Text : Kritsana S. 
 



Main Idea
 

• โค้ชนัทตี้ เดิมทีเคยเป็นพนักงานต้อนรับภาคพื้นดินของสายการบิน  และด้วยความที่ต้องใส่ชุดยูนิฟอร์มในทุกวันที่ทำงาน จึงสังเกตเห็นได้ง่ายกว่าการใส่ชุดทำงานทั่วไปว่า หากน้ำหนักเริ่มเพิ่มขึ้น จึงเธอเริ่มต้นออกกำลังกายอย่างจริงจัง  

 

• เชื่อหรือไม่เพียงแค่เธอโพสต์รูปรูปร่างใหม่ลงในเฟซบุ๊ก ปรากฏว่มีคนทักเข้ามาขอคำปรึกษาเรื่องการออกกำลังกายเยอะมาก สุดท้ายเธอจึงทิ้งอาชีพ GROUND STAFF สู่อาชีพใหม่ TRAINNER อย่างเต็มตัว

     “ถ้าไม่อ้วนขึ้นก็ไม่ได้ออกกำลังกาย ถ้าไม่เริ่มต้นออกกำลังกายก็คงไม่ได้เป็นเทรนเนอร์” นี่คือประโยคจาก นัทตี้-สัณฐิฎา สุรพญานนท์ ที่บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นเทรนเนอร์แบบสั้นกระชับที่สุด


     นัทตี้ หรือที่เรียกกันติดปากว่า โค้ชนัทตี้ เดิมทีเคยเป็นพนักงานต้อนรับภาคพื้นดินของสายการบินหนึ่ง และด้วยความที่ต้องใส่ชุดยูนิฟอร์มในทุกวันที่ทำงาน จึงสังเกตเห็นได้ง่ายกว่าการใส่ชุดทำงานทั่วไปว่า ตัวเองเริ่มมีรูปร่างอ้วนขึ้น โดยน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากเดิม 2-3 กิโลกรัม แม้ตัวเลขจะไม่มากมายเท่าไหร่นัก แต่ก็สามารถทำให้ผู้หญิงรูปร่างผอมมีพุงยื่นออกมาได้ ถึงขนาดตอนนั้นต้องยืมกระโปรงทำงานของเพื่อนร่วมงานที่ไซส์ใหญ่กว่าไซส์เดิมของเธอมาใส่แก้ขัดไปก่อน และความรู้สึกว่าตัวเองอ้วนก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น เมื่อมีโอกาสได้ใส่ชุดว่ายน้ำตอนไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน





     และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเริ่มต้นออกกำลังกายอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าไว้ว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้กลับไปผอมเหมือนเดิมให้เร็วที่สุด ซึ่งนอกจากออกกำลังกายแล้วเธอคุมอาหารด้วยการไม่กินเยอะเกินไป เลือกกินเฉพาะอาหารที่ดี มีประโยชน์กับร่างกาย และไม่อดข้าว ผลที่ได้หลังจากออกกำลังกายได้ 2 เดือน คือผอมลง พุงหายไป และกลับมาใส่ยูนิฟอร์มได้


     เชื่อหรือไม่เพียงแค่เธอโพสต์รูปรูปร่างใหม่ลงในเฟซบุ๊ก ปรากฏว่าเป็นที่สนใจอย่างมากและมีคนทักเข้ามาขอคำปรึกษาเรื่องการออกกำลังกายเยอะมาก ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีก่อนเทรนเนอร์สอนออกกำลังกายมีไม่มาก รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกายก็หาได้ค่อนข้างยาก และเมื่อสิ่งที่นำเสนอเริ่มมีคนสนใจมากขึ้น เธอจึงตัดสินใจไปเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเป็นเทรนเนอร์ เพื่อจะได้ตอบคำถามเรื่องการออกกำลังกายให้ถูกต้อง และตัวเองก็ได้ออกกำลังกายอย่างถูกวิธี





     ทั้งนี้จากการที่เธอได้โพสต์เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย โดยเฉพาะคอนเทนต์การออกกำลังกายโดยไม่ใช้อุปกรณ์ที่คิดท่าขึ้นมาเอง รวมไปถึงอาหารการกินยิ่งทำให้คนติดตามเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็น Influencer ด้านการออกกำลังกาย มีคนรู้จักมากขึ้น และเริ่มมีชื่อเสียง จนได้ไปออกรายการทางช่อง Thai PBS สิ่งนี้เองกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เธอมั่นใจและตัดสินใจทิ้งงานประจำที่ทำอยู่เพื่อก้าวมาเป็นเทรนเนอร์เต็มตัว แม้เทรนเนอร์เป็นอาชีพที่ค่อนข้างใหม่ในช่วงเวลานั้น


     อย่างไรก็ตามเธอยังมองว่าการออกกำลังกายจะเป็นเทรนด์ฮิตไปอีกนาน เนื่องจากคนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น และเทรนเนอร์จะกลายเป็นอาชีพยอดนิยมที่สร้างรายได้ได้แน่นอน ที่สำคัญเธอมีคนติดตามบนโซเชียลมีเดียที่เชื่อมั่นในตัวเธอ และต้องการที่จะให้เธอสอนออกกำลังกาย และก็ไม่ผิดหวัง เพราะเมื่อคนที่ติดตามเธอรู้ว่าเธอเป็นเทรนเนอร์ก็มีการจ้างเธอไปสอนที่บ้าน คนว่าจ้างไปพูดเกี่ยวกับการออกกำลังกายในงานต่างๆ มีคนจ้างไปสอนออกกำลังกายที่บ้าน และตอนนี้ก็เป็นโค้ชประจำในรายการ ข.ขยับ ช่อง Thai PBS ซึ่งรายได้ตอนนี้เยอะกว่าตอนทำงานสายการบินอีกสามารถติดตามความเคลื่อนไหว


     Facebook : trainhardlookhotbynattie
     Instagram : nattietrainhard
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup