Text : Ratchanee Photo : Vipa Vadi
 



Main Idea
 

• ลำพังแค่เทียนหอมจากถั่วเหลืองที่ใช้ทาผิวได้ ก็ถือเป็นจุดเด่นของเทียนหอม Fuu'i Candle & Co แล้ว

 

• แต่มากไปกว่านั้น ศิรภัสศร สุริยาภณานนท์ พัฒนาแพ็กเกจจิ้งให้แตกต่าง ด้วยการบรรจุใส่ในกล่องไม้สักแฮนด์เมด 100 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย

     แพ็กเกจจิ้งเป็นด่านแรกที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและอยากบอกต่อ ยิ่งไปกว่านั้นแพ็กเกจจิ้งที่มีดีไซน์จะช่วยสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าทำให้สินค้าดูมีมูลค่าเพิ่มขึ้น  

     ฟุย-ศิรภัสศร สุริยาภณานนท์ รู้ดีถึงความสำคัญของแพ็กเกจจิ้ง ดังนั้น เมื่อคิดจะทำเทียนหอมจากถั่วเหลืองที่ใช้ทาผิวได้ จึงลงทุนพัฒนาออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้ดึงดูดความสนใจ ด้วยการบรรจุใส่ในกล่องไม้สักแฮนด์เมด 100 เปอร์เซ็นต์จากจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมถุงผ้าน่ารักๆ ประทับตราแบรนด์ Fuu'i Candle & Co.

     “มีโอกาสไปเที่ยวแถบยุโรปเจอเทียนที่สามารถเอามาทาผิวได้ เลยเริ่มศึกษาว่ามันคือเทียนอะไรทำไมทาผิวไม่ร้อนแล้วหอมด้วย ซึ่งที่ประเทศไทยก็มีแต่เป็นแบรนด์ไฮเอ็นด์ราคาแพงมาก ทีนี้พอเรารู้ว่ามันทำมาจากไขถั่วเหลืองซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนปิโตรเลียม เจลลี่วาสลีนคือเข้มข้นกว่าโลชั่น 30 เท่า ก็เลยลองพัฒนาสูตรด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่ลองใช้ไขถั่วเหลือง 100 เปอร์เซ็นต์ ปรากฏว่าตั้งไส้เทียนไม่ได้ ลองเอามาผสมปาล์มแว็กซ์ ปรากฏว่าแข็งเกินทาผิวแล้วขึ้นเป็นฝ้าเลย ทีนี้ลองไปผสมกับไขมะพร้าว ซึ่งโชคดีว่าใช้ได้ โดยใช้เวลา 3-5 เดือนในการทดลองเพราะต้องลองด้วยว่าถ้าเอาไปใช้ทาผิวแล้วมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ส่วนกลิ่นจะใช้น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติที่ผลิตโดยกลุ่มเกษตรกรเชียงใหม่ หลังจากลงตัวแล้วก็ลองทำเอาใส่แก้วแจกเพื่อนๆ กลายเป็นว่าที่ออฟฟิศเพื่อนเห็นแล้วมาสั่งเป็นของชำร่วยให้ออฟฟิศไปอีก เลยตัดสินใจว่าน่าจะทำขายจริงจังได้”

     ศิรภัสศรเล่าว่า หลังจากตั้งใจที่จะสร้างแบรนด์เทียนหอมจากถั่วเหลือง เธอก็คิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า เทียนหอมจากถั่วเหลืองนี้จะเป็นของขวัญที่สร้างความประทับใจให้กับผู้รับ จึงคิดลงทุนพัฒนาแพ็กเกจจิ้งให้สวยงามเหมาะกับการมอบเป็นของขวัญของที่ระลึก ดังนั้น แทนที่เราจะเอาเทียนไขมาใส่ในแก้วเหมือนทั่วๆ ไป จึงเลือกที่จะบรรจุในกล่องไม้สักแฮนด์เมดจากบ้านถวายจังหวัดเชียงใหม่

     “บ้านถวายขึ้นชื่อเรื่องเฟอร์นิเจอร์ไม้แต่ตอนนี้บ้านถวายไม่ได้ดังเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ไปเจอลุงซึ่งทำเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก เห็นหลังบ้านลุงมีกองไม้สักที่ทิ้งก็ถามเขาว่าเอาไปทำอะไร เขาบอกต้องเอาไปเผาถ่าน เราเลยคิดว่ามันเป็นไม้เนื้อแข็งโดนน้ำได้ ดังนั้น น่าจะใส่ของเหลวทนความร้อนได้แน่ๆ เลยบอกลุงว่าช่วยคว้านให้หน่อยแล้วให้ทำฝาให้ด้วย ซึ่งหลังจากใช้เทียนหมดแล้วกล่องไม้สักนี้ก็ยังสามารถเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นต่อได้ เช่น เอาไปใส่ของ ปลูกต้นไม้ เป็นต้น”

     อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแพ็กเกจจิ้งสวยงามดึงดูดความสนใจ แต่การขายออนไลน์ในช่วงแรกก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องเพราะเมื่อไม่ได้สัมผัสไม่ได้ดมกลิ่นจริงๆ จึงเกิดความลังเลไม่แน่ใจ ในเรื่องนี้ศิรภัสศรจึงตัดสินใจออกบู๊ธในงานต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นได้ลองเอามาทาผิวดมกลิ่นจริงๆ

     “คนเริ่มถามเยอะกลิ่นเป็นยังไง เราก็อธิบายไม่ได้ พอออกบู๊ธคนที่แวะมาบู๊ธเรา 100 คน 95 คนจะซื้อกลับไป ทุกคนจะถามว่าทำไมทาผิวได้ทำไมหอม เราก็จะอธิบายแล้วให้เขาได้ลองทาผิวจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีปัญหาตามมาคือคนไทยจะไม่ค่อยนิยมสินค้าประเภทนี้ หลายคนบ่นว่าแพง เพราะเราขายไซส์เล็กที่ราคา 250 บาท จุดได้ประมาณ 6 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นคนต่างชาติจะชอบมาก นอกจากนี้ เราเลยใช้กลยุทธ์ให้ลูกค้ารีวิวโปรดักต์แล้วเราจะให้ส่วนลดในการซื้อครั้งต่อไป เพราะถ้าเป็นลูกค้าคนใช้จริงมารีวิวเขาจะเชื่อ ซึ่งเราได้ลูกค้าจากการบอกต่อรีวิวเยอะมาก อย่างล่าสุดลูกค้าไต้หวันไปเขียนรีวิวในเว็บไซต์ไต้หวันให้แล้วลูกค้าแคปมาหาเราเลย”  

     ทั้งนี้  ศิรภัสศรตั้งใจตั้งแต่วันแรกที่สร้างแบรนด์ Fuu'i Candle & Co. ว่าจะไม่หยุดแค่เทียนหอมถั่วเหลืองเท่านั้น แต่จะแตกไลน์โปรดักต์ออกไปเรื่อยๆ ภายใต้แนวคิดว่าต้องเป็นโปรดักต์ที่เกี่ยวกับการแต่งบ้านและมีกลิ่นหอม อย่างล่าสุดเธอได้ออกโปรดักต์ก้านไม้หอมกระจายกลิ่น โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดช็อปที่ไต้หวันหรือฮ่องกงในอนาคตอีกด้วย

     “ตอนนี้สัดส่วนลูกค้า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นลูกค้าต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฮ่องกง ไต้หวัน ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นลูกค้าคนไทย จากผลตอบรับของลูกค้าต่างชาตินี้เลยวางเป้าหมายอยากจะเปิดร้านชื่อ  Fuu'i Candle & Co. ที่ฮ่องกงหรือไต้หวัน ซึ่งก็มีลูกค้าที่ซื้อของเราไปขายนี่แหละชวนเราไป แต่ตอนนี้เราจะต้องศึกษาในรายละเอียดอีกทีว่าจะไปแบบไหน”  
 
 
     โทร. 06-1635 2390
     FB : Fuu' i Candle & Co.
     IG : fuuiofficial
     Web : http://www.fuuiofficial.com
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup