Text : Vim Viva
 


 
Main Idea
 

• จุดเริ่มต้นในการเปิดธุรกิจมาจากความเบื่อหน่ายที่จะต้องอยู่เฉยๆ ของแจ็กกี้ เฮง สตรีมาเลเซียวัย 66 ปีที่เคยเป็นช่างเย็บเสื้อผ้ามานาน 40 ปี เมื่อต้องเข้าสู่วัยเกษียณ ดูเหมือนเธอจะไม่คุ้นชินและยังคิดถึงจักรและการตัดเย็บ

 

• เวนดี้ ลูกสาวของเธอจึงแนะนำมารดาให้รับเสื้อผ้าวินเทจมือสองมาซ่อมแซมตกแต่งใหม่เพื่อจำหน่าย เข้ากับกระแส 3R (Reuse, Recycle และ Reduce) ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดังเช่นหลายแบรนด์ดังระดับโลกก็ทำ

 

• ท่ามกลางการตอบรับแฟชั่นสไตล์นี้ของคนรุ่นใหม่ แบรนด์ Heritasia Crafts ที่เน้นจำหน่ายเสื้อผ้าวินเทจก็กลายเป็นธุรกิจของสองแม่ลูกที่ดำเนินมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว 

             



     แจ็กกี้ เฮง และเวนดี้ นีโอห์ เป็นคู่แม่ลูกชาวมาเลเซียที่ทำธุรกิจแฟชั่นด้วยกันภายใต้แบรนด์ Heritasia Crafts เป็นธุรกิจภายในครัวเรือนที่เกี่ยวกับการดัดแปลงและตัดแต่งทรงเสื้อผ้า อาทิ เสื้อ กระโปรง และเดรสแนวย้อนยุควินเทจ รวมถึงการจำหน่ายแอคเซสซอรี่ เช่น เข็มขัด กระเป๋า และอื่นๆ ที่เป็นสไตล์วินเทจเช่นกัน
 
     สินค้าวินเทจของทางร้านทุกชิ้นเป็นของเก่าที่วินเทจแท้จริง ไม่ใช่สินค้าใหม่ทำขึ้นมาเลียนแบบแนววินเทจ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เวนดี้อธิบายว่า “เสื้อผ้าที่จะเรียกว่าเป็นวินเทจแบบแท้จริงคือจะต้องมีอายุอย่างน้อย 20 ปี ชุดวินเทจที่ทางเราได้มา ส่วนใหญ่อยู่ในยุค ‘70 ไปจนถึง ‘80 และมีบ้างที่เป็นของจากยุค ‘90  นั่นหมายความว่าชุดของร้านเราอาจมีความเก่าแก่ถึง 50 ปีเลยก็ว่าได้”
 
     ร้าน Heritasia Crafts เปิดดำเนินการมานานหลายปีแล้ว หลังจากที่คลุกคลีในวงการแฟชั่นวินเทจ เวนดี้ได้เรียนรู้และบอกได้ว่างานวินเทจของแท้นั้นสามารถดูได้จากรายละเอียดต่างๆ ได้แก่ วิธีการพิมพ์ป้ายแบรนด์ที่ติดบนชุด ผ้าที่ใช้ตัดเย็บชุดวินเทจในสมัยก่อนจะมีความทนทาน ดีไซน์ที่เห็นแล้วทราบได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการสม็อค การจับจีบแบบพลีท การปัก การถักลาย ไปจนถึงการตีเกล็ด และบางครั้ง ชุดเหล่านี้จะมาพร้อมเข็มขัดหรือกระดุมที่เข้าชุด  
 
     จุดเริ่มต้นในการเปิดธุรกิจมาจากความเบื่อหน่ายที่จะต้องอยู่เฉยๆ ของแจ็กกี้ สตรีวัย 66 ปีที่ดำรงชีพในการเป็นช่างเย็บเสื้อผ้ามานาน 40 ปี หลังจากที่เธอเลี้ยงดูบุตร 2 คนจนเรียนจบมีงานทำ เธอก็วางมือจากอาชีพการงานเพื่อพักผ่อน แต่ดูเหมือนชีวิตวัยเกษียณจะทำให้เธอไม่คุ้นชินนักและยังคิดถึงจักรและการตัดเย็บ เวนดี้ ลูกสาวของเธอจึงแนะนำมารดาให้รับเสื้อผ้าวินเทจมือสองมาซ่อมแซมตกแต่งใหม่เพื่อจำหน่าย  
 
     คำแนะนำดังกล่าวมาจากแรงบันดาลใจที่เวนดี้ได้ไปเยือนเมืองหลวงโตเกียวของญี่ปุ่น แล้วมีโอกาสเข้าร้านจำหน่ายเสื้อผ้าวินเทจมือสอง เธอกว้านซื้อกลับมาจำนวนมากทั้งเดรส กระโปรง และเสื้อ แม้จะเป็นเสื้อผ้าที่ยังคงความสวยงาม แต่ก็มีตำหนิบ้างเล็กน้อย หลังนำเสนอไอเดียธุรกิจแล้ว เวนดี้จึงขนเอาชุดเหล่านี้มาให้มารดาจัดการซ่อมแซมเพื่อลองขายทางออนไลน์ 
 
     นับจากนั้น แบรนด์ Heritasia Crafts ที่เน้นจำหน่ายเสื้อผ้าวินเทจก็กลายเป็นธุรกิจของสองแม่ลูกที่ดำเนินมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว โดยทั้งคู่จะแบ่งหน้าที่กัน เวนดี้เป็นคนตระเวณหาเสื้อผ้าวินเทจมือสองตามแหล่งต่างๆ ในมาเลเซีย และบ่อยครั้งเดินทางไปเสาะหาถึงต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น กัมพูชา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ส่วนแจ็กกี้ผู้เป็นแม่ รับหน้าที่ซ่อมแซมและตัดแต่งทรง เช่น เปลี่ยนยางยืดใหม่ ทำเข็มขัดใหม่ให้เข้ากับชุด ตัดและต่อชายกระโปรง/กางเกงให้สั้นหรือยาวขึ้น ติดกระดุมใหม่ เปลี่ยนซิป และอื่นๆ เธอใช้เวลาวันละ 5-6 ชั่วโมงในการทำงานอย่างมีความสุข
 
     นอกจากจำหน่ายทางออนไลน์แล้ว Heritasia Crafts ยังขนสินค้าไปขายตามตลาดนัดต่างๆ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 29 ริงกิตไปจนถึง 129 ริงกิตซึ่งเป็นราคาที่เทียบเท่ากับเสื้อผ้ามือหนึ่งแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นที่ขายตามห้าง แต่ทุกครั้งที่ไปออกบูธขาย ก็จะทำยอดได้คราวละ 25-40 ชิ้นซึ่งถือว่าไม่เลว และยังเป็นการแนะนำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักอีกด้วย หากลูกค้าสนใจก็สามารถตามไปซื้อทางออนไลน์ได้ แจ็กกี้กล่าวว่ามีลูกค้าจำนวนมากขึ้นที่หันมาสนใจแฟชั่นวินเทจ ลูกค้าของ Heritasia Crafts ส่วนใหญ่เป็นหญิงสาววัยกลาง 20 ถึง 40 ปีกว่า
 
     ตลอดเวลาที่ผ่านมา แจ็กกี้จะทำงานตัดเย็บที่บ้าน และได้พบเจอลูกค้าไม่มาก แต่หลังจากมาทำแบรนด์ Heritasia Crafts เธอต้องออกบูธ และสนุกสนานกับการได้พูดคุยกับลูกค้าจำนวนมาก หลากหลายกลุ่ม แต่สิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขมากยิ่งกว่าคือการได้นำเสื้อมาเก่ามาดัดแปลงให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ราวกลับการได้ปลุกชีวิตให้สิ่งของที่ไม่ได้ใช้ให้มีประโยชน์อีก
 
     ธุรกิจของเธอจะว่าไปก็เข้ากับกระแส 3R Reuse, Recycle และ Reduce ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดังเช่นหลายแบรนด์ดังระดับโลกก็ทำ เช่น แบรนด์เสื้อผ้าเดินป่า Patagonia หรือแบรนด์ Zero Waste Daniel จากนิวยอร์กที่ผลิตแฟชั่นจากเศษผ้าแบบ 100 เปอร์เซนต์ การที่ Heritasia Crafts อยู่ได้ นอกจากเป็นเพราะคนรุ่นใหม่สนใจแฟชั่นวินเทจมากขึ้นแล้ว ลูกค้าส่วนหนึ่งยังใส่ใจเรื่องแฟชั่นไม่สร้างขยะอีกด้วย
 
     แจ็กกี้ ซึ่งเคยป่วยเป็นมะเร็ง และกลับมาเป็นผู้ประกอบการอีกครั้งในวัย 60 กว่ายังฝากข้อคิดถึงบรรดาผู้สูงวัยว่าลองหาสิ่งที่ชอบและถนัด แล้วแปรสิ่งนั้นเป็นธุรกิจ เช่น ถ้าชอบเข้าครัว อาจจะลองทำเมนูเด่นออกมาขาย หรือถ้าชอบปลูกต้นไม้ ก็สามารถเพาะต้นไม้ขายได้ บางคนชอบงานเย็บปักถักร้อย ก็ลองสร้างผลงานแล้ววางขายดู นอกจากเป็นการฝึกสมาธิ ได้กระตุ้นการใช้สมอง ยังเป็นช่องทางสร้างรายได้อีกด้วย
              
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup