Text : Vim viva
 



Main Idea
 
 

• มาเลเซียเป็นตลาดที่ชานมไข่มุกได้รับความนิยมสูงมาก ที่ขึ้นชื่อสุดแบรนด์หนึ่งก็คือ Tealive เนื่องจากการเติบโตของแบรนด์นั้นน่าจับตามองมาก ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีสามารถขยายกว่า 500 สาขาทั้งในมาเลเซียและต่างประเทศ

 

• ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างแบรนด์นี้คือไบรอัน ลู ผู้ประกอบการวัย 34 ปีที่มองเห็นเทรนด์ธุรกิจชานมไข่มุกตั้งแต่ 10 ปีก่อน  เขาเริ่มต้นอย่างไร ดำเนินธุรกิจแบบไหนจึงขยับขยายจนกลายเป็นอาณาจักร F&B มีหลากหลายแบรนด์ให้ดูแล ไปติดตามกัน

 
             

     ไบรอัน ลู  เกิดและเติบโตในปะลิส รัฐที่เล็กที่สุดของมาเลเซีย หลังจบการศึกษาด้านเทคโนโลยีชีวภาพจากมหาวิทยาลัยโมนาช ในเมลเบิร์น ออสเตรเลีย เขาเคยตั้งเป้าจะเข้าสู่สายงานสาธารณสุข แต่ชะตาพลิกผันให้เข้ามาจับธุรกิจชานมไข่มุกโดยการซื้อแฟรนไชส์จากแบรนด์ดังในไต้หวัน เขาบริหารแฟรนไชส์ให้โตแบบก้าวกระโดดอย่างน่าทึ่ง

     ทว่าภายหลังกลับมีเรื่องฟ้องร้องจากเจ้าของแบรนด์ นำไปสู่การฉีกสัญญา และการเริ่มต้นปลุกปั้นแบรนด์ร้านชานมไข่มุกของตัวเองภายใต้ชื่อ Tealive ที่ปัจจุบันขยายกว่า 500 สาขา มีพนักงานกว่า 2,000 คน ให้บริการลูกค้ามากกว่า 5.5 ล้านคน นอกจากนั้น ร้านชาของเขายังขยายไปยังตลาดต่างประเทศ ได้แก่เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน อังกฤษ บรูไน และเมียนมา

     จากร้านชาที่ได้รับความนิยมได้กลายเป็นฐานต่อยอดไปยังธุรกิจอื่น  ในวัยเพียง 34 ปี ไบรอันกลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่มาแรง และเป็นเจ้าของอาณาจักรอาหารและเครื่องดื่ม หรือ F&B หลากหลายแบรนด์ ได้แก่ Tearush, Gindaco, Croissant Taiyaki, Define:food, Define:burgers, Ko Ko Kai และ Yun Bridge Noodle

     ไบรอันฉายแววของการเป็นผู้ประกอบการมาตั้งแต่ยังเล็ก ช่วงอายุ 7 ขวบ งานอดิเรกของไบรอันคือการวาดการ์ตูนเล่าเป็นเรื่องเป็นราว และนำไปขายให้เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนในราคาเล่มละ 50 เซนต์ หลังจากนั้นเขาก็ขยับไปซื้อหนังสือการ์ตูนมาให้เพื่อนๆ เช่าอ่าน ก่อนถึงวันเกิดครบรอบ 8 ขวบ ไบรอันก็ทำรายได้เกือบ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ นั่นถือเป็นความสำเร็จแรกจากการทำธุรกิจ

     หลังเรียนจบจากออสเตรเลีย ไบรอันกลับมาทำงานตรงตามสายที่เรียนมาที่บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่มาเลเซีย แต่ทำได้เพียง 2 ปี สัญชาตญาณของการเป็นนักผู้ประกอบการก็ปะทุ เขาเริ่มมองหาธุรกิจที่น่าสนใจ และสังเกตเห็นว่าชาเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในมาเลเซีย แต่เวลานั้นกระแสคาเฟ่มาแรง ทำให้ใครๆ ก็หันไปเปิดร้านกาแฟ ปี 2010 เขาซึ่งมีอายุเพียง 24 ปีก็บินไปไต้หวันพร้อมบิดาเพื่อติดต่อซื้อแฟรนไชส์ชานมไข่มุกมาลงที่มาเลเซียแต่กลับถูกปฏิเสธจากทุกแบรนด์ที่เข้าพบ

     กระทั่งมีคนชี้เบาะแสว่าแบรนด์ Chatime กำลังต้องการขยายธุรกิจ ไบรอันรีบติดต่อไปทันทีจนได้เป็น master franchise ได้รับสิทธิ์จากบริษัทแม่ให้ดำเนินธุรกิจเป็นรายแรกในประเทศ ไบรอันไม่สร้างความผิดหวังให้ La Kaffa ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เนื่องจากความสามารถในการผลักดันให้ Chatime กลายเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉลียงใต้โดยขยายไป 100 สาขาภายในเวลาเพียง 3 ปี

     อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่บริหารแฟรนไชส์ Chatime ไบรอันเกิดต้องการปั้นธุรกิจชาซึ่งเป็นแบรนด์ของตัวเอง เขาจึงผุด Tealive ขึ้นมา และนั่นก็ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างบริษัท Loob Holdings ของเขากับ La Kaffa ซึ่งเป็นเจ้าของ Chatime ท้ายที่สุดก็นำไปสู่การยกเลิกสัญญาแฟรนไชส์เมื่อปี 2017 หลังจากนั้น ไบรอันจึงหันมาลุยแบรนด์ชานมไข่มุก Tealive อย่างจริงจัง  

     Tealive ประสบความสำเร็จค่อนข้างเร็ว 6 เดือนหลังการเปิดตัวเข้าสู่ตลาด ไบรอันก็ขยายสาขาไปยังเวียดนาม ตามด้วยออสเตรเลีย และมีการแต่งตั้ง Master Franchisee หรือผู้ถือแฟรนไชส์หลักในอินเดียด้วย กลายเป็นแบรนด์ชานมไข่มุกเจ้าแรกจากมาเลเซียที่บุกตลาดอินเดียเปนผลสำเร็จ

     อีกหนึ่งตลาดที่ไบรอันไม่พลาดคือจีนซึ่งเป็นตลาดชาที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก ไบรอันประเมินตลาดชาในจีนมีมูลค่าเกิน 21,000 ลานดอลลาร์ต่อปี และเขาก็ทำสำเร็จเมื่อ Loob Holdings ของเขาได้เซ็นสัญญาร่วมลงทุนกับบริษัทจีน 2 แห่งได้แก่ Zhejiang Boduo International Trade Co. Ltd และ Shanghai Panfei International Trade Co. Ltd ในปี 2018เพื่อขยายร้านชานมไข่มุก Tealive ในจีน โดยสาขาแรกเปิดบริการในนครเซี่ยงไฮ้ และเขาตั้งเป้าหมายจะขยายในตลาดจีนให้ได้ 500 สาขาภายใน 3 ปี

     เคล็ดลับในการเจาะตลาดจีนคือการออกแบบเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็นให้ตอบโจทย์รสนิยมของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ของจีน ซึ่งผลตอบรับออกมาดีมาก โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของทุเรียน ที่ได้รับความนิยมมากสุดได้แก่ มิลค์เชครสทุเรียน เครื่องดื่มชาเขียว และชาอูหลงที่ท้อปด้วยมูสทุเรียน ส่วนเครื่องดื่มร้อนที่ลูกค้าชาวจีนโปรดปรานคือชานมรสขิง ชานมผสมคอลลาเจน และเครื่องดื่มโกโก้

     ในฐานะซีอีโอบริษัทเครื่องดื่มที่เติบโตเร็วสุดในมาเลเซีย ทั้งยังได้รับรางวัลต่างๆ มากมายเกี่ยวกับการเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ไบรอันกล่าวว่าเขาภูมิใจนำเสนอ Tealive ในฐานะแบรนด์ที่เกิดในมาเลเซียแต่เติบโตระดับโลก และมุ่งมั่นจะนำเสนอเครื่องดื่มชารสชาติมาเลเซียแท้ ๆ ไปยังประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในประเทศอื่นๆ ในปีหน้าหรือปี 2021 ไบรอันคาดหวังจะเห็น Tealiveขยายถึง 1,000 สาขาใน 15 ประเทศ ทั่ว 4 ทวีป หากถามถึงคัมภีร์ความสำเร็จใจการดำเนินธุรกิจ ไบรอันกล่าวว่าเขายึดปรัชญา “Think big, start small and scale it fast” คิดการใหญ่ เริ่มจากจุดเล็ก ๆ และขยายธุรกิจให้เร็ว
 

ที่มา : www.thestar.com.my/lifestyle/life-inspired/2019/09/09/tealive-bryan-loo-loob
          https://peoplepill.com/people/bryan-loo/
          https://generationt.asia/leaders/generation-t-bryan-loo
          www.businesstoday.com.my/2018/06/12/tealive-to-open-500-stores-in-china/
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup