เมื่อความรุนแรงไม่ใช่หนทางเดียวในการตอบโต้ นักธุรกิจวัยทีนชาวอเมริกันอย่าง Brandon Boynton เลือกที่จะหยิบเอาความเจ็บปวดจากการถูกกลั่นแกล้งมาสร้างเป็นโอกาสโดยการตั้ง  MostBeastlyStudios LLC ขึ้นเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชันช่องทางรับฟังคนที่ประสบปัญหาแบบเดียวกัน

     เส้นทางของการก้าวเข้ามาเป็นผู้ประกอบการวัยทีนของ Brandon Boynton นั้นคงต้องย้อนกลับไปในสมัยที่เขาเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นในเมืองเพนเดิลตัน รัฐอินดีแอนา สถานที่ที่เขาโดนรังแกให้ได้รับความบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจ ด้วยเหตุผลก็เพียงเพราะเขานั้นดูแตกต่างจากคนอื่นๆ เท่านั้นเอง

     “เพราะผมดูแปลกจากคนอื่น...ผมเป็นคนขี้อายและไม่กล้าที่จะเล่นกับเพื่อนๆ”  

     Boynton เป็นอย่างนั้นมาตลอด จนกระทั่งเขาได้รวบรวมความกล้าเพื่อที่จะลงสมัครเป็นหัวหน้าห้อง แต่ใครจะไปรู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้กลับทำให้เขานั้นถูกรังแกอย่างรุนแรงและเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมซะอีก เด็กเกเรพวกนั้นต่างพากันฉีกโปสเตอร์ลงสมัครที่เขาตั้งใจทำขึ้นมาด้วยมือและแปะไปทั่วโรงเรียนทิ้ง นอกจากนี้พวกเขายังพากันเขียนข้อความแย่ๆ คำล้อเลียนเสียดสีต่างๆ ไปทั่วไม่เว้นแม้แต่ในห้องน้ำหรือแม้กระทั่งบนโถฉี่

     “การกระทำของพวกเขานั้นแทบจะฉีกผมออกเป็นชิ้นๆ และทำร้ายจิตใจของผมมาก…ผมอยากให้คนที่ทำแบบนั้นกับผมถูกลงโทษ ไม่ใช่ในทางที่เลวร้าย แต่เป็นการทำให้ผู้คนได้รับรู้ในสิ่งที่พวกเขาได้ทำลงไปและเลิกที่จะทำแบบนั้นสักที”

     โดยเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ Boynton เริ่มมีความคิดเรื่องการฆ่าตัวตายตั้งแต่ตอนอายุ 14 ปี  แต่อย่างไรก็ตาม เพราะต้องการความยุติธรรมซึ่งไม่ใช่เพื่อการแก้แค้นหรือเอาคืน เขาได้เขียนจดหมายสนเท่ห์บอกเล่าเรื่องราวถึงพฤติกรรมของเด็กเกเรเหล่านั้นและหย่อนลงไปในกล่อง bully box ของโรงเรียนที่ติดอยู่กับผนังในสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียนที่ไม่ประสงค์จะออกนามซึ่งต้องการร้องเรียนเรื่องการถูกรังแกโดยเฉพาะ

     และด้วยรูปแบบของการส่งจดหมายร้องเรียนแบบนี้ จุดประกายให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์วัยทีนเกิดไอเดียการทำแอพพลิเคชันขึ้นเพื่อเป็นช่องทางป้องกันการถูกกลั่นแกล้งที่ผู้ใช้สามารถร้องเรียนได้โดยไม่ต้องระบุตัวตนและเขาคิดว่าเด็กๆ น่าจะชอบใช้วิธีนี้มากกว่า

     นอกจากนี้ ด้วยความรักและการสนับสนุนจากพ่อแม่บวกกับการได้ทักษะของการทำธุรกิจและข้อมูลที่รวบรวมมาจากโครงการ Youth Entrepreneurs Academy ของหอการค้าท้องถิ่น ทำให้ Boynton เปิดตัว MostBeastlyStudios LLC เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เขาเป็นคนคิดขึ้นเอง  

     โดยโปรดักต์แรกของบริษัทคือ BullyBox  หรือแอพพลิเคชันที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาสำหรับการรีพอร์ตเรื่องการถูกรังแกโดยไม่ต้องระบุชื่อคนรายงานโดยเฉพาะ ถือเป็นการลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหาการถูกรังแกอย่างสันติวิธีในแบบฉบับของเขาเอง ซึ่งนักธุรกิจวัยทีนรายนี้ยังหวังว่าการใช้แอพฯ นี้จะเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้โลกใบนี้นั้นน่าอยู่ขึ้น

     “ผมทำแอพฯ นี้ขึ้นมาเพื่อทำให้เกิดความแตกต่าง มันไม่ใช่เกมแต่เป็นแอพฯ ที่ช่วยให้ชีวิตคนเรานั้นดีขึ้น”
โดยแต่ละโรงเรียนจะจ่ายค่าใช้บริการแอพฯ นี้ในราคา 499 เหรียญสหรัฐต่อปีเพื่อให้เด็กนักเรียนได้ใช้บริการ ซึ่งมีนักเรียนจำนวนประมาณ 100,000 คนใน 22 รัฐของสหรัฐอเมริกา รวมถึงในนิวซีแลนด์ สเปน ฝรั่งเศษและอังกฤษที่ใช้แอพฯ นี้

     ในส่วนของการเข้ามาเป็นผู้ประกอบการวัยทีนนั้น Boynton บอกว่า ข้อดีนั้นอยู่ที่การได้เป็นผู้ประกอบการสังคม (Social Entrepreneur) ที่สามารถทำประโยชน์ให้แก่ผู้คนได้และถือเป็นหลักที่เขานั้นยึดถือมาตลอด

     “เพราะการจะเป็นผู้ประกอบการสังคม คุณจะต้องทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อพัฒนาสังคม โดยผมมุ่งมั่นที่จะเดินในแนวทางนี้เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง และสำหรับคนที่อยากจะเข้ามาเป็นหนึ่งในการทำธุรกิจ ควรจำไว้เสมอว่าการเป็นผู้ประกอบการนั้นเป็นมากกว่าคนที่พร้อมจะเสี่ยงในการทำธุรกิจ หรือเรียกว่าเป็นการทำบางสิ่งที่ผลักดันให้คุณกล้าที่จะก้าวออกจาก comfort zone ของทั้งตัวคุณเอง เพื่อนและสังคม เป็นสิ่งที่ทำให้คุณทำบางอย่างที่เจ๋ง สละเวลาของตัวเองและพยายามทำในสิ่งที่ดี นี่คือนิยามของการเป็นผู้ประกอบการที่แท้จริง”      
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี