Starting a Business

The Ice Cream&Cookie ไอเดียทำเงินด้วยการเปิดรับสมาชิกรายเดือน

Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์
 

 

Main Idea
 
  • นาตาชา เจียม เริ่มต้นธุรกิจไอศกรีมแซนด์วิชคุกกี้แบบโฮมเมดเล็กๆ จากเงิน 2 หมื่นดอลลาร์สิงคโปร์ ด้วยการเปิดเป็นร้าน Pop-Up ตามตลาดนัดและงานต่างๆ โดยบริการ Takeaway-ซื้อกลับบ้าน และ Delivery-ส่งถึงบ้าน
  • จากบู๊ธขายไอศกรีมตามตลาดนัด การเติบโตอย่างมั่นคงและค่อยเป็นค่อยไป  ทำให้ The Ice Cream&Cookie กลายเป็นซัพพลายเออร์ค้าส่งไอศกรีม มีพื้นที่การผลิตขยายใหญ่กว่าเดิม 10 เท่า และขยายธุรกิจเป็นธุรกิจ “Pint Society” ที่รับลูกค้าในรูปแบบสมาชิกรายเดือน
 



     มีคำกล่าวที่ว่า “ถ้าได้ทำงานที่ชอบก็เหมือนว่าไม่ได้ทำงานเลยสักวัน” ชีวิตของ นาตาชา เจียม อดีตสาวนักกฎหมายวัย 33 ปีที่ผันมาทำธุรกิจไอศกรีมก็ดูเหมือนจะเข้าข่ายนั้น ธุรกิจไอศกรีมแซนด์วิชคุกกี้แบบโฮมเมดเล็กๆ ของเธอที่ใช้เงินออม 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ในการลงทุนเติบโตสร้างรายได้งอกเงยเท่าตัวทุกปีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 ที่ก่อตั้งธุรกิจจนมีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานบนพื้นที่กว้างขวางกว่าเดิม 10 เท่า 

     นาตาชาถูกเลี้ยงดูมาในนครเมลเบิร์น ออสเตรเลียที่ซึ่งครอบครัวของเธอตั้งรกรากนานกว่า 3 ทศวรรษแล้ว “เท่าที่จำความได้ ฉันชอบทำขนมอบมาแต่ไหนแต่ไร ความทรงจำในวัยเด็กคือ หัดทำเค้กจากแม่ และอาหารคาวจากพ่อ ไอศกรีมเป็นเมนูหนึ่งที่ฉันกับน้องชายมักช่วยกันทำช่วงซัมเมอร์” นาตาชาเล่าอีกว่า “ไอศกรีมจึงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันมาแต่เด็ก และตอนนี้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว”

     หลังเรียนจบนิติศาสตร์ด้วยคะแนนเกียรตินิยม นาตาชาได้งานทำในสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่งในเมลเบิร์น เมื่อทำไประยะหนึ่งพบว่า ไม่ใช่งานที่เธอถนัด เธอชอบงานเขียนและคิดว่าทำได้ดีกว่า ตอนที่เป็นนักศึกษา เธอเคยทำงานฟรีแลนซ์ให้กับบางสำนักพิมพ์ เธอมีบล็อกและช่องยูทูบนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับความงาม เธอค้นพบว่าตัวเองชอบทำงานด้านสื่อมากกว่าจึงสมัครงานใหม่เป็นผู้สื่อข่าวที่ “Female” นิตยสารเกี่ยวกับแฟชั่นและความงามในสิงคโปร์

     นาตาชาย้ายมาอยู่สิงคโปร์เป็นการถาวร จุดเริ่มต้นที่ทำให้กลายมาเป็นเจ้าของกิจการคือ สามีของเธออยากกินไอศกรีมแบบที่เคยกินและที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐฯ ไอศกรีมที่ว่าลักษณะเป็นคุกกี้ขนาดใหญ่ 2 อันประกบกัน มีไอศกรีมสอดไส้ตรงกลาง หลังจากทำให้สามีรับประทาน นาตาชาก็เกิดความคิดว่าไอศกรีมแบบนี้ไม่ค่อยเห็นวางขายในสิงคโปร์ เธอจึงลองทำไปขายเวลามีงานปาร์ตี้ งานอีเวนต์ หรือตามตลาดนัด เป็นรายได้เสริมจากอาชีพผู้สื่อข่าว

     6 เดือนผ่านไป ปรากฏว่าออร์เดอร์เข้ามาล้นหลามจนทำแทบไม่ทัน ด้วยไม่ต้องการเบียดบังเวลางานประจำ นาตาชาจึงตัดสินใจลาออกเพื่อมาลุยทำธุรกิจไอศกรีมเต็มตัว The Ice Cream&Cookie Co. จึงกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ.2555 ด้วยเงินลงทุน 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ เริ่มต้นจากการผลิตในครัวขนาดเล็กและเปิดเป็นร้าน Pop-Up ตามตลาดนัดและงานต่างๆ โดยบริการ Takeaway-ซื้อกลับบ้าน และ Delivery-ส่งถึงบ้าน

     จุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อไปออกบู๊ธที่งานแห่งหนึ่งแล้วมีเจ้าของร้านอาหารสนใจ ติดต่อให้ผลิตไอศกรีมให้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการขายส่ง และเข้าสู่กระบวนการผลิตระดับอุตสาหกรรม โดยนาตาชาตั้งเป้าจะเป็นผู้ผลิตระดับเวิลด์คลาส จึงส่งพนักงานไปอบรมเรื่องการผลิตไอศกรีม และพัฒนาโรงงานผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

     การเปลี่ยนงานอดิเรก ให้เป็นอาชีพหลักทำเงินไม่ใช่เรื่องเล่นขายของ นาตาชายอมรับว่าเคยท้อใจและเกือบโยนผ้ากันเปื้อนทิ้งก็หลายหน เธอเปรียบการทำธุรกิจก็เหมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ต้องเดินหน้าต่อไปให้ถึงจุดหมาย การทำธุรกิจถือเป็นบททดสอบความอดทนได้ดีทีเดียว

     จากบู๊ธขายไอศกรีมตามตลาดนัด ตามงานต่างๆ การเติบโตอย่างมั่นคงและค่อยเป็นค่อยไป บวกกับอิทธิพลของการบอกกันปากต่อปาก ทำให้ The Ice Cream&Cookie มาถึงจุดของการเป็นซัพพลายเออร์ค้าส่งไอศกรีมที่ได้มาตรฐาน มีพื้นที่การผลิตขยายใหญ่กว่าเดิม 10 เท่า การันตีด้วย ISO 22000 มาตรฐานความปลอดภัยอาหารระดับสากล เริ่มต้นจากค้าปลีกไอศกรีม ไปสู่การเป็นซัพพลายเออร์มีโรงงานผลิตเพื่อขายส่ง นาตาชาไม่ต้องการยึดติดแค่การทำธุรกิจแบบ B2B เธอยังอยากขายปลีกให้ผู้บริโภคทั่วไปอยู่

     ปี พ.ศ.2559 นาตาชาจึงขยายธุรกิจเพิ่ม เป็นธุรกิจ “Pint Society” ที่รับลูกค้าในรูปแบบสมาชิกรายเดือน เมื่อลูกค้าจ่ายค่าสมาชิกเดือนละ 28 ดอลลาร์ฯ สิ่งที่ได้รับคือทางบริษัทจะส่งไอศกรีมรสใหม่ๆ ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันตรงถึงบ้าน จำนวน 2 ไพน์ 2 รสชาติต่อเดือน โดยหนึ่งไพน์จะมีปริมาณ 473 มิลลิลิตร หรือประมาณ 10-12 ลูก
 
     การทำธุรกิจไอศกรีมในรูปแบบ Subscription Box มีข้อดีนอกเหนือจากการได้เข้าถึงผู้บริโภคแบบ B2C โดยตรง ยังทำให้ได้ทดสอบไอศกรีมรสชาติใหม่ๆ ที่คิดค้นขึ้น โดยนาตาชาและทีมงานจะระดมสมองคิดสูตรไอศกรีมขึ้นมา ทดลองทำและทดสอบรสชาติแล้วก็ส่งให้สมาชิกบริโภคเพื่อดูว่าได้รับการตอบรับมากน้อยแค่ไหน รสชาติไหนเป็นที่นิยมก็จะได้นำไปผลิตเพื่อขายส่งต่อไป           

     การทำธุรกิจไอศกรีมของนาตาชาจึงกลายเป็นมีทั้งแบบขายส่งและขายปลีกในรูปแบบที่แตกต่างกัน และเธอก็ต้องการทำให้ดีทั้งสองแบบ พร้อมทั้งขยายการตลาดเพิ่มโดยปีที่แล้ว และความสำเร็จมาเยือนอีกครั้งเมื่อ The Ice Cream&Cookie ได้ถูกทาบทามให้วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตของสิงคโปร์ เช่น Cold Storage และ NTUC

     เคล็ดไม่ลับสู่ความสำเร็จของการดำเนินกิจการไอศกรีมของนาตาชาคือ การไม่หยุดนิ่ง การลงทุนพัฒนาสินค้าและบริการอยู่สม่ำเสมอ นอกจากไอศกรีมแซนด์วิชคุกกี้แล้ว นาตาชายังเพิ่มผลิตภัณฑ์ เช่น เค้กไอศกรีม และไอศกรีมบรรจุกระปุกเป็นอีกทางเลือกให้ลูกค้าอีกด้วย
 
     แต่สิ่งที่นาตาชาให้ความสำคัญมากที่สุดคือ การรักษามาตรฐานสินค้าให้มีคุณภาพดี สูตรการทำไอศกรีมอาจค้นหาจากกูเกิลหรือยูทูบได้ แต่การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพและเทคนิคต่างๆ ในการผลิตคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ไอศกรีมได้มาตรฐาน ไม่เท่านั้นเธอยังปรับปรุงเว็บไซต์และระบบการสั่งซื้อสินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าให้มากเท่าที่จะทำได้อีกด้วย นาตาชาคาดหวังว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า The Ice Cream&Cookie Co.จะขึ้นแท่นผู้ผลิตไอศกรีมยุคใหม่แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเธอเชื่อมั่นว่าการทุ่มเทให้กับธุรกิจจะทำให้เป้าหมายที่วางไว้เป็นจริงได้
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup