สำหรับคนที่คลั่งไคล้เครื่องประดับที่ใช้บอกเวลาได้อย่างนาฬิกา คงพอจะเคยผ่านตากับนาฬิกาแบรนด์ Filippo Loreti ที่เน็ตไอดอล และเพจรีวิวนาฬิกาของไทยเคยทำคลิปรีวิวนำเสนอมาแล้ว ต้องยอมรับว่าดีไซน์ของนาฬิกาสวยจริงอะไรจริง ที่สำคัญราคาน่าคบหามาก วันนี้เลยไปค้นข้อมูลเพิ่มเติมมาบอกเล่าถึงที่มาของแบรนด์ Filippo Loreti ว่าทำไมสื่อหลายแขนงถึงกับยกย่องว่าเป็นแบรนด์ที่เกิดมาเพื่อท้าชนแบรนด์ดังระดับพรีเมี่ยมในตลาด

     ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 สองพี่น้องชาวลีธัวเนีย ดาเนียลและมาทัส จาคูทิส ซึ่งอยู่ในวัย 20 กลางๆ ต้องการซื้อนาฬิกาคุณภาพดีมาผูกข้อมือสักเรือน เมื่อตระเวณดูก็พบว่าราคาของนาฬิการุ่นไฮเอนด์นั้นแพงอย่างน่าใจหาย กลายเป็นไอเท็มต้องห้ามของพวกเขาไปโดยปริยายเพราะเงินไม่ถึง สองพี่น้องจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนาฬิการะดับบนพบว่าราคาที่จำหน่ายยั้นแพงกว่าต้นทุนการผลิตถึง 1000%

     เมื่อศึกษาต่อไปก็พบอีกว่าต้นทุนที่งอกเพิ่มจากต้นทุนการผลิตเป็นค่าใช้จ่ายด้านแคมเปญการตลาด ค่าใช้จ่ายจากกระบวนการผลิตที่สูญเปล่า ค่าใช้จ่ายในการกระจายสินค้าตามช่องทางจำหน่ายต่างๆ และค่าใช้จ่ายในการสร้างสถานะของแบรนด์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้ลูกค้าต้องจ่ายแพงขึ้น 10-40 เท่าในการซื้อนาฬิกาแต่ละเรือน

     หลังจากที่เก็บข้อมูลได้มากพอ พี่น้องตระกูลจาคูทิสก็มีความคิดจะทำธุรกิจผลิตนาฬิกาขาย ทั้งคู่ลองออกแบบนาฬิกา และใช้เวลาไม่กี่เดือนก็พร้อมผลิต ในการออกแบบนาฬิกานั้น แดเนียลได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมใน 3 เมืองของอิตาลี ได้แก่เวนิซ โรม และมิลาน โดยช่วงที่เขาเป็นนักศึกษาที่เมืองฟลอเรนซ์ เขาตกหลุมรักทุกอย่างที่เป็นอิตาลีไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม  ศิลปะ และวัฒนธรรม

     ปี 2015 พวกเขาก่อตั้งบริษัทเพื่อผลิตนาฬิกาภายใต้แบรนด์ Filippo Loreti โดยเน้นสร้างสรรค์นาฬิกาคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย การทำธุรกิจของพวกเขา เบื้องต้นอาศัย crowdfunding หรือการระดมทุนจากฝูงชน โดยทั้งคู่เข้าไปนำเสนอแผนธุรกิจใน Kickstarter เว็บระดมทุนของบรรดาผู้ประกอบการหน้าใหม่ การผลิตนาฬิกาคอลเลคชั่นแรกเริ่มขึ้นโดยยึดหลัก 1. ใช้วัสดุคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก สแตนเลส หนัง (เน้นหนังอิตาลีทำมือ) คริสตัล 2. ดีไซน์สวยงาม ใส่แล้วเหมือนกำลังสวมงานศิลปะบนข้อมือ สร้างเสริมบุคคลิกผู้ใช้ 3. การทำงานของนาฬิกามีความละเอียด เที่ยงตรง และแม่นยำตามมาตรฐานสินค้าญี่ปุ่น และ 4. เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยเฉพาะรุ่น Limited ที่ยากจะหาคนใส่ซ้ำ

     กลยุทธ์สำคัญที่ดึงดูดลูกค้าให้สนใจนาฬิกา Filippo Loreti นอกจาก 4 คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้น เกือบทุกรุ่นจำหน่ายในราคาต่ำกว่า 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งที่สามารถตั้งราคาได้เกิน 1,000 ดอลลาร์  ส่วนรุ่นแพงสุดราคาอยู่ที่ 600 ดอลลาร์ เป็นนาฬิกาที่ไม่วางขายตามร้าน ไม่มีแคตาล็อก ขายช่องทางเดียวคือทางเว็บไซต์ของบริษัท และส่งฟรีทั่วโลก รับประกันการใช้งานนาน 10 ปี ไม่พอใจรับคืนสินค้าใน 90 วัน  

     การขายทางออนไลน์และส่งถึงลูกค้าโดยตรงเป็นโมเดลการขายตรงที่ทำให้ตัวแทนจำหน่ายหรือตัดคนกลางออก ทำให้ค่าใช้จ่ายและต้นทุนแฝงลดลง และดูเหมือนรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบนี้จะได้รับการตอบรับดี จากที่ตั้งเป้าระดมทุน 20,000 ดอลลาร์ ภายในเดือนเดียวมีทุนไหลเข้าเกือบ 1 ล้านดอลลาร์ ปีถัดมา เมื่อมีการเปิดตัวคอลเลคชั่นที่ 2  คราวนี้ระดมทุนได้ 5.5 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่ถึงเดือน ส่งผลให้ Filippo Loreti แบรนด์นาฬิกาใน Kickstarter ที่มีทุนสนับสนุนมากสุดเท่าที่เคยมีมา และเป็น 1 ใน 20 โครงการที่ธุรกิจประสบความสำเร็จมากที่สุด

     หลังจากที่มีเงินทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อพี่น้องตระกูลจาคูทิสไม่ต้องพะวงเรื่องสายป่านสั้นยาว จึงระดมมันสมองไปที่การขยายธุรกิจ มีการจ้างทีมดีไซเนอร์ออกแบบนาฬิกาจากสวิส และจ้างโรงงานผลิตเจ้าเดียวกับที่ผลิตนาฬิกาหรูในตลาด โดยนับตั้งแต่เปิดตัวแบรนด์มา Filippo Loreti สร้างสรรค์นาฬิการวมแล้ว 8 คอลเลคชั่น รวมถึงคอลเลคชั่นนาฬิกาผู้หญิงที่เพิ่มเข้ามา โดยสรุป กลยุทธ์ความสำเร็จของ Filippo Loreti คือดีไซน์และคุณภาพระดับเดียวกับนาฬิกาแบรนด์หรูดังๆ แต่ราคาจำหน่ายกลับอยู่แค่ 1ใน 4 เท่านั้น ดีงามขนาดนี้ จึงไม่แปลกหากคลิกเข้าเว็บไซต์บริษัทจะเห็นการสั่งซื้อจากลูกค้าทั่วโลกเด้งเข้ามาหน้าจอไม่ขาดสาย
 
     ที่มา : www.yahoo.com/news/this-under-the-radar-startup-is-disrupting-the-72-092155113.html 
                www.businessinsider.com/filippo-loreti-watch-review


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup