Starting a Business
MOREOVER แบรนด์ของแต่งบ้านที่ถ่ายทอดศิลปะการพับกระดาษลงสู่เหล็กแผ่น
Main Idea
- ของแต่งบ้านที่วางขายในตลาดส่วนใหญ่ทำจากไม้และพลาสติก แต่เหล็กที่มีอายุการใช้งานนานกว่ากลับไม่ถูกเลือก เนื่องจากไม่สวยงาม เข้ากับบ้านลำบาก นวัต ศักดิ์ศิริศิลป์ และกรวุฒิ กาญจนาบุญมาเลิศ จึงมองเห็นโอกาสการเติบโตในธุรกิจนี้
- ทั้งคู่ ซึ่งทำงานด้านครีเอทีฟ แต่มีความสนใจในการแต่งบ้าน จึงชวนกันมาสร้าง Moreover แบรนด์ของแต่งบ้านที่ถ่ายทอดศิลปะการพับกระดาษลงสู่เหล็กแผ่น
เคยดีไซน์ผลิตภัณฑ์ให้บริษัทต่างๆ มามากมาย จนวันหนึ่งอยากทำแบรนด์งานดีไซน์ของตนเองบ้าง ดีไซเนอร์หนุ่ม นวัต ศักดิ์ศิริศิลป์ จึงชักชวน กรวุฒิ กาญจนาบุญมาเลิศ ที่ทำงานด้านครีเอทีฟ แต่มีความสนใจในการแต่งบ้านมาสร้าง Moreover แบรนด์ของแต่งบ้านที่ถ่ายทอดศิลปะการพับกระดาษลงสู่เหล็กแผ่น
ย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน ของแต่งบ้านที่วางขายในตลาดส่วนใหญ่ทำจากไม้และพลาสติก แต่เหล็กที่มีอายุการใช้งานนานกว่ากลับไม่ถูกเลือก เนื่องจากไม่สวยงาม เข้ากับบ้านลำบาก ทั้งคู่จึงมองเห็นโอกาสการเติบโตในสนามธุรกิจนี้ เพราะไม่มีคู่แข่ง
เอกลักษณ์ของ Moreover คือของแต่งบ้านที่ทำจากเหล็กพับ ดีไซน์เรียบง่ายสไตล์มินิมอลเพื่อให้เข้ากับบ้านทุกสไตล์ มีฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจ และแต่ละคอลเลกชันสร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจที่ต่างกัน เริ่มจาก Origami Collection ได้แรงบันดาลใจจากการพับกระดาษแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า Origami เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงคอนเซปต์ของแบรนด์ Season Collection ได้แรงบันดาลใจจากความสวยงามของฤดูกาลต่างๆ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าหญิง หลังวางจำหน่าย ลูกค้าชายฟีดแบ็กให้ดีไซน์ของแต่งบ้านสไตล์ผู้ชายบ้าง จึงทำให้เกิด Oasis Collection ที่มาพร้อม Cactus ต้นกระบองเพชรที่หนุ่มๆ ใช้แขวนนาฬิกาและแว่นตาได้ Come Home Collection เกิดจากความคิดอยากนำวัสดุอื่น เช่น ไม้ มาใช้ร่วมกับเหล็ก โดย Secret Garret เป็นสินค้าขายดี ได้แรงบันดาลใจจากบ้านน้ำท่วม และ Luck Collection ได้แรงบันดาลใจจากความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยและโชคลาภ
“เราเริ่มธุรกิจอย่างมีสติ ในช่วงเริ่มต้นผลิตสินค้าออกมาเพียงเล็กน้อยแล้วฝากขายตามร้านต่างๆ เพื่อดูว่าเป็นที่ต้องการของตลาดหรือไม่ ฟีดแบ็กเป็นอย่างไร จากนั้นนำฟีดแบ็กที่ได้อย่างเรื่องของดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานมาพัฒนาให้สินค้าออกมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ความท้าทายที่เจอในช่วงเริ่มต้นคือ ลูกค้าเข้าใจว่าสินค้าทำจากกระดาษ เหล็กจะเกิดสนิมเลยต้องสร้างการรับรู้ผ่านวิดีโอและแคปชั่นที่บอกเล่าว่า สินค้าทำจากเหล็กพับ สีอบด้วยความร้อนจึงไม่เป็นสนิม พร้อมทั้งแนะนำวิธีการใช้งานและคุณสมบัติของเหล็ก” นวัตกล่าว
นอกจากนี้ Moreover ยังมีบริการรับออกแบบของขวัญพรีเมียม รองรับความต้องการขององค์กรต่างๆ ที่มองหาของขวัญมอบให้ลูกค้าในช่วงเทศกาลพิเศษ และมีบริการแก้ปัญหาทางธุรกิจด้วยงานดีไซน์ ซึ่งเป็นการนำงานดีไซน์เข้าไปแก้ปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานในองค์กรให้ดียิ่งขึ้น
ปัจจุบัน Moreover มีลูกค้าไทยและต่างชาติที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบงานดีไซน์ แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ ลูกค้าที่มองหาของขวัญดีไซน์เก๋ มีความสร้างสรรค์ ใช้งานได้จริง ราคาสมเหตุสมผล เพื่อมอบให้คนที่รักในช่วงเทศกาลและวันสำคัญ และลูกค้าที่มองหาของแต่งบ้านสไตล์มินิมอล มีฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจมาตกแต่งพื้นที่ของตนเอง เช่น คอนโดมิเนียม บ้าน พื้นที่ทำงาน
ทั้งนี้ เนื่องด้วยลูกค้า Moreover มักกลับมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์หลังจากเห็นสินค้าจริงที่หน้าร้าน เจ้าของแบรนด์ทั้งสองจึงให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจแบบ Omni Channel คือวางจำหน่ายสินค้าทั้งที่ร้านจำหน่ายของดีไซน์ในห้างสรรพสินค้า และช่องทางออนไลน์ เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ของแบรนด์ และมาร์เก็ตเพลซต่างๆ ซึ่งการเข้าไปจำหน่ายในหลากหลายช่องทางช่วยให้สินค้าถูกมองเห็นมากขึ้น แบรนด์เป็นที่รู้จักเร็วขึ้น
“Moreover เป็นเจ้าแรกๆ ที่ทำของแต่งบ้านจากเหล็กพับ เราพยายามหลีกหนีจากแบรนด์อื่นในตลาด เพื่อสร้างความแตกต่างและเป็นที่จดจำเพราะมีตัวตนที่ชัดเจน เมื่อลูกค้าจดจำได้ก็สามารถแยกระหว่างสินค้าของเราและสินค้าลอกเลียนแบบได้” กรวุฒิกล่าว
เมื่อถามถึงอนาคตของ Moreover นวัตบอกกับเราว่า ตั้งใจเพิ่มช่องทางจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้มากขึ้นและครอบคลุมช่องทางที่ลูกค้าใช้งาน มุ่งขยายตลาดไปทางฝั่งยุโรปเพราะลูกค้าที่นั่นให้ผลตอบรับดี และสร้างความแปลกใหม่ด้วยการเพิ่มประเภทสินค้า สีสัน ฟังก์ชันการใช้งานใหม่ๆ รวมทั้งนำวัสดุใหม่ๆ มาใช้ และพัฒนาดีไซน์ให้สะดุดตายิ่งขึ้น
www.moreoverdesign.com
Facebook : moreoverdesign
Line : @moreoverdesign
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup