Starting a Business

สุขภาพดี มีขาย ที่ร้านใบเมี่ยง



     จากเทรนด์การดูแลสุขภาพที่คนให้ความสำคัญกันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คนหันมาดูแลเรื่องอาหารการกิน การใช้ชีวิต และการออกกำลังกายมากขึ้น จนกลายเป็นไลฟ์สไตล์อย่างหนึ่งของคนในยุคนี้ และส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพเติบโตอย่างรวดเร็ว
 
     ดังเช่น ร้านใบเมี่ยง ร้านแรกๆ ที่ประกาศว่าเป็นทางเลือกของคนรักสุขภาพที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นออร์แกนิกเมื่อ 7 ปีก่อน กระทั่งในปัจจุบันร้านใบเมี่ยงมีการเติบโตจนขยายถึง 10 สาขา  

     “คำว่าสุขภาพจริงๆ เป็นไปได้หลายแบบ แต่สำหรับร้านใบเมี่ยงเรานิยามตัวเองว่าเป็นร้านทางเลือกเพื่อสุขภาพ จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นออร์แกนิก และปราศจากสารอื่นๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น สบู่ แชมพู เครื่องสำอาง ที่นอกจากจะเป็นออร์แกนิกแล้วยังต้องปราศจากสารก่อฟองหรือภูมิแพ้อีกด้วย และถ้าเป็นอาหารก็ต้องปราศจากสารวัตถุกันเสีย โซเดียม หรือปราศจากผงชูรสไปเลย ตอนที่เราเปิดร้านในวันแรกมีคนมายืนต่อคิวหน้าร้านเป็นชั่วโมงเพื่อมาซื้อของในร้านใบเมี่ยง นั่นเป็นเพราะว่าเขาหาร้านแบบนี้ไม่ได้ และกลัวว่าสินค้าจะหมด แสดงว่าตลาดนี้มีความต้องการอยู่” อิทธิวุฒิ เหลืองนทีเทพ ผู้จัดการ บริษัท ใบเมี่ยง รีเทล จำกัด เล่าแนวคิดของร้านใบเมี่ยง และย้อนภาพทำให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีอยู่จริง

     อย่างไรก็ตาม ในวันนี้พฤติกรรมของคนที่หันมาดูแลสุขภาพมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น ย่อมทำให้ความต้องการสินค้าประเภทนี้เพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีธุรกิจในลักษณะนี้เปิดเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งอิทธิวุฒิบอกว่า แม้ว่าร้านใบเมี่ยงจะมีประสบการณ์และความชำนาญเพราะเปิดร้านมานานกว่า แต่กระนั้นก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยร้านใบเมี่ยงได้มุ่งสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในสองเรื่องสำคัญคือ การคัดเลือกสินค้าและการบริการ  

     สำหรับการคัดเลือกสินค้าเข้าร้านนั้น ทางร้านใบเมี่ยงจะมีทีมงานที่มีความรู้ด้าน Food Science มาช่วยตรวจสอบก่อนที่จะรับสินค้าเข้ามาจำหน่ายในร้าน โดยจะมีการสอบถามทางผู้ผลิตด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าสินค้านั้นดีต่อสุขภาพจริงๆ

     “ทุกวันนี้มีร้านที่ออกตัวว่าเป็นร้านออร์แกนิกเพื่อสุขภาพกันเต็มไปหมด แต่ว่าออร์แกนิกก็มีหลายระดับ บางคนบอกว่า สินค้านั้นมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ก็เป็นออร์แกนิกแล้ว แต่เราต้องการมากกว่านั้น โดยที่สินค้าบางชนิดแม้จะบอกว่าเป็นออร์แกนิก แต่ก็ยังมีสารบางอย่าง เช่น สบู่ที่มีสารก่อฟอง เวลาสะสมในร่างกายระยะยาวก็เป็นมะเร็งได้ เราจะไม่ให้มีของพวกนี้ในร้านเลย โดยเรามีทีมที่จะสอบถามเรื่องกระบวนการผลิตเพื่อให้มั่นใจว่า สิ่งที่คุณบอกมันคือของจริง ถ้าได้ อย.หรือได้ใบรับรองอะไรมา เราจะตรวจสอบย้อนกลับหมดว่าที่คุณเอามาคือของจริง แต่ถ้าเป็นผู้ประกอบการ SME รายเล็กๆ บางทีอาจจะไม่มีใบรับรอง เราก็จะใช้วิธีสอบถามวิธีการทำ ที่มาของวัตถุดิบ สมมติทำขนมปังสักก้อน ซึ่งต้องมีผงฟูซึ่งถ้าไม่ใช้ตัวนี้ก็จะมีตัวอื่นมาทดแทน อย่างนั้นคุณใช้อะไรมาแทน ถ้าเขาบอกไม่ได้ หรือตอบไม่ถูกก็แสดงว่าไม่ใช่แล้ว คือเราก็จะพยายามสอบถามเพื่อให้ได้ความจริงว่า มันใช่ไหมที่บอกว่าดีต่อสุขภาพ ที่บอกว่าเป็นออร์แกนิก”

     ในส่วนของการบริการลูกค้า ร้านใบเมี่ยงจะมีทีมงานที่จะทำหน้าที่ศึกษาสินค้าที่นำเข้ามาจำหน่าย เพื่อจะได้ถ่ายทอดให้กับพนักงานในร้านว่า สินค้านี้มีส่วนประกอบอะไร เหมาะกับใคร ไม่เหมาะกับใคร เพื่อที่ว่าพนักงานจะสามารถให้คำแนะนำกับลูกค้าได้ถูกต้องเหมาะสม

     “อย่างเช่น ลูกค้าเป็นโรคภูมิแพ้ หรือเป็นโรคที่ต้องควบคุมของที่จะต้องใช้ ทีมงานเราจะสามารถให้คำแนะนำได้ว่าสินค้าตัวไหนที่เขาสามารถใช้ได้ นอกจากนี้ เวลาเลือกพนักงานในร้าน เราจะพยายามเลือกคนที่มีความรักและสนใจเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว ทำให้เวลาเขาเจอลูกค้าจะมีความสนุกในการแนะนำลูกค้า แล้วเราจะมีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทุกเดือน แต่ละคนมองเทรนด์ข้างหน้าเป็นยังไง เช่น สมมติเราเห็นว่ามีลูกค้าเริ่มสอบถามถึงสินค้าบางอย่าง หรือเป็นโรคบางอย่างเพิ่มมากขึ้น เราก็จะเอาตัวนั้นมาให้ทีมงานศึกษาเพื่อจะได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกลับไปให้สาขา เวลาที่เจอเรื่องลักษณะนี้ก็สามารถแนะนำลูกค้าได้ถูกต้อง”

     อย่างไรก็ตาม อิทธิวุฒิกล่าวด้วยว่า ปีที่ผ่านมาร้านใบเมี่ยงมียอดจำหน่าย 70 ล้านบาท ปัจจุบันมี 10
 
     “สำหรับเป้าหมายหลักของเราคือ อยากให้ร้านใบเมี่ยงเป็นทางเลือกต้นๆ ของคนที่รักสุขภาพ แต่ถ้าถามเรื่องการเติบโตจริงๆ แล้วเราเชื่อว่า ในเรื่องสินค้าเพื่อสุขภาพนั้นใครๆ ก็ต้องการอยู่แล้ว ประกอบกับรายได้ของคนชั้นกลางในปัจจุบันสูงมากขึ้นจากสมัยก่อน คนรุ่นใหม่มีกำลังซื้อสินค้าประเภทนี้มากขึ้น ตัวเขาเองมีความสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้นเป็นทุนอยู่แล้ว ดังนั้น เชื่อว่าความต้องการสินค้าประเภทนี้มีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ร้านออร์แกนิกส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่กรุงเทพฯ เป็นหลัก เราจึงตั้งใจจะขยายสาขาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้นด้วย”


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี