Starting a Business

ส่องธุรกิจ “Treats” ดิลิเวอรีขนมทั่วโลกถึงบ้านรายเดือน

Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์
 

 

Main Idea
 
  • ในขณะที่ใครต่อใครมุ่งทำธุรกิจอาหาร เพราะคิดว่าอย่างไรเสียคนก็ต้องกินอาหาร ดังนั้น หากทำธุรกิจนี้ก็น่าจะอยู่รอดได้ไม่ยาก
 
  • สำหรับ โรเจอร์ จิน กลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะจับธุรกิจขนมจากนานาประเทศส่งตรงถึงบ้านรายเดือน เพียงเพราะอยากให้คนอื่นได้ชิมขนมแปลกๆ จากประเทศอื่น ยิ่งไปกว่านั้น เขาสามารถทำรายได้เป็นตัวเลข 7 หลักภายในเวลา 18 เดือน!!
 



     เชื่อว่าหลายคนที่อยากเป็นผู้ประกอบการ แต่ไอเดียตีบตัน ไม่รู้จะเริ่มธุรกิจอะไร เมื่อไปปรึกษาคนรอบข้าง คำตอบหนึ่งที่มักได้รับคือ “ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสิเพราะไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือแย่อย่างไร ผู้คนก็ต้องกิน ของกินนี่แหละขายง่ายดี”

     แต่สำหรับ โรเจอร์ จิน หนุ่มอเมริกันเชื้อสายเอเชียวัย 28 ปี เขามีเหตุผลในการเข้ามาจับธุรกิจขนมจากนานาประเทศส่งตรงถึงบ้านรายเดือนเพราะอยากให้คนอื่นได้ชิมขนมแปลกๆ จากประเทศอื่น หลังจากที่เดินทางไปยังประเทศจีนแล้วได้เดินสำรวจร้านขายของชำแล้วเห็นขนมที่เคยกินช่วงเป็นนักเรียนมัธยมโรงเรียนนานาชาติในเซี่ยงไฮ้ โรเจอร์ฉุกคิดว่าคงจะดีไม่น้อยที่ผู้คนจากต่างวัฒนธรรมจะได้ลิ้มรสขนมเหล่านี้ด้วย

     ปูมหลังของโรเจอร์คือ ต้องย้ายตามครอบครัวไปอาศัยอยู่ในหลายประเทศ รวมถึง สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน ก่อนจะกลับไปปักหลักที่สหรัฐอเมริกา โรเจอร์ไม่ชอบเรียนหนังสือ เขาฝันอยากเป็นผู้ประกอบการตั้งแต่อายุ 14 ปี ครั้งหนึ่งในห้องเรียนตรีโกณมิติ โรเจอร์เกิดความรู้สึกเหมือนถูกจำกัด ไม่รู้ว่าตัวเองจะเรียนไปทำไมเพราะบางวิชาที่เรียนก็ไม่ได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน เขาอยากมีอิสระในการกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง นั่นเป็นความคิดของโรเจอร์ช่วงเป็นวัยรุ่น

     ต่อให้ไม่อยากเรียนแค่ไหน แต่โรเจอร์ก็ดำเนินตามครรลองที่ควรจะเป็น นั่นคือการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ด้วยความที่อยากจบเร็ว อยากออกมาทำอะไรเป็นของตัวเอง ในแต่ละเทอม โรเจอร์ลงวิชาเรียนแบบเท่าตัว จนในที่สุดก็เรียนจบสาขาการเงินในเวลาเพียง 2 ปีครึ่ง จากนั้นก็ย้ายไปยังซิลิคอน วัลเลย์เพื่อเริ่มต้นการเป็น Tech Startup งานแรกคือ การพัฒนา “Bridge” เว็บไซต์และแอพพลิเคชันที่เชื่อมโยงกลุ่มคนที่มีความสนใจในสิ่งเดียวกัน แต่ธุรกิจแรกที่เขาเริ่มต้นไม่ประสบความสำเร็จ โรเจอร์จึงถอยกลับไปตั้งหลักด้วยการหางานประจำทำ

     แม้การทำงานประจำจะทำให้มีรายได้สม่ำเสมอ และมีความเสี่ยงน้อย แต่โรเจอร์ก็ยังครุ่นคิดถึงการทำธุรกิจ และจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาเดินออกจากพื้นที่ปลอดภัยคือ การเดินทางไปจีนเมื่อ ปี พ.ศ.2558 แล้วเห็นขนมโปรดที่ตัวเองเคยกินตอนเรียนมัธยม เมื่อกลับมายังสหรัฐฯ เขาก็เริ่มคิดแผนธุรกิจ ใช้เวลาไม่ถึง 3 เดือนในการออกแบบธุรกิจ “Treats” บริการขนมและสแน็กนานาประเทศส่งตรงถึงบ้านเดือนละครั้ง จากนั้นก็ออกแบบเว็บไซต์ ติดต่อซัพพลายเออร์ และหาคลังสินค้าเพื่อเก็บสินค้า รวมถึงเป็นสถานที่แพ็กและจัดส่งสินค้าให้สมาชิก

     โรเจอร์ใช้เงินเก็บที่มีอยู่เป็นเงินลงทุนเบื้องต้น 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ออร์เดอร์แรกได้มาหลังจากที่เขาไปโพสต์แนะนำธุรกิจของเขาในเฟซบุ๊กของโรงเรียนนานาชาติที่เขาเคยเรียนตอนอยู่เซี่ยงไฮ้  

     สำหรับรูปแบบธุรกิจที่โรเจอร์คิดไว้นั้นคือ ลูกค้าสมัครสมาชิก 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี จะได้รับกล่องขนมสีฟ้าส่งตรงถึงบ้านทุกเดือน ในกล่องจะเป็นขนมจากประเทศต่างๆ เช่น ขนมจากไทย เมื่อแกะกล่องจะพบโปสต์การ์ดรูปสถานที่ในไทยพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทย และการ์ดอีกใบที่อธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดของขนมแต่ละอย่างในกล่อง เช่น สาหร่ายปรุงรสอบกรอบ ลูกอมรสผลไม้ (มะม่วง ลิ้นจี่ มังคุด) ลูกอมรสกาแฟ ขนมเค้กยูโรคัสตาร์ด ข้าวเกรียบกุ้งฮานามิ และอื่นๆ

     สมาชิกที่เลือก Standard Pack จะได้รับขนม 4-5 อย่างในราคา 12.95 ดอลลาร์ฯ ต่อเดือน และถ้าเป็น Premium Pack ก็จะเพิ่มเป็น 8-12 ชิ้น ราคาก็จะเพิ่มขึ้นไป และถ้าเป็นสมาชิกในสหรัฐฯ ค่าส่งจะฟรี แต่ถ้าเป็นต่างประเทศ จะบวกค่าส่งขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้ไกล หลังจากที่ได้รับขนมจากไทย เดือนต่อไปลูกค้าต้องมาลุ้นว่าขนมที่ส่งมาจะเป็นสินค้าจากประเทศใด ทั้งนี้ กล่องขนมของ Treats จะมาจากหลากหลายประเทศในทุกทวีป ทั้งเอเชีย ละตินอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป แอฟริกา และอเมริกาเหนือ เพื่อให้สมกับสโลแกนที่ว่า Explore The World Through Food หรือสำรวจโลกไปด้วยกันผ่านอาหาร สำหรับลูกค้าที่อยู่ในประเทศต้นทางขนม สามารถระบุได้ว่าจะรับหรือไม่รับขนมจากประเทศของตน

     Treats ยังแนะนำอีกว่า บริการของว่างเช่นนี้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้อาหารง่าย ผู้ที่มีข้อจำกัดด้านอาหารเนื่องจากความเชื่อทางศาสนา และผู้ที่เป็นมังสวิรัติ อย่างไรก็ตาม สินค้าที่บริษัทส่งให้สมาชิกล้วนผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยในการบริโภค เมื่อลูกค้าสมัครสมาชิกแล้ว ไม่ว่าระยะเวลาเท่าใด หากเปลี่ยนใจไม่ต้องการรับบริการแล้ว ก็สามารถระงับหรือยกเลิกได้กลางคันได้ทุกเมื่อ

     หลังจากที่อดทนรอคอยราวครึ่งปี Treats ก็เริ่มเป็นที่รู้จักและจำนวนสมาชิกก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดธุรกิจก็เติบโตและทำรายได้เป็นตัวเลข 7 หลักภายในเวลา 18 เดือน จากที่ทำงานเองคนเดียว ก็มีการจ้างพนักงานประจำ 2 คน และพนักงานพาร์ตไทม์อีก 4 คน ส่วนระบบคลังสินค้า โรเจอร์ใช้วิธี Outsourcing คือ จ้างหน่วยงานข้างนอกดูแล หน่วยงานที่เขาเลือกใช้บริการชื่อ “Good Source” ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงกำไรที่ช่วยเหลือสังคมด้วยการจ้างงานผู้ด้อยโอกาส เช่น อดีตผู้ต้องขัง สตรีที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว หรือคนสูงวัยที่ต้องการรายได้เพิ่ม เป็นต้น

     หากพูดถึงสิ่งที่เรียนรู้จากการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา โรเจอร์กล่าวว่า ข้อผิดพลาดหนึ่งที่เขาได้ทำคือ การทำงานแบบลุยเดี่ยวคือ พยายามทำเองทุกอย่างโดยไม่จ้างใครมาช่วย ครั้นธุรกิจเติบโตแบบไม่คาดคิด จากที่มีสมาชิกจำนวนไม่มาก จู่ๆ สมาชิกก็เพิ่มเป็นพันๆ ราย ทำให้ตั้งรับไม่ทัน และเกิดปัญหาตามมา ซึ่งท้ายที่สุดเขาก็ต้องจ้างพนักงานอยู่ดี หากย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะวางแผนให้รัดกุมกว่านี้ หาคนมาแบ่งเบาภาระเพื่อที่ตัวเขาจะได้มุ่งไปโฟกัสเรื่องที่สำคัญกว่า

     แม้ว่า Treats จะไม่ใช่เจ้าเดียวในตลาดที่ดำเนินธุรกิจนี้เนื่องจากยังมีคู่แข่งอีกหลายราย เช่น SnackCrate, World of Snacks และบริษัทอื่นที่ให้บริการคล้ายกัน แต่โรเจอร์กล่าวว่าปรัชญาการทำงานของเขาคือ ไม่สนใจการแข่งขันกับผู้อื่น แต่มุ่งมั่นพัฒนาบริการของตัวเองให้ดีที่สุด ดูเหมือนว่าเมื่อธุรกิจ Treats เริ่มอยู่ตัว โรเจอร์จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ แต่กำลังมองหาไอเดียใหม่ๆ ในการเริ่มธุรกิจอื่นต่อไปให้สมกับการเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่วัยมิลเลนเนียลที่ไฟแรง   
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup