Starting a Business

แรงบันดาลใจสร้างความสำเร็จของ อิงฟ้า ดำรงชัยธรรม

Text : Kritsana S.
 



     อิงฟ้า ดำรงชัยธรรม
เป็นที่รู้จักในฐานะทายาทอากู๋แห่งค่ายเพลงแกรมมี่ ซึ่งตอนนี้เธอไม่เพียงเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจของครอบครัวเท่านั้น หากแต่ยังสวมบทนักธุรกิจสาวไฟแรงด้วยการเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Base ฟิตเนสน้องใหม่ใจกลางเมืองที่โดดเด่นเรื่องการออกกำลังกายแบบ HIIT ที่ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ในระดับสูงในเวลาอันรวดเร็ว แม้ธุรกิจนี้จะเป็นธุรกิจแรกของเธอ แต่เธอก็เชื่อมั่นว่าตนเองจะทำธุรกิจออกมาได้ดีเพราะมี 5 สิ่งต่อไปนี้เป็นแรงผลักดัน



 
     1. ครูอู๋-เปรมจิตต์ อำนรรฆมณี
     “เราเชื่อว่าการได้อยู่ท่ามกลางผู้หญิงที่ทำงานเก่ง ทำงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจะทำให้เรามีแรงบันดาลใจที่ดีในการทำงาน โดยส่วนตัวมองว่า ครูอู๋-เปรมจิตต์ อำนรรฆมณี (ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนเต้น D Dance School) เป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงาน ครูอู๋ทำให้เราเห็นว่าผู้หญิงที่ทำงานเก่งและมีความสุขในการทำงานนั้นเป็นอย่างไร หากเราไม่อยู่ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้ เราจะไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน จะรู้สึกว่า ชีวิตการทำงานนั้นน่าเบื่อ ไม่มีความสุขที่จะทำ ส่งผลให้ไม่อยากทำงานหรือทำงานออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร”



 
     2. ท่องเที่ยวต่างประเทศ
     “เราเดินทางไปต่างประเทศค่อนข้างบ่อย ทุกปีจะมีแพลนว่าต้องไปเที่ยวต่างประเทศอย่างน้อย 4 ครั้ง โดยจะแบ่งเป็นไปเที่ยวประเทศที่เคยไปแล้ว 2 ครั้ง และประเทศที่ไม่เคยไป 2 ครั้ง ปกติจะเป็นคนที่ไม่เที่ยวเหมือนคนอื่น นั่นคือไม่ชอบไปสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศนั้นๆ แต่จะชอบตื่นแต่เช้าเพื่อมาออกกำลังกายและดูวิถีชีวิตของผู้คนว่าเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร เช่น ถ้าไปปารีสจะไม่ไปช้อปปิ้งแต่จะไปปั่นจักรยานในคลาส หรือถ้าไปโรมจะออกไปวิ่งในช่วงเวลาตี 5-6 โมงเช้า วิ่งไปรอบเมืองเพื่อดูว่าพนักงานออฟฟิศที่นั่นทำอะไรก่อนไปทำงาน”
 


     
     3. หุ้นส่วน

     “Base ถือเป็นธุรกิจแรกของเราเลยก็ว่าได้ ซึ่ง Base เป็น Base ได้ทุกวันนี้เพราะมีหุ้นส่วนที่ดีที่คอยสอนคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจ พี่ๆ หุ้นส่วนทุกคนต่างมีประสบการณ์การทำธุรกิจ และแต่ละคนก็มีแนวทางการทำธุรกิจที่ชัดเจน มีความมุ่งมั่นจริงจังในการทำงาน และพร้อมที่จะลองทำสิ่งใหม่ โดยสิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้ได้จากพี่ๆ คือ การจัดการคน เรากับพนักงานต้องอยู่ร่วมกันแบบครอบครัว เปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ออกมาอย่างเต็มที่ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าต่อองค์กร” 



 
     4. คอนเสิร์ตและงานนิทรรศการศิลปะ
     “เวลาดูคอนเสิร์ตเหมือนเราได้ไปอยู่อีกโลกหนึ่ง คอนเสิร์ตเปรียบเหมือนศูนย์รวมของงานศิลปะและเทคโนโลยี เมื่อไหร่ที่สองสิ่งนี้ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวจะทำให้เกิดคอนเสิร์ตที่ดี คอนเสิร์ตสมัยนี้จะใช้เทคโนโลยีเยอะ แต่ก็มีบางคอนเสิร์ตที่ใช้เทคโนโลยีน้อยมากอย่างคอนเสิร์ตของ Bruno Mars ที่สะกดคนได้เพราะระบบเสียงดี นักดนตรีเก่ง โชว์กระชับ ส่วนงานนิทรรศการศิลปะก็ทำให้เราได้เปิดโลกใบใหม่ ได้เข้าไปอยู่ในโลกอีกใบ ตัวอย่างเช่น งานนิทรรศการผ้าถักของ Do Ho Suh ศิลปินชาวเกาหลีใต้ เขานำผ้าที่ถักเองตอนอยู่ประเทศต่างๆ มาเย็บต่อกันเป็นห้องต่างๆ ซึ่งเมื่อเราเดินผ่านก็เหมือนเข้าไปอยู่ในโลกของเขา ทำให้รู้ว่าชีวิตเขาในแต่ละประเทศนั้นเหมือนหรือต่างกันอย่างไร”



 
     5. การทำธุรกิจบนการทำความดี
     “Social Enterprise หรือการทำธุรกิจเพื่อสังคมเป็นธุรกิจที่อยากทำ ธุรกิจรูปแบบนี้ทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการทำงานและการคิดงาน เวลาเราคิดงานอะไรจะพยายามให้มีการทำดีเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างล่าสุดเราทำ This Ability Concert เป็นโปรเจคระหว่าง D Dance กับมูลนิธิสติ โปรเจคนี้เป็นคอนเสิร์ตที่เด็กด้อยโอกาสจะได้ร่วมเต้นกับเด็กที่เรียนเต้นที่ D Dance ซึ่งนอกจากทำให้เด็กทั้งสองกลุ่มได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในโลกที่พวกเขาไม่คุ้นเคยแล้ว ยังทำให้เด็กด้อยโอกาสได้รู้คุณค่าในตัวเอง และตระหนักว่าพวกเขาเป็นพลังที่สำคัญของชาติ”


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี