ถ้าต้องทำสิ่งเดิมๆ เป็นร้อยครั้งพันครั้งเพื่อแลกกับผลลัพธ์แบบเดิมๆ เพิ่มเติมคือ การใช้เงินจำนวนเงินมหาศาล ในบริบทนี้ทางออกของปัญหาคงมีสองทางให้เลือกว่าจะ “หยุด” หรือ “ไปต่อ”


                แต่เพื่อแลกกับคำว่า” เจ้าแรกของโลก” ทำให้ ศิริเพ็ญ สุนทรมั่นคงศรี ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท เซซามิลค์ ฟู้ดส์ จำกัด ตัดสินใจสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่อยากได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตน้ำนมจากงาแท้100% รายแรกของโลก ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ต้องใช้เวลาวิจัยนานถึง 2 ปี ด้วยมีขั้นตอนสุดหินรออยู่ข้างหน้าคือ การเปลี่ยนจากพืชน้ำมันให้เป็นพืชน้ำนม ฉะนั้นวิธีการผลิตจึงไม่ใช่แค่การนำงาไปบดผสมน้ำนมเท่านั้น หากแต่ต้องใช้กรรมวิธีการผลิตแบบพิเศษโนว์ฮาวแบบเฉพาะตัว กว่าจะคั้น “เมล็ดงา” ให้ออกมาเป็น “น้ำนมงา” ไม่ใช่เป็นน้ำมันงาแบบกรรมวิธีทั่วไป




                แม้จะต้องเข็นครกขึ้นบนภูเขา แต่นอกจากความต้องการที่จะเป็นผู้ผลิตทำน้ำนมงาแท้ 100% รายแรกของโลกแล้ว ศิริเพ็ญยังเผยว่ามีอีกสามปัจจัยหลักคือ หนึ่ง ต้องการต่อยอดจากธุรกิจที่บ้านซึ่งเป็นโรงงานกะเทาะเปลือกงาเพื่อนำไปจำหน่ายให้กับอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปเป็นน้ำจิ้ม หรือโรยขนมบนปัง ถั่วตัด งาตัด ฯลฯ


                สอง ด้วยคุณประโยชน์ของเมล็ดงาที่มีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะเซซามิน (Sesamin) สาร ต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นต้นกำเนิดของเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้สารเซซามินยังช่วยยับยั้งการสลายของกระดูกอ่อน ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ ลดคอเรสเตอรอล ลดไขมันในเลือด ปรับฮอร์โมน และเสริมประสิทธิภาพให้กับวิตามินอีถึง 10 เท่า




                แต่ที่ผ่านมาเมล็ดงามักถูกนำไปตกแต่งในหลายสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับอาหารจานหลัก ทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากงาไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นหากนำเมล็ดงามาแปรรูปให้อยู่ในรูปของเหลวที่ดูดซึมได้เร็วก็จะทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์จากงามากขึ้น และสาม ต้องการให้น้ำนมงาแท้เป็นอีกทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคปัจจุบันมีจำนวนผู้ที่แพ้นมวัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในจำนวนนี้ 15-30% มีแนวโน้มที่จะแพ้นมถั่วเหลืองไปด้วย


                “ความยากครั้งนี้คือขั้นตอนการเปลี่ยนจากพืชน้ำมันให้เป็นพืชน้ำนมมันมีความยากในตัวของเขาเองอยู่แล้ว เราเองได้ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งน้องๆ ถอดใจไปหลายที ร้องไห้ไปหลายคน เพราะทำเป็นร้อยครั้งยังไม่สามารถเปลี่ยนน้ำมันอยู่ในรูปแบบน้ำนมได้ แต่สุดท้ายเราก็ได้ Angle Fund ที่ดียอมมาเสี่ยงลงทุนกับเรา จนในที่สุดได้นวัตกรรมที่สามารถดึงคุณประโยชน์จากงาออกมาได้มากที่สุดในรูปแบบของน้ำนมกลายเป็นผลิตภัณฑ์ Sesamilk น้ำนมงาแท้ 100% รายแรกของโลก”




                ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงยกระดับนักวิจัยของไทย ยังช่วยส่งเสริมเกษตรกรที่ปลูกงาในประเทศไทยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ตั้งไว้คือ “Be an innovative plant-base foods company for sustainable living”


                “ถ้าเราทำราคาสินค้าต่ำแน่นอนย่อมจะไปกระทบกับเกษตรกรด้วย แต่ถ้าถามว่าคาแพงไหม อยากให้ลองเทียบผลิตภัณฑ์ในปริมาณเท่ากันของเรามีเซซามินมากกว่าผลิตภัณฑ์นมต่างๆ ที่ผสมงาดำถึง 280 เท่า เราเชื่อว่าราคากล่องละ 35 บาทไม่ได้แพงไปกับสิ่งที่ได้ผู้บริโภคได้รับเหมือนเป็นการลงทุนกับสุขภาพลงทุนกับ Sesamilk”


               ผ่านไปประมาณหนึ่งปีมีผู้บริโภคที่ลงทุนด้านสุขภาพกับ Sesamilk ไปแล้วจำนวนกว่า 6.5 แสนกล่องเฉพาะในประเทศไทย ยังไม่นับรวมตลาดส่งออกอีก 4 แห่งคือ ญี่ปุ่น มาเก๊า ฮ่องกง เวียดนาม จาก 3 สูตรที่มีให้เลือกทั้งนมงาขาว นมงาดำ และนมงาขาวสูตรน้ำตาล 0%


                “ตอนนี้หลายคนยังไม่ค่อยรู้จัก Sesamilk ต้องโปรโมทให้มากกว่านี้ แต่หลายคนที่ได้ลองแล้วก็บอกว่าทานแล้วช่วยให้นอนหลับสนิท อาการปวดข้อลดลงก็กลับมาซื้อยกลังเพราะดีกว่าไปเสียเงินให้กับสิ่งที่ไม่เห็นผลชัดเจน”


                แม้ Sesamilk จะเริ่มทำตลาดแบบ B2C แต่ในอนาคตก็มีแผนที่จะจับตลาด B2B เข้าไปในกลุ่มธุรกิจ HORECA ที่ประกอบไปด้วย ธุรกิจโรงแรม (Hotel) ทำเป็นวัตถุดิบป้อนให้กับร้านอาหาร (Restaurant) กาแฟและธุรกิจจัดเลี้ยง (Café and Catering) รวมทั้งมีแผนแปรรูปเป็นไอศกรีม โยเกิร์ต หรือไปแทนที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เคยใช้นมวัวผลิต  
               “ถ้าเรามีไอเดียมีความเชื่ออยากให้ลงมือทำเลยแล้วคำว่าสำเร็จมันจะอยู่ไม่ไกล โดยเฉพาะยุคนี้เป็นยุคที่มีผู้ช่วยมากมาย สิ่งหนึ่งที่สตาร์ทอัพอย่างเราพยายามจะพิสูจน์คือ ถ้าเรามีไอเดียจริงมีคนลงทุนหรือเปล่า ซึ่งเราได้ Angle Fund มาแล้วตอนนี้อยู่ในซีรียส์ Seed Round”
 
                เพราะมุ่งมั่นและไม่ท้อทำให้ Sesamilk แบรนด์ไทยผู้สร้างนวัตกรรมน้ำนมงาแท้ 100% เจ้าแรกของโลก ได้สำเร็จ

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup