Starting a Business

Taft สตาร์ทอัพเล็กๆ แต่ผลิตรองเท้าหรูแบรนด์โปรดเซเลบ


 


 

     ตอนที่ก่อตั้งบริษัททาฟต์ (Taft) เมื่อปี 2013 นั้น คอรี่และมัลลอรี สตีเวนส์ เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและกำลังจะมีลูกคนแรก พวกเขาเริ่มธุรกิจที่อพาร์ทเมนต์สองห้องนอนในเมืองโปรโว รัฐยูท่าห์ เป็นธุรกิจจำหน่ายถุงเท้าที่คอรี่ออกแบบและจ้างโรงงานในจีนผลิต มีการระดมทุนจากผู้สนับสนุนผ่าน Kickstarter เว็บหาทุนสำหรับกลุ่ม Startup  ธุรกิจเติบโตเนื่องจากกระแสการตอบรับดี จนทำให้มีผู้ติดตามจำนวนมากทางไอจี กระทั่งทาฟต์ประสบปัญหาสินค้าที่ผลิตล็อตหลังไม่ได้มาตรฐาน คุณภาพลดลง

     เมื่อได้รับคำแนะนำจากลูกค้าให้เปลี่ยนไปผลิตรองเท้า คอรี่จึงทดลองออกแบบรองเท้าและรับ pre-order ทางเว็บไซต์บริษัท ปรากฏออร์เดอร์เข้ามาชนิดล้นหลาม สามีภรรยาตระกูลสตีเวนส์จึงเบนเข็มมาจับธุรกิจรองเท้าเต็มตัวในปี 2015 โดยคอรี่ซึ่งจบด้านภาษาศาสตร์ยังรับหน้าที่ออกแบบรองเท้าเองทั้งหมดทั้งที่ไม่เคยเรียนแฟชั่นดีไซน์หรือมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน จะเรียกเป็นพรสวรรค์ก็ว่าได้ รองเท้าที่คอรี่ออกแบบจะถูกส่งไปผลิตที่โรงงานในสเปน หลังจากที่หันมาเอาดีด้านธุรกิจรองเท้าหนัง ยอดผู้ติดตามทางไอจีก็ยิ่งทะยานพุ่งจนปัจจุบันอยู่ที่ 400,000 กว่าราย

     ปีแรกของการผลิตรองเท้า ทาฟต์ทำยอดขายได้ 11,000 คู่ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 15 รุ่นด้วยกัน และชื่อรุ่นแต่ละรุ่นก็มีที่มา เช่น รุ่น Jack Boot มาจากชื่อคุณปู่และชื่อหลานชายของคอรี่ หรือรุ่น Lucca ก็เป็นชื่อเมืองในอิตาลีที่เป็นแรงบันดาลใจในการเริ่มธุรกิจ บางชื่อก็มาจากตัวการ์ตูนที่ลูกชายของเขาชอบ และอย่างชื่อแบรนด์ Taft ก็คือชื่อกลางของลูกชาย

     จุดเด่นของทาฟต์คือดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ใช้วัสดุคุณภาพดี เป็นงานทำมือที่ปราณีต แต่ราคาจำหน่ายกลับอยู่ระหว่าง 200-300 เหรียญสหรัฐฯ ทั้งที่สามารถอัพราคาได้มากถึง 1,500 เหรียญ แต่การที่ทาฟต์สามารถตั้งราคานี้ได้เนื่องจากเจ้าของออกแบบเองและจำหน่ายตรงให้กับลูกค้าผ่านทางออนไลน์  กระทั่งธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด หลังจากที่สินค้าของทาฟต์ได้รับความสนใจจากบรรดาคนดังในแวดวงฮอลลีวู้ดและนักกีฬา อาทิ ทิม แมคกรอว์ นักร้องคันทรี ดเวย์น จอห์นสัน หรือเดอะ ร็อค นักมวยปล้ำและนักแสดง และเจมส์ ฮาร์เดน นักกีฬาบาสเก็ตบอล

     จากแบรนด์รองเท้าธรรมดาๆ ทาฟต์ขึ้นแท่นแบรนด์รองเท้าหรูที่โดนใจคนเมืองรุ่นใหม่ที่รุ่งเรืองในอาชีพต่างๆ ส่งผลให้ Startup เล็กๆ แห่งนี้มีมูลค่า 20 ล้านเหรียญ สร้างรายได้ปีละ 5 ล้านเหรียญจากฐานลูกค้ากว่า 30,000 ราย และสามารถขยายโรงงานผลิตเพิ่มอีกแห่งในโปรตุเกส ล่าสุดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทาฟต์สามารถระดมทุนสนับสนุนได้ 5.4 ล้านเหรียญ และในบรรดาผู้ร่วมทุนมีดเวย์น เวด และอังเดร อิกัวดาลา นักบาสเก็ตบอลดาวเด่นของเอ็นบีเอรวมอยู่ด้วย

     คอรี่ยอมรับว่าโซเชียลมีเดียมีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้ธุรกิจเขาเติบโต เพราะหลังจากที่บรรดาเซเลบและนักกีฬาที่ทรงอิทธิพลพูดถึงสินค้าในเชิงบวกและสวมใหญ่รองเท้าทาฟต์ออกงาน ถ่ายรูปลงสื่อ ทำให้ปรากฏสู่สายตาคนจำนวนมาก และแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผลที่ตามมาคือยอดขายที่เพิ่มขึ้น คอรี่กล่าวว่าโชคดีที่สินค้าของเขาเป็นที่ชื่นชอบของนักกีฬา

     ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีแผนจะผลักดันให้ทาฟต์กลายเป็นรองเท้าที่บรรดานักกีฬาเอ็นบีเอสวมใส่เวลาไม่ได้ลงสนาม โดยเขาตั้งเป้าจะเจาะกลุ่มนักกีฬาเอ็นบีเอด้วยการเข้าไปสร้างสายสัมพันธ์กับนักบาสเก็ตบอลทีมยูท่าห์แจ๊ส และมีส่วนร่วมในการสนับสนุนลีกการแข่งขันต่างๆ และหวังว่าจะสามารถดึงเอานักกีฬารุ่นใหม่มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้ การเจาะตลาดรองเท้าหนังสำหรับนักกีฬาเพื่อใส่ออกงานเป็นเซกชั่นธุรกิจที่ไนกี้และอาดิดาสยังไม่เคยเข้ามาแตะ คอรี่หวังว่าการมองเห็นตลาดก่อนจะทำให้ทาฟต์มีแต้มต่อเหนือกว่า       
 
     ที่มา : www.cnbc.com/2018/09/28/how-taft-footwear-became-nba-players-favorite-shoeoff-the-court.html
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup