของเว็บ Pinkoi  


     คาแร็กเตอร์แบกบอย เริ่มจากความรู้สึกที่พบเจอของตัวณัฐณิชาเอง ช่วงนั้นเธอทำงานอยู่แถวอโศกเป็นสถานที่ที่มีแต่ความวุ่นวายและความเร่งรีบ มีอยู่วันหนึ่งที่เธอเดินช้ามากๆ แล้วก็ดันเจอคนข้างหลังพูดใส่ว่า ทำไมถึงเดินช้าแบบนี้ ในตอนนั้นเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงพูดขนาดนั้นแค่เดินช้าเอง และด้วยความที่เป็นคนที่ชอบแบกคำพูดของคนอื่นเก็บมาคิดไว้อยู่บ่อยๆ เธอจึงวาดรูประบายความรู้สึกนั้นออกมา 





     “ทุกๆ คนก็คงมีสิ่งที่ชอบเก็บเอามาคิด ชอบแบกเอาไว้กับตัว ทางออกของเราคือ การวาดรูป คืนนั้นเลยสเกตช์คาแร็กเตอร์ที่ออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ออกมาเป็นเด็กผู้ชายที่ชอบหาอะไรมาแบก แล้วก็เปลี่ยนคอนเซปต์ของว่า เราจะแบกอะไรที่ทำให้เรามีความสุข พอคนเห็นจะได้รู้สึกว่าชีวิตมันก็มีตลกมีสีสัน จากนั้นก็วาดมาเรื่อยๆ แรงบันดาลใจที่ได้ก็มาจากการพูดคุยกับคนรอบข้างนำมาต่อยอด อย่างคาแร็กเตอร์แต่ละตัวของเสื้อผ้าก็ได้มาจากคนใกล้ตัวที่ได้เจอในชีวิตประจำวัน รวมถึงบางสิ่งบางอย่างที่เขาแบกเอาไว้”





     จากการวาดเล่นเพื่อระบายความรู้สึกก็กลายมาเป็นคาแร็กเตอร์ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวณัฐณิชาได้ ทั้งทำโปรดักต์ขายและรับวาดรูป เมื่อปี พ.ศ.2561 เธอได้มีโอกาสส่งโพรไฟล์และผลงานของตัวเองไปที่งาน Creative Expo ของไต้หวัน เป็นงานที่ค่อนข้างใหญ่ที่รวมผลงานและขายผลงานของเหล่านักวาดแถบเอเชีย โปรดักต์ที่ทำขายในงานมี โปสต์การ์ดแผ่นเล็ก/แผ่นใหญ่ และแสตมป์ที่เป็นเทมเพลตรูปหนังสือ จานข้าว และแจกัน เพราะคนไต้หวันชอบแสตมป์ ซึ่งมันไม่ได้จบแค่เอาไปแสตมป์ แต่ลูกค้าสามารถแสตมป์แล้ววาดต่อได้ตามความชอบของแต่ละคน อย่างเช่น หากชอบอ่านหนังสืออะไรก็วาดการ์ตูนลงไปบนแสตมป์หนังสือ ทำให้ผลตอบรับในครั้งนั้นดีมากจนตัวเธอเองยังรู้สึกเซอร์ไพรส์





     “ในแต่ละโปรดักต์ต่างก็มีคอนเซปต์ในตัวภายใต้การแบก บางตัวก็แบกความยุ่งเหยิง หรืออย่างตัวมาร์คกิ้งเทปเป็นคอนเซปต์จากประโยคคำพูดในไทย เช่น เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด จะเป็นเทปเด็กเดินตามพระแล้วหมาก็เดินตามอีกที โดยที่ทุกตัวยังยกมือขึ้นกันอยู่ หรือจะเป็นพวกสติกเกอร์ที่ได้แบบมาจากรอบตัว อย่างธีมสวนลุมพินีก็จะมีคนที่เดินผ่านไปมา สังเกตเอาว่าการแต่งตัวของเขาเป็นแบบไหนแล้วก็แบกอะไรก็ตามที่เขาอยากแบกหรือแบกตัวเงินตัวทองเพราะที่สวนลุมพินีมีอยู่เยอะ เป็นการหยิบจับอะไรรอบตัวง่ายๆ มาต่อยอดให้ออกมาในรูปแบบโปรดักต์ต่างๆ ออกแนวกวนหน่อยๆ ที่ลูกค้ามักจะชอบ”





     ถึงแม้ว่าในตอนแรกเธอจะทำโปรดักต์จากสิ่งที่ชอบสิ่งที่อยากทำ เช่น ชอบแก้วน้ำก็ทำแก้วน้ำลายที่วาด หรืออย่างโปสต์การ์ดซึ่งเป็นโปรดักต์ที่ทำได้ง่ายและคนก็ชอบ แต่ระยะหลังๆ มานี้เธอได้เรียนรู้แล้วว่าอะไรที่มันขายดีจริงกับอะไรที่ขายไม่ค่อยดี





     “ต้องเรียนรู้มากขึ้นว่าคีย์เวิร์ดไหนมันกำลังมา เทรนด์ไหนที่ลูกค้าหรือแฟนคลับชอบ และด้วยงานประจำ ทำให้เธอสามารถศึกษาดูพฤติกรรมความชอบของลูกค้าได้จาก Pinkoi หรือจะเปิดดูจากแอปฯ Etsy ส่วนในเฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรม ต้องติดตามพวกเทรนด์ แฮชแท็กที่มันกำลังมา แค่สิ่งที่ตัวเองชอบนั้นไม่เพียงพอ ต้องดูสิ่งที่คนอื่นกำลังให้ความสนใจด้วย เพราะนั่นเป็นสิ่งที่จะทำให้ผลงานถูกมองเห็นมากยิ่งขึ้น ศิลปะไม่ใช่เป็นแค่เรื่องเทรนด์ ไม่ใช่แค่เรื่องชั่วคราว แต่เป็นเรื่องที่ยั่งยืนแล้วก็ค่อยๆ เติบโตในอนาคต ศิลปินแต่ละคนมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน สำหรับนักวาดการมีแรงบันดาลใจเป็นสิ่งที่ดี แต่การเรียนรู้ถึงความต้องการของตลาดก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน” ณัฐณิชากล่าวทิ้งท้ายถึงวิธีที่จะผลิตชิ้นงานแล้วสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้
 

Facebook: Booo
IG: bebearboyy
Shop: pinkoi.com/babaabooo
e-mail: bebearboyy@gmail.com
Tel : 09-2704-9424
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup