Text : นนท์ธวัช ไชยวัง 




Main Idea
 

• เพราะการสั่งซื้อออนไลน์ที่โตแบบก้าวกระโดดเพียงชั่วข้ามคืนในช่วงวิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้อาชีพขับรถส่งอาหารเดลิเวอรี่เป็นที่ต้องการ และเป็นโอกาสสร้างรายได้ให้กับหลายๆ คน

 

• วันนี้เราจึงจะพามาจับเข่าคุยกับพนักงานขับรถเดลิเวอรี่ส่งอาหารที่ใช้เวลาเพียง 15 วัน มีรายได้ถึง 50,000 บาท รวมถึงคนอื่นๆ ถึงเทคนิคการทำเงินในช่วงนี้กัน

     ช่วงนี้ใครๆ ก็หยุดทำงานอยู่ที่บ้านเพราะอยากเลี่ยงการติดโรคโควิด-19 กัน ทำให้หลายต้องไปหาซื้อเสบียงตุนไว้ในตู้เย็นกัน แต่มีบางคนก็สั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่มารับประทานกันในครอบครัว จึงทำให้พนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่มีรายได้มีงานเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ  ล่าสุดกลายเป็นข่าวโด่งดังในสังคมออนไลน์ว่ามีพนักงานคนหนึ่งทำงานส่งอาหารเพียง 15 วัน มีรายได้ถึง 50,000 บาท วันนี้จะพามาจับเข่าคุยกับพนักงานคนดังกล่าว รวมถึงคนอื่นๆ ถึงเทคนิคการทำเงินในช่วงนี้ว่าจะต้องทำอย่างไร





     เทพธารินทร์  จันทิม หรือเจมส์ หนุ่มวัย 27 ปี พนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่ของ LINE MAN คนที่เป็นข่าวโด่งดังในโลกออนไลน์ เล่าว่า ทำงานส่งอาหารเดลิเวอรี่มา 4 ปีแล้ว แต่ปีนี้เป็นปีที่มีลูกค้าสั่งอาหารเยอะเป็นพิเศษเนื่องจากโควิด-19 ระบาดทำให้ผู้คนกลัวไม่กล้าออกบ้าน โดยช่วงเที่ยงและช่วงเย็นจะมีลูกค้าสั่งอาหารเข้ามาเยอะสุดเพราะเป็นช่วงที่รับประทานอาหารกลางวัน และอาหารเย็น ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งตามโครงการบ้านจัดสรร คอนโดมีเนียม  หรือบางออฟฟิศที่ยังทำงานอยู่ ก็จะมีพนักงานสั่งอาหารกัน


     ปัจจุบันพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิม คือสั่งอาหารถี่ขึ้น ส่วนอาหารที่สั่งกันเข้ามามากก็จะมีหลากหลายเมนู อย่างเช่นกลางวันจะสั่งเป็นอาหารตามสั่ง ส้มต้ม ไก่ย่าง ยำต่างๆ ของหวานเย็นๆ เพื่อดับร้อน  ส่วนช่วงเย็นๆ พวกอาหารฟาสต์ฟู้ดจะถูกสั่งมาเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ทำงานหนักในช่วงนี้ เขายอมรับว่าเหนื่อยมากแต่ดีใจเวลาเห็นรายได้ เขาเผยเทคนิคความสำเร็จในการทำงานส่งอาหารเดลิเวอรี่ว่า หากใครอยากหารายได้เสริมในช่วงนี้ต้องขยัน และอึดจริงถึงจะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ


     นอกจากนี้จะต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเพราะอากาศในช่วงนี้ก็ร้อนพอสมควรจะทำให้เราหงุดหงิดได้ง่าย ดังนั้นต้องทำให้ตัวเองเป็นคนใจเย็นที่สุด รวมถึงจะต้องพักผ่อนร่างกายให้เพียงพอพร้อมทำงานแบบไม่ง่วงในเวลาทำงานซึ่งอาจทำให้งานผิดพลาดได้ ที่สำคัญจะต้องรับประทานอาหารมาให้พร้อมเพราะช่วงที่งานเข้าจะไม่ค่อยมีเวลาให้รับประทานอาหารได้เลย บางคนหิวทนไม่ไหวบ้างครั้งก็มีผลต่อการทำงานได้เช่นกัน





     ขณะที่ ยงยุทธ  ชานิญตย์ พนักงานขับ GrabFood ส่งอาหารเดลิเวอรี่ เล่าให้ฟังว่า ช่วงนี้งานเยอะสามารถสร้างรายได้ให้เขาและครอบครัวได้เป็นอย่างดีถึงแม้ว่าจะทำเป็นอาชีพเสริม ซึ่งจากเดิมทำอาชีพค้าขายทั่วไปถ้ามีเวลาว่างก็จะมาขับ GrabFood ส่งอาหาร เขาบอกอีกว่านอกจากรายได้ดีแล้วงานส่งอาหารยังเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับชีวิตของเขา ส่วนตัวรู้สึกว่ามันท้าทายดี มีความอิสระเป็นของตัวเอง ที่สำคัญได้เรียนรู้เส้นทาง และร้านอาหารดังๆ มากขึ้น


     เขาบอกอีกว่า ในปัจจุบันมีคนหันมาขับรถส่งอาหารเดลิเวอรี่มากขึ้นเป็นเพราะโควิด-19 ระบาด ทำให้คนที่ตกงาน หรือถูกพักงานหาอาชีพเสริมมากขึ้นทำให้มีการแย่งงานกันไปบ้าง แต่ทั้งนี้หากใครขยันตื่นแต่เช้าอยู่รับงานยันดึกงานก็จะเข้ามาเรื่อยๆ ความอดทนเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่จะต้องมีหากใครคิดจะทำอาชีพนี้เพราะปัจจุบันมีคิวที่ไปต่อรอรับอาหารเยอะขึ้น ประกอบกับบางร้านจัดระเบียบการรับอาหารใหม่ทำให้ล่าช้า


     จากปัญหาความล่าช้าในการรออาหารบางครั้งทำให้ลูกค้าหงุดหงิดใส่ จึงทำให้เขาต้องฝึกตัวเองให้เป็นคนใจเย็น และค่อยๆ พูดกับลูกค้าด้วยเหตุผลที่ฟังได้ ส่วนตัวยังเชื่อเสมอว่าถ้าจะทำอาชีพบริการต้องท่องไว้ว่า ‘ลูกค้าคือพระเจ้า’ ส่วนอีกปัญหาที่พบเจอคือ ลูกค้าชอบปักหมุดผิด บางครั้งยังไม่ถึงที่หมาย  บางครั้งก็เลยที่หมายไป ดังนั้นวิธีการแก้ไขปัญหาคือ โทรสอบถามเส้นทางให้ละเอียด และคอยศึกษาเส้นทาง จำให้ดีถ้ามาส่งอาหารครั้งต่อไปก็สามารถมาได้ง่าย  ส่วนใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริมหากจะมาขับ GrabFood จะต้องเตรียมเงินทุนสำรองประมาณวันละ 2,000 บาท เพราะจะต้องสำรองเงินจ่ายค่าอาหารให้ลูกค้าไปก่อน





     มาดูอีก 1 คนที่ประสบความสำเร็จในการทำอาชีพเสริมในช่วงนี้ ณัฐพร  รอดลา เดิมเคยทำงานประจำ แต่ขณะนี้ถูกบริษัทสั่งพักงานเนื่องจากได้รับผลกระทบโควิด – 19 ทำให้เขาตัดสินใจมาขับรถส่งอาหารเป็นอาชีพเสริม ซึ่งช่วงแรกๆ ก็รู้สึกเขินอาย เพราะเป็นคนที่พูดไม่ค่อยเก่ง แต่พอมาคิดไปคิดมาหลังชนฝาแล้วนึกถึงรายจ่ายแล้วทำให้เขาตัดสินใจหาอาชีพเสริมด้วยการขับรถส่งอาหารมาจะครบ 1 เดือนแล้ว ซึ่งผลตอบรับดีมากๆ  ทำให้เขามีรายได้หลายหมื่นบาทแล้วขณะนี้


     ณัฐพร  ย้ำอีกว่า สถานการณ์แบบนี้ไม่เลือกงานไม่ยากจน ทุกคนต้องรู้จักปรับตัวเพื่อทางรอดของใครของมัน และจะต้องทำอย่างจริงจัง ช่วงนี้งานเยอะก็ควรน้ำขึ้นให้รีบตัก เพราะไม่มีใครคาดเดาว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายได้ในช่วงไหน นอกจากนี้จะต้องขยันตื่นมาแต่เช้าเพื่อรับงาน จดจ้องอยู่กับหน้าจอมือถือเพื่อชิงกดรับงานก่อนคนอื่น ยอมรับว่ามีคู่แข่งเยอะมาก แต่ด้วยความขยันตื่นเช้า นอนดึกทำให้เขาได้งานเยอะ เขาทิ้งทายอีกว่า คนที่มีกริยานอบน้อมจะทำให้มีลูกค้ารักและเอ็นดูบางครั้งลูกค้าก็ให้ทิปเป็นค่าขนม ค่าน้ำมันรถ เล็กน้อยๆ กับเขา
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup