ถ้าช่วงนี้ได้ติดตามข่าวสารวงการชุดแต่งงานเมืองไทย มั่นใจว่าต้องรู้จักกับ Mirror Mirror ร้านชุดแต่งงานของ เจษฎา สุวรรณาภัย หนุ่มรุ่นใหม่วัยเพียง 25 ปี โดยชุดแต่งงานร้านนี้โดดเด่นที่การนำเทรนด์แฟชั่นมาใส่ไว้ในชุดเจ้าสาวจึงได้ลุคแซ่บๆ ตามสไตล์สาวแฟชั่นนิสต้า ไม่เพียงเท่านี้ หนุ่มไฟแรงคนนี้ยังสวมหมวกเจ้าของสถาบันความงาม Majestic Health & Wellness รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัล มาร์เกตติ้ง Think First Advertising co., Ltd และนี่คือ 5 แรงบันดาลใจที่นำความสำเร็จทางธุรกิจมาให้กับเขา





     1.ครอบครัว
         “เราทำธุรกิจมาตั้งแต่เด็ก สิ่งหนึ่งที่เป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจล้มไม่ได้ ต้องทำให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ คือ ครอบครัวที่เป็นกำลังใจที่ดีให้เสมอมา ด้วยความที่มีคนข้างหลังให้ดูแล จึงต้องคิดหาวิธีจัดการความเสี่ยงให้รอบคอบที่สุด คนในครอบครัวไม่ได้สอนเรื่องการทำธุรกิจกับเราโดยตรง แต่จะสอนแบบอ้อมๆ มากกว่า เช่น สอนเรื่องการกระทำที่อาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา การเข้าสังคม การเงิน และคู่แข่ง ซึ่งหลายๆ เรื่องที่ได้เรียนรู้สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจที่ทำได้”





     2.ท่องเที่ยว
         “เรามีความสุขกับการได้ออกไปท่องเที่ยว ดังนั้น เพื่อให้มีเวลาท่องเที่ยวตามต้องการจึงต้องวางแผนการทำธุรกิจให้ดี เวลาไปเที่ยวจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ได้เปิดโลกทัศน์ ล่าสุดไปไอร์แลนด์ก็ได้ความรู้เรื่องแร่ธาตุ ซึ่งเป็นประโยชน์กับธุรกิจสถาบันความงาม และมีโอกาสได้เข้าใช้บริการสปาของที่นั่น ทำให้ได้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอย่างมาก เขาทำให้ลูกค้าทุกคนรู้สึกว่าตัวเองคือคนพิเศษ เราจึงนำสิ่งที่ได้พบเจอนี้มาปรับใช้กับงานส่วนการบริการของธุรกิจ สำหรับประเทศที่ชอบไปที่สุดคือ ญี่ปุ่น ไปทุกๆ 2 เดือน เราชอบไลฟ์สไตล์ของคนญี่ปุ่น การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย มีระเบียบ และยังชอบอาหารของเขาด้วย”





     3.ทีมงาน
         “ตอนนี้มีทีมงานในความดูแลประมาณ 200 คนจากทุกธุรกิจที่ทำ เราให้ความสำคัญกับทุกคนเหมือนคนในครอบครัว ทุกคนจะได้ทำงานตามความถนัดของตัวเอง ซึ่งนอกจากเป็นการต่อยอดความสามารถแล้ว ยังทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ส่วนเราในฐานะเจ้าของธุรกิจก็ได้ผลลัพธ์ของงานที่มีประสิทธิภาพ เราเชื่อเสมอว่าเงินซื้อคนไม่ได้ ถ้าเงินหมด เขาก็ไม่อยู่ แต่ใจซื้อคนได้ ดังนั้น จึงให้ใจและแคร์ความรู้สึกของทีมงานทุกคน”





     4.แฟชั่น
        “จากความชอบในแฟชั่น ชอบติดตามเทรนด์ของต่างประเทศ จึงตัดสินใจเปิดร้านชุดแต่งงานที่มีจุดเด่นที่การนำเทรนด์แฟชั่นมาใส่ในชุด และจากที่สังเกตในตลาดเห็นว่า ทุกร้านชุดแต่งงานมีช่างเสื้อมากประสบการณ์ แต่ไม่ใช่ทุกร้านจะมีดีไซเนอร์ที่มากความรู้เรื่องเทรนด์ เราจึงมองเห็นโอกาสทางการตลาดมากขึ้น สำหรับเทรนด์ที่หยิบมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบชุดแต่งงานเป็นเทรนด์ต่างประเทศ อย่างเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเราเปิด Grand Opening ด้วยชุดแต่งงานซีทรู ซึ่งเป็นเทรนด์ฮิตในต่างประเทศ ณ ขณะนั้น โดยชุดแต่งงานจะไม่มีซับใน แต่ใช้เลเยอร์ผ้ามาทำให้มีมิติมากขึ้น ส่วนดีไซเนอร์ที่เป็นไอดอลด้านแนวคิด คือ Hedi Slimane โดยเขาเป็นคนที่กล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ไม่ยึดติดกับสิ่งเดิม”





     5.ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง
         “เนื่องจากเรามีทักษะด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง จึงทำดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งของทุกธุรกิจด้วยตัวเอง ซึ่งสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมากคือ คอนเทนต์ อย่างเพจของร้านชุดแต่งงาน Mirror Mirror จะไม่ใช้คอนเทนต์ที่บอกว่า ชุดแต่งงานของเราสวยมาก ใช้เวลาในการปักนานเท่าไหร่ หรือปักด้วยเพชรอะไร แต่จะใช้คอนเทนต์ที่เล่าถึงปัญหาของลูกค้า โดยลูกค้ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของร้านมาจากสื่อสังคมออนไลน์ทั้งสิ้น ทั้งนี้ โดยส่วนตัวมองว่า ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งมีอะไรใหม่ๆ ให้เรียนรู้อยู่ตลอด ดังนั้น จึงไม่หยุดที่จะเรียนรู้ด้านนี้ เพราะเป็นประโยชน์กับการทำธุรกิจในยุคนี้มาก”
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup