Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์




Main Idea
 

• เทรนด์ธุรกิจคาเฟ่ที่กำลังมาแรงทำให้ร้านกาแฟผุดขึ้นมากมายล้วนแต่มีจุดขายที่แตกต่างกันไป 

• แต่การใช้บริการร้านกาแฟเหล่านี้ก็มีข้อจำกัดสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม เช่น เด็กนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการดื่มกาแฟคุณภาพดี ในราคาที่ดื่มได้ทุกวัน

     ใช่ว่าการเข้าถึงเครื่องดื่มกาแฟคุณภาพสูงในกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซียจะเป็นเรื่องยาก เพราะเทรนด์ธุรกิจคาเฟ่ที่กำลังมาแรงทำให้ร้านกาแฟผุดขึ้นมากมายล้วนแต่มีจุดขายที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าบางกลุ่ม การใช้บริการร้านกาแฟเหล่านี้ก็มีข้อจำกัด ยกตัวอย่าง หากต้องการดื่มกาแฟดีๆ กลางดึกจะไปหาซื้อที่ไหน หรือเด็กนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการดื่มกาแฟคุณภาพดี จะสามารถจ่ายแก้วละ 10 ริงกิต (ราว 75 บาท) ได้ทุกวันหรือไม่





     นี่คือประเด็นที่ โซอี้ โชว และ ชาน กัง เน็ง อดีตนักศึกษาสถาปัตย์ตั้งคำถามก่อนที่จะนำไปสู่การเปิดธุรกิจกาแฟภายใต้แบรนด์ “3am Coffee” เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา “เป็นประเด็นที่นักศึกษาส่วนใหญ่จะประสบ ไม่ใช่ว่าเคแอลไม่มีกาแฟดีๆ จำหน่าย แต่กาแฟคุณภาพดีที่ขายในราคาไม่แพงเกินเอื้อมของกลุ่มนักศึกษานั้น มันหายาก นั่นจึงทำให้เราคิดทำธุรกิจกาแฟที่ตอบโจทย์พวกเขา” โซอี้กล่าว


     จุดเริ่มต้นมาจากเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซเครื่องเล็กๆ ที่โซอี้ซื้อมาไว้ที่สตูดิโอเพื่อชงกาแฟดื่มขณะทำงานด้านสถาปัตย์ ช่วงแรกเพื่อนร่วมงานต่างพากันสนใจเครื่องชงกาแฟของเธอ แต่ไม่นานความสนใจก็จางหายไป มีเพียงกัง เน็งที่เวียนมาสอบถามอยู่เรื่อยๆ แสดงท่าทีกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และใช้งานมันบ่อยๆ โซอี้สังเกตว่ากัง เน็งมีความชอบในกาแฟ เมื่อบวกกับอุปนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนมีความรับผิดชอบ โซอี้จึงตัดสินใจชวนกัง เน็งมาร่วมทำธุรกิจด้วยกัน





     เมื่อวางแผนจะทำกาแฟออกมาขาย เครื่องชงกาแฟที่ใช้อยู่คงไม่พอ พวกเขาต้องใช้เครื่องชงกาแฟที่ดีกว่านั้นเพื่อให้กาแฟออกมาได้มาตรฐานที่สุด ด้วยเหตุนี้ โซอี้ และ กัง เน็ง จึงเริ่มเก็บเงินเพื่อเป็นทุนในการเริ่มต้นธุรกิจ พร้อมกับระดมทุนบางส่วนจากมิตรสหายและสมาชิกในครอบครัว จนในที่สุดก็สามารถซื้อเครื่องชงกาแฟ Rocket Appartamento และเครื่องบดกาแฟ Eureka Mignon Specialita ออกมา 1 ชุด ใช้งบทั้งสิ้น 10,000 ริงกิต หรือประมาณ 75,000 บาท


     หลังจากนั้น ก็เปิดตัวแบรนด์กาแฟ 3am Coffee ที่มีกาแฟให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Chilled Series, Cold Brews และ Bottled Espresso ซึ่งให้รสชาติที่แตกต่างกัน และมี 2 ขนาดให้เลือก คือ 150 มล. กับ 250 มล. สำหรับขนาด 250 มล.นั้น ราคาจะอยู่ที่ 13-14 ริงกิต (97-105 บาท) เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ราคาจะย่อมเยากว่า และจุดขายของ 3am Coffee คือ กาแฟที่ผ่านการสกัดแบบเข้มข้นเพื่อให้สามารถนำไปผสมน้ำหรือนมสดได้ 2-3 แก้ว ทำให้ราคาต่อแก้วเฉลี่ย 2.90-5 ริงกิต ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับการไปสั่งเป็นแก้วๆ จากร้านคาเฟ่ นอกจากนั้น กาแฟดำแบบสกัดเย็นของ 3am Coffee นั้น ชั่วโมงการผลิตจะยาวนานกว่าปกติทำให้เก็บได้นาน 3 เดือน เทียบกับกาแฟแบรนด์อื่นมีอายุไม่เกินสัปดาห์     





     ในการริเริ่ม 3am Coffee เนื่องจากโซอี้ และ กัง เน็ง ต่างไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก่อน มีเพียงความชอบ และความกล้า ดังนั้น พวกเขาจึงเผชิญอุปสรรคต่างๆ ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนของการปลุกปั้นแบรนด์ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาทดท้อในการผลักดันธุรกิจให้เติบโต ล่าสุด 3am Coffee ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Za&Co แบรนด์ขนมอบที่เป็น Startup ด้วยกัน การ X หรือ Collaboration ทำให้เกิด “Coffee Meets Cookie” เป็นโปรเจกต์สนุกๆ ที่ทำให้ลูกค้าของสองแบรนด์สามารถจับคู่กาแฟกับขนมตามที่ชอบ เหมือนการไปใช้บริการตามคาเฟ่


     “เราอยากสื่อสารไปถึงลูกค้าว่าแบรนด์เราไม่ใช่แบรนด์กาแฟสำหรับคนนอนดึกเท่านั้น แต่ยังเป็นทางเลือกสำหรับการแก้ง่วงยามบ่ายอีกด้วย นอกจากนั้น เรายังอยากบอกด้วยว่า 3am Coffee ยังเป็นกาแฟเพื่อสร้างความรื่นรมย์ให้ตัวเองอีกด้วย” โซอี้อธิบาย ปัจจุบัน 3am Coffee จำหน่ายผ่านอินสตาแกรม และ WhatsApp ในอนาคต โซอี้ และ กัง เน็ง ตั้งเป้าจะทำตู้กดกาแฟอัตโนมัติและกระจายไปตามมหาวิทยาลัย และอาคารสำนักงานทั้งเคแอล และสลังงอร์เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของ 3am Coffee ได้ง่ายขึ้น    





     โซอี้กล่าวว่าท้ายที่สุดแล้วกลยุทธ์การตลาดและความคิดสร้างสรรค์ยังเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างคอนเทนต์และความน่าสนใจเพื่อให้แบรนด์เติบโต “ส่วนตัวเป็นคนสนใจคอนเทนต์ในโซเชียล คอนเทนต์ของแบรนด์ และโซเชียลมีเดียอยู่แล้วเพราะเป็นช่องทางที่สำคัญมาก เป็นแนวทางในการทำการตลาดของเรา ทีม 3am Coffee มีความตั้งใจจะพัฒนาบริการทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่มเพื่อให้บริการนั้นสะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์” 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup