เสื้อยืดเป็นสินค้าอีกหนึ่งประเภทที่มีขายแทบทุกตลาด ซึ่งเจ้าที่อยู่ได้ส่วนใหญ่เน้นขายราคาถูกและสกรีนลายตามแฟชั่น ส่วนเจ้าไหนที่ขายราคาสูงก็ต้องมีจุดขาย เช่น ตัดเย็บเอง หรือลายไม่ซ้ำใคร เหมือนอย่างเสื้อยืด Asaro ของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ เบิร์ด-สุทธิพงษ์ เกิดเมฆ และ จอย-สุรีนุช ดีไร่ ที่ชัดเจนในเรื่องคอนเซปต์ของลายสกรีนที่มุ่งไปทางการออกเดินทางท่องเที่ยว

     “จริงๆ ที่บ้านทำธุรกิจโรงพิมพ์เสื้ออยู่แล้ว แต่เราอยากสร้างแบรนด์ของตัวเองเลยคิดทำแบรนด์เสื้อยืด เพราะทำร่วมกับธุรกิจที่บ้านได้ และส่วนตัวก็ชอบเสื้อยืดอยู่แล้ว หลังจากรู้ว่าจะขายอะไร ถัดมาก็นั่งคิดคอนเซปต์ให้แบรนด์โดยตั้งใจหยิบไลฟ์สไตล์ของตัวเองที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวมาเล่น และวางกลุ่มลูกค้าหลักเป็นหนุ่มๆ รุ่นใหม่ที่ชอบการท่องเที่ยว” จอยกล่าว

     ในส่วนของจุดเด่นที่ทำให้หนุ่มๆ ผู้รักการท่องเที่ยวตัดสินใจซื้อเสื้อยืด Asaro คือ 1.ความชัดเจนของคอนเซปต์ที่ถ่ายทอดผ่านลายสกรีนบนเสื้อ โดยมีทั้งแบบรูปภาพประกอบข้อความ และข้อความ ซึ่งลวดลายทั้งสองแบบล้วนสร้างแรงบันดาลใจให้อยากสะพายเป้ออกท่องเที่ยว และ 2.เนื้อผ้าที่เป็นผ้า Supersoft ให้สัมผัสนุ่ม ไม่หด ไม่ย้วย ระบายอากาศดี ดูดซับเหงื่อได้ทันทีจึงสวมใส่สบายตลอดวันแม้ในวันที่อากาศร้อน

     นอกจากนี้ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดูอินเตอร์ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เสื้อยืด Asaro น่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งจอยและเบิร์ด บอกว่า การบอกเล่าตัวตนของ Asaro ผ่านนายแบบฝรั่งที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวผจญภัย ไม่เพียงแต่ทำให้แบรนด์ได้กลุ่มลูกค้าหลักอย่างหนุ่มไทยสายท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังได้ลูกค้าสาวๆ เพิ่มด้วย โดยสาวๆ ที่สั่งซื้อเสื้อยืด Asaro มีทั้งที่ชอบท่องเที่ยวและซื้อเป็นของขวัญให้คนรัก

     “ช่วงแรกๆ ที่ทำแบรนด์ลองใช้นายแบบไทย เพราะคิดว่าเข้าถึงลูกค้าไทยได้ง่ายกว่านายแบบฝรั่ง ตอนนั้นยอดขายที่ได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่พอเปลี่ยนมาใช้นายแบบฝรั่ง ยอดขายกลับดีขึ้น 2-3 เท่า ซึ่งอาจเป็นเพราะเลือกใช้นายแบบได้ตรงกับตัวตนของแบรนด์ ลูกค้าจึงรู้สึกอินตาม โดยนายแบบที่เราใช้เป็นคนชอบท่องเที่ยวผจญภัย และอินกับความเป็น Asaro” เบิร์ดกล่าว

     อย่างไรก็ตาม แม้ยอดขายในร้านออนไลน์จะเป็นที่น่าพอใจ แต่หนุ่มสาวคู่นี้ก็มีแพลนเปิดร้านออฟไลน์ควบคู่ไปด้วย เพราะทำให้ธุรกิจมีขรายได้เข้าสองทาง ซึ่งทำเลที่ตั้งของร้านออฟไลน์ในอนาคต ทั้งคู่เล็งไว้ที่จตุจักรเพราะหวังให้ลูกค้าต่างชาติได้รู้จักกับเสื้อยืดแบรนด์ Asaro พร้อมกันนี้ยังเตรียมเข้าไปขายในเว็บไซต์ช้อปปิงออนไลน์ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก เช่น Ebay และส่งออกเสื้อยืดพร้อมสินค้าอื่นๆ ที่ไม่หลุดจากคอนเซปต์ของแบรนด์ เช่น เสื้อแขนยาว กระเป๋า และหมวกในลักษณะของ Wholesale

     “กว่าที่ Asaro จะเข้าที่เข้าทางได้ก็ผ่านช่วงลองผิดลองถูกมามาก เริ่มตั้งแต่เรื่องการโปรโมตในเฟซบุ๊ก ตอนแรกโปรโมตแบบหว่าน ไม่ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ทำให้การโปรโมตนั้นไม่ได้ผล เสียเงินทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น เราจึงต้องศึกษาวิธีการโปรโมตเฟซบุ๊กให้ถูกต้อง คือ กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพราะจะทำให้โฆษณาส่งตรงถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของแบรนด์ ถัดมาคือเรื่องสต็อกสินค้า แรกๆ กะไม่ถูกว่าเสื้อแต่ละลายต้องผลิตมากน้อยแค่ไหน ทำให้เกิดปัญหาเสื้อค้างสต็อก แต่ปัญหานี้แก้ได้ด้วย 1.เช็กสต็อกย้อนหลัง เสื้อลายไหนขายดีก็ผลิตมากหน่อย เสื้อลายไหนขายไม่ดีก็ผลิตน้อย และ 2.ออกบู๊ธเพื่อลดจำนวนเสื้อในสต็อก ซึ่งการออกบู๊ธทำให้เห็นว่าลูกค้ากว่า 70 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวต่างชาติที่ซื้อเสื้อเพราะชอบลาย และลูกค้า 30 เปอร์เซ็นต์เป็นคนไทยที่ซื้อเพราะชอบเนื้อผ้า ส่วนร้านออนไลน์ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย” จอยกล่าว

     ท้ายสุด เบิร์ดได้เล่าถึงเคล็ดลับให้แบรนด์เสื้อยืดอยู่รอดได้ในยุคที่แบรนด์เสื้อยืดออนไลน์เกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ ว่า ผู้ประกอบการต้องสร้างจุดแข็งให้แบรนด์ เช่น ภาพลักษณ์ที่ชัดเจน และคอนเซปต์ที่แข็งแรง ไม่โอนเอียงไปกับเทรนด์แฟชั่นที่เข้ามา และต้องไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ต้องคิดตลอด เช่น คิดหาสินค้าใหม่ๆ เพื่อมาตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และการมีสินค้าที่หลากหลายเป็นเหมือนการเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับกระแสเสื้อยืดที่อาจซาลงไม่วันใดก็วันหนึ่ง

     Facebook : Asaroshop

     Instagram : Asaroshop

     Line : @ape7547r

     Shopspot : Asaroshop




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี