เริ่มต้นจากการทำรองเท้าแฟชั่น แต่เมื่อ แป้ง-ลภาพิม ชัยรัชนิกร หลงใหลในผ้าฝ้ายทอพื้นเมือง จึงนำไปสู่การใช้ผ้าฝ้ายทอจากภาคเหนืออันเป็นถิ่นกำเนิดของเธอ มาทำรองเท้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายใต้แบรนด์ “Larinn”  

     “จริงๆ เริ่มต้นจากอยากหารองเท้าใส่เองที่ราคาไม่แพง เหมือนทำใส่ในบ้านก่อนแล้วก็ค่อยมาทำขายในเฟซบุ๊ก โดยทำกับน้องสาวซึ่งเขาชอบแฟชั่น รองเท้าที่ทำตอนนั้นก็จะออกแนวแฟชั่น ทีนี้พอเขาไปเป็นแอร์โฮสเตส แล้วส่วนตัวแป้งชอบผ้าไทยอยู่แล้ว คุณแม่เป็นคนลำพูนเวลาที่กลับไปลำพูนทีก็จะต้องไปหาซื้อผ้าพื้นเมืองมาเก็บเรื่อยๆ จนวันหนึ่งลองเอาผ้าไทยที่เราเก็บเอาไว้มาใส่ในงานที่เราทำคือรองเท้า เลยเริ่มเปลี่ยนทิศทางจากรองเท้าแฟชั่นมาเป็นรองเท้าผ้าฝ้ายทอแทน”

     ลภาพิมเล่าว่า หลังจากที่มีความคิดอยากทำรองเท้าจากผ้าฝ้าย ก็เริ่มมองหาคอนเซปต์ เพื่อสร้างจุดเด่นและเรื่องราวให้กับสินค้า โดยเธอจะเล่าเป็น Storytelling ของผ้าไทยพื้นเมืองและชุมชนชาวบ้านที่ทอผ้าว่ามีความยากง่ายยังไงกว่าจะได้ผ้ามาเป็นผืน 





     “ตอนแรกเลยแป้งจะเอาผ้าที่ตัวเองซื้อสะสมทีละ 5-10 เมตรมาทำก่อน หลังจากนั้นเราเข้าไปในชุมชนจริงๆ เวลาเรากลับบ้านก็ไปหาคนทอผ้าจริงๆ แล้วก็ได้รู้มาว่าเขาเริ่มขายผ้าไม่ได้ คนทอก็เริ่มน้อยลง เลยคิดจะช่วยอุดหนุน แต่อาจจะไม่ได้ช่วยได้มาก ชอบผ้าแบบไหนก็จะสั่งให้เขาทอเป็นม้วนๆ ส่วนใหญ่คนซื้อที่เขาสนใจก็มักจะถามว่าทำไมถึงทำผ้าไทย เพราะด้วยเราเองก็อายุไม่เยอะมาก เป็นคนรุ่นใหม่ดูแล้วไม่น่าจะชอบผ้าไทย แต่คือเรามีความผูกพันกับผ้าไทยมาตั้งแต่เด็ก แล้วเป็นเรื่องจริงที่คนทอผ้าพื้นเมืองลดน้อยลงเรื่อยๆ อย่างป้าที่ทอให้เราก็บอกเลยว่าถ้าหมดป้าไปแล้ว ก็คงไม่มีใครทำต่อเพราะลูกๆ ก็ไม่ทำแล้ว อย่างนี้เราก็เอามาเล่า Storytelling ให้คนที่สนใจได้ อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายคนไม่เข้าใจ จะบอกว่า ถ้ามีคำถามว่าใส่รองเท้าผ้ามันจะไม่ทน ดำง่าย สกปรกง่าย รองเท้าของเราแพง ทำจากผ้าฝ้ายราคาไม่น่าแพงเพราะไม่ใช่หนังแท้ คือรองเท้าจะมีราคาตั้งแต่ 980 บาทไปถึง 2,000 บาท ก็ต้องคอยอธิบาย”

     นอกจากจะนำผ้าฝ้ายทอมาทำรองเท้าแล้ว ลภาพิมยังขยายไปสู่การนำผ้าเหล่านั้นมาตัดเย็บเสื้อผ้า และตุ๊กตาแฮนด์เมดน่ารักๆ ที่ทำจากเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเสื้อผ้าและรองเท้า ซึ่งเธอบอกว่าตอนนี้แบรนด์ Larinn จะเป็นเหมือนคอมมูนิตี้ที่ขายเกี่ยวกับงานผ้าฝ้าย โดยมีทั้งรองเท้า เสื้อผ้า ตุ๊กตา และกระเป๋าผ้า เป็นต้น





     “ผ้าที่ตัดจากเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่เป็นเศษ เราเสียดายไม่อยากทิ้งก็เอามาทำตุ๊กตาขายเพราะกว่าจะทอผ้าได้แต่ละผืนใช้ระยะเวลาในการทอนาน ก็ไม่อยากให้เศษเล็กเศษน้อยเสียไป มันมีมูลค่า โดยตอนนี้จะสั่งผ้าจากลำพูน นำมาทำรองเท้าที่ทำกรุงเทพฯ ส่วนเสื้อผ้าจะมีสองส่วน คือส่วนหนึ่งเอาผ้ามาตัดเย็บที่กรุงเทพฯ อีกส่วนให้ช่างที่ลำพูนตัดเย็บให้เลย สำหรับตุ๊กตาแฮนด์เมดจะให้ชุมชนที่เชียงใหม่เป็นคนทำให้ หลายคนอาจไม่เชื่อว่าเสื้อผ้าของแบรนด์นี้คนออกแบบจะเป็นคุณแม่ เขาเห็นเราทำรองเท้าก็อยากสนุกด้วย เขามีความสุขที่ได้ช่วยคนทอผ้าที่ลำพูน ข้อดีคือกลับกลายเป็นว่าลูกค้าเราหลากหลายมาก เพราะเหมือนตอนแรกสินค้าที่ทำก็เป็นแนวเรา พอคุณแม่มาร่วมทำด้วยกลายเป็นว่าสินค้าเรากว้างมากขึ้น แล้วคุณแม่ออกแบบนี่คือคนรุ่นใหม่ก็ใส่ได้ คนรุ่นคุณแม่ก็ใส่ได้”

     ท้ายสุด ลภาพิมได้ฝากแง่คิดว่า การทำธุรกิจมีขึ้นและมีลง ช่วงแรกๆ เมื่อขายดีมากๆ อาจจะมีคนทำตามหรือมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะนำไปสู่การแข่งขันเรื่องราคา ช่วงนี้อาจจะทำให้หลายคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจท้อและคิดจะเลิกทำ หรือจะกลับไปทำงานประจำ แต่เมื่อคิดว่ากว่าจะปั้นทุกอย่างมาได้ขนาดนี้ต้องใช้เวลาการเรียนรู้สร้างสมประสบการณ์ ถ้าเลิกไปสิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า ฉะนั้นต้องมีความอดทนไม่ย่อท้อก็จะก้าวข้ามปัญหาอุปสรรคนี้และเดินหน้าลุยต่อไปได้

                
     FB : Larinn
     IG : larinnbydoublep
     Tel : 09-8896-3946
     WEB : www.larinn.com


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup