ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครอยากจะมีกลิ่นกายที่ไม่พึงปรารถนา ซึ่งแม้ว่าเรื่องกลิ่นกายจะเป็นปัญหาเล็กๆ แต่ก็สำคัญมิใช่น้อย เพราะเจ้ากลิ่นนี้ถ้าไม่ระมัดระวังให้ดีก็จะกลายเป็นที่รังเกียจของคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว ทั้ง อธิภัทร ปิยกิตติไพบูลย์ และ ณัฐนภันต์ พราหมณีโชติ เห็นถึงปัญหาดังกล่าวจึงช่วยกันคิดสร้างนวัตกรรมดับกลิ่นกายจากแป้งเกลือ ซึ่งทำมาจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ภายใต้แบรนด์ DIFF. ขึ้นมา

     “เราเห็นปัญหาเรื่องกลิ่นกายนี้จากเพื่อนๆ เลยมีความคิดว่าน่าจะทำอะไรมาแก้ปัญหานี้ ตอนที่เริ่มทำตั้งโจทย์ตั้งแต่แรกเลยว่าอยากจะทำผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี เลยศึกษาว่าวัตถุดิบจากธรรมชาติอะไรบ้างที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียระงับกลิ่นกายได้ ปรากฏว่าเกลือซึ่งเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติมีประสิทธิภาพในเรื่องนี้ค่อนข้างดี จากนั้นก็ปรึกษากับผู้มีความรู้ด้านสมุนไพรหลายท่านก็พบว่า มีภูมิปัญญาชาวบ้านที่เอาเกลือมาทำแป้ง ซึ่งเป็นเกลือส่วนที่ชาวนาเกลือจะทิ้งเป็นของเหลือ เราเลยเอามาทำประโยชน์ทำเป็นแป้งเพื่อใช้ระงับกลิ่นกาย” อธิภัทรเล่าถึงที่มาของแป้งเกลือดับกลิ่นกาย

     DIFF. แป้งเกลือระงับกลิ่นกายนี้ทำมาจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีสารเคมีใดๆ มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งแบคทีเรียจึงสามารถระงับกลิ่นกายได้ และจะอยู่เพียงแค่ผิวภายนอกเท่านั้นไม่ซึมเข้าไปในร่างกาย ซึ่งข้อดีของการทำเป็นแป้งคือ ทำให้รู้สึกเแห้งสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ โดยทั้งคู่ใช้เวลาคิดค้นและทดลองนานถึง 2 ปี และด้วยความรู้ที่เก็บสะสมมาตลอด 2 ปี ถัดมาไม่นานทั้งคู่ก็ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตามมา นั่นคือ DIFF. สเปรย์น้ำแร่ระงับกลิ่นกาย ที่ทำจากเกลือหิมาลายันสีชมพู ผสมทานาคา และสมุนไพร ซึ่งนอกจากจะช่วยระงับกลิ่นกายแล้วยังมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวอีกด้วย  





     อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครผลิตออกขายในตลาดมาก่อน ทำให้ในช่วงแรกต้องเจอสารพัดคำถามจากข้อสงสัยของลูกค้า ซึ่งณัฐนภันต์ยอมรับว่า พวกเขาต้องคอยตอบคำถามเยอะมาก และพยายามอธิบายให้ได้มากที่สุดในทุกข้อสงสัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า แต่นับเป็นโชคดีที่อยู่ๆ ก็มียูทูบเบอร์ที่มีคนติดตามหลักแสนคน หยิบเอา DIFF. มารีวิวให้เอง โดยที่พวกเขาไม่รู้เรื่องเลย ทำให้ DIFF. เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น  

     “อย่างแป้งเกลือลูกค้าไม่เคยเห็นก็จะงงว่ามันคืออะไร จะช่วยได้จริงเหรอ ซึ่งบางคนอาจจะแพ้แอลกอฮอล์ สารกันเสีย แต่ DIFF. ไม่ใช่ของพวกนั้นเลยก็จะเป็นทางเลือกให้เขาได้ หรืออย่างตัวน้ำแร่ คนก็ว่าฉีดมาแล้วไม่มีกลิ่น แล้วจะช่วยระงับกลิ่นได้ยังไง คือเขาจะถามหาความหอม เราก็ตอบว่าเราเน้นเรื่องฆ่าเชื้อแบคทีเรียตั้งแต่ต้นเหตุ ไม่ใช่ใช้กลิ่นหอมเพื่อมากลบกลิ่นกาย เราตอบได้ทุกอย่างในระดับหนึ่ง สุดท้ายเราต้องบอกเขาว่าให้มาลองใช้ด้วยตนเอง ซึ่งหลังจากที่ขายมา 2 ปี เราลองสุ่มรายชื่อลูกค้าที่ซื้อของเรามาดูพบว่า เป็นลูกค้าเก่าๆ ที่กลับมาซื้อซ้ำเป็นส่วนใหญ่แสดงว่าเขาใช้แล้วได้ผลจริง”

     ในตอนนี้ทั้งคู่ได้จดสิทธิบัตร DIFF. เอาไว้เรียบร้อยแล้ว และใช้ช่องทางจำหน่ายทางเฟซบุ๊กและร้านยา ที่สำคัญยังส่งออกไปตีตลาดเวียดนามแล้วด้วย  

     “เราเป็นเจ้าเดียวที่ทำแป้งเกลือ เริ่มจากเล็กๆ ทำกันเองผลิตกันเองสองคนในบ้าน จนตอนนี้เราลงทุนสร้างโรงงานเป็นของตนเอง แม้จะวางตลาดมาแล้ว 2 ปี แต่ก็ยังมีช่องวางอีกเยอะ เราจะพยายามตีตลาดไปเรื่อยๆ เหตุผลที่เลือกวางร้านยาก็เพราะร้านยาสมัยนี้เป็นร้านยากึ่งเวชภัณฑ์ มีสินค้าธรรมชาติเยอะ เราเลือกไปวางร้านพวกนี้ ทำให้ได้รับความน่าเชื่อถือไปด้วย”

     ก่อนจากกัน ณัฐนภันต์ได้ทิ้งท้ายเคล็ดลับการเริ่มต้นทำธุรกิจไว้ว่า นอกจากจะต้องมีความกล้าแล้วยังต้องไม่ท้อถอยง่ายๆ อีกด้วย 

     “ถ้ามีความคิดดีๆ ต้องก้าวออกมาเลย ถ้าคิดเฉยๆ ไม่ก้าวมันไม่เดินแน่ ถามว่าเราออกมาตอนที่พร้อมมั้ย ก็ไม่พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ารอให้พร้อมก็ไม่รู้อีกเมื่อไหร่ แล้วคนเรามีความคิดเหมือนกันได้ ถ้ารอให้พร้อมก็อาจจะมีคนทำไปแล้ว ตอนแรกนำสินค้าไปเสนอร้านที่หนึ่งปฏิเสธ ร้านที่สองปฏิเสธ ก็อาจจะรู้สึกท้อ แต่จริงๆ อาจจะมีอีกพันร้านค้าที่อยากจะรับสินค้านี้เข้าไปวางจำหน่ายก็ได้ วันนี้ 8 ร้านปฏิเสธพออีกวันอาจจะได้ 8 ร้านก็มี ฉะนั้นต้องอดทนด้วย”

     TEL : 06-1542-9889
     FB : DIFF.Nature
     LINE ID : @diff.nature
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี