Purrcraft ปลอกคอนิรภัยน้องเหมียว ซนแค่ไหนก็หายห่วง
คนรักแมวคงอุ่นใจไม่น้อย หากปลอกคอที่เจ้าเหมียวสวมใส่อยู่ไม่ใช่แค่สวยงามหรือไม่ทำให้รู้สึกรำคาญเวลาใส่ แต่ปลอดภัยต่อชีวิตด้วยเป็นปลอกคอนิรภัย เจ้าของจึงหายกังวลหากแมวเหมียวขอซุกซนบ้าง
จอมใจ ละอองแก้ว เจ้าของแบรนด์ Purrcraft เล่าจุดเริ่มต้นให้ฟังว่า เกิดจากการที่เธอมีความฝันอยากทำแบรนด์สินค้าเกี่ยวกับแมว แรกเริ่มคิดจะทำเฟอร์นิเจอร์แมว แต่ด้วยต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างเยอะจึงเปลี่ยนความสนใจไปที่ปลอกคอแมวที่มีขั้นตอนการทำที่ง่ายและใช้เงินลงทุนไม่มาก จากนั้นก็เริ่มลงมือเย็บปลอกคอแมวโดยวางแผนว่า หากได้สินค้าจำนวนหนึ่งแล้วจะวางขายในช่องทางออนไลน์ เมื่อคนที่รู้จักเห็นสินค้าและมองว่าสามารถขายได้จึงชักชวนมาออกอีเวนต์ก่อนวางขายในช่องทางที่ตั้งใจไว้
“ตอนนั้นทำสินค้าโดยไม่นึกถึงความชอบของลูกค้า คิดแค่ว่าจะทำตามความชอบของตัวเอง เราชอบผ้า ชอบงานฝีมือ ชอบสีธรรมชาติ ปลอกคอแมวคอลเลกชันแรกเลยเป็นสีเอิร์ธโทน เน้นความเรียบง่ายสไตล์มินิมอล ส่วนตัวล็อกก็เป็นตัวล็อกธรรมดา จนเมื่อได้ยินคำถามหนึ่งจากพี่ที่รู้จักว่า ปลอกคอนี้นิรภัยหรือเปล่า ก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า ปลอกคอแมวที่ดีนอกจากสวยงามและไม่ทำให้ระคายเคืองแล้ว ต้องเซฟชีวิตด้วย ตัวล็อกนิรภัยช่วยให้แมวไม่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหากปลอกคอเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ตอนปีนป่าย เพราะแมวสามารถปลดล็อกตัวล็อกได้ด้วยน้ำหนักของเขาเอง ปลอกคอทุกชิ้นจึงถูกเปลี่ยนตัวล็อกใหม่ เรามองว่าเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบที่แบรนด์ควรมีต่อผู้ซื้อ และเป็นการสร้างจุดขายให้แบรนด์ด้วย”
หลังจากอีเวนต์แรกจบลง จอมใจบอกว่า ฟีดแบ็กที่ได้ดีเกินคาดหมาย เธอจึงหันมาทำตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง เพราะเป็นช่องทางให้ลูกค้าจากอีเวนต์ใช้สั่งซื้อสินค้าในครั้งถัดไปและทำให้เจอลูกค้าใหม่ โดยลูกค้าไทยมาจากโซเชียลมีเดียฮิตอย่างเฟซบุ๊ก ขณะที่ลูกค้ายุโรปและสหรัฐอเมริกา มาจากอินสตาแกรม ส่วนลูกค้าเอเชียอย่างฮ่องกงและไต้หวันมาจากเว็บไซต์ขายของแฮนด์เมดอย่าง Pinkoi ซึ่งเธอแชร์เทคนิคเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าในเว็บไซต์นี้มองเห็นแบรนด์ว่า ภาพสินค้าที่โพสต์ลงต้องสวย เพราะทีมงาน Pinkoi เลือกแบรนด์ขึ้นฟีเจอร์ร้านค้าแนะนำจากภาพสินค้า
“งานแฮนด์เมดในต่างประเทศได้รับความนิยมอย่างมากจนกลายเป็นสินค้าแมส แต่ในเมืองไทยยังเป็นตลาดค่อนข้างเล็ก กลุ่มลูกค้าที่มองไว้จึงไม่ได้จำกัดแค่ลูกค้าไทย แต่มองไกลถึงลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งการเปิดร้านในโซเชียลฯ และเว็บไซต์ขายของของต่างประเทศช่วยเราในเรื่องนี้ได้มาก”
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น แม้ตอนเริ่มต้นแบรนด์ จอมใจจะเน้นทำปลอกคอแมวตามความชอบของตัวเอง แต่เมื่อเปิดตลาดออนไลน์ก็พบว่า กลุ่มคนเลี้ยงแมวที่ชอบซื้อปลอกคอสีฉูดฉาดก็สนใจปลอกคอนิรภัยของแบรนด์เช่นกัน หากแต่แบรนด์ไม่มีสินค้ารองรับความต้องการของพวกเขา ฉะนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ เธอจึงออกคอลเลกชันเอาใจลูกค้ากลุ่มนี้บ้าง
ตอนนี้ Purrcraft มีปลอกคอนิรภัยสำหรับแมวให้เลือกมากกว่า 10 คอลเลกชัน โดยมีทั้งคอลเลกชันสีเอิร์ธโทน คอลเลกชันสีสดใส รวมทั้งคอลเลกชันพิเศษเฉพาะเทศกาล นอกจากนี้ ยังมีคอลเลกชันลับที่ทำขายเฉพาะอีเวนต์ที่ไปออกบู๊ธ คนที่มาเดินอีเวนต์เท่านั้นจึงได้เห็นสินค้า วิธีการนี้กระตุ้นให้ลูกค้าต้องคอยติดตามแบรนด์อยู่ตลอดถ้าไม่อยากพลาดคอลเลกชันใดไป
“ไม่ว่าเทรนด์จะเป็นอย่างไร จะอยากทำแค่ไหนก็ต้องห้ามใจไว้ถ้าไม่ใช่คอนเซปต์ของแบรนด์ แบรนด์เราแม้มีคอลเลกชันเยอะ แต่ก็ควบคุมไม่ให้หลุดจากคอนเซปต์ที่ตั้งไว้ว่า Craft & Organic for The Cat Lovers สินค้าทุกชิ้นต้องเป็นงานแฮนด์เมด เราตั้งใจใช้คำว่า Organic เพื่อสื่อว่าสินค้าเป็นมิตรกับแมว และลูกค้าที่ใช้สินค้าของแบรนด์ยังมีภาพลักษณ์ที่ดี เพราะแสดงให้เห็นว่าห่วงใยความปลอดภัยของแมว ไม่เพียงเท่านี้ เราดีใจทุกครั้งที่ลูกค้าส่งรูปมาให้ดู หรือมีคอมเมนต์ให้หลังจากใช้สินค้า เพราะคอมเมนต์เป็นข้อมูลที่ทำให้เราพัฒนาสินค้าออกมาตรงใจลูกค้ามากที่สุด”
Faebook : purrcraftstudio
Instagram : purr_craft
Line : jjomjjom
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup