Starting a Business

วิธีคำนวณเงินงบประมาณก้อนแรก


     การกำหนดงบประมาณก้อนแรก เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญเพื่อควบคุมเงิน การมีเงินก้อนเพื่อธุรกิจไม่ใช่แค่มีเงินแล้วแค่หามาแล้วใช้ไป   หลายคนพบว่าใช้จ่ายเงินไปมากกว่าที่ตัวเองคาดไว้ ในขณะที่น้อยคนนักที่โชคดีเก็บเงินได้มากกว่าที่ตัวเองรู้

     การที่ตั้งงบประมาณได้นั้น จะทำให้เห็นส่วนที่สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ อีกทั้งจะได้เรียนรู้ว่าคุณควรเก็บเงินไว้เท่าไหร่ต่อเดือน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ท้ายสุดก็จะได้เข้าใจวิธีแบ่งเงินเก็บนั้นสำหรับระยะสั้นและระยะยาว

ขั้นตอนง่ายๆ ในการคำนวณเงินงบประมาณ

     1. คำนวณรายรับต่อเดือน หากคุณมีรายรับจากงานประจำ ขั้นตอนนี้ก็เพียงแค่ไปดูที่สลิปเงินเดือน ใช้ตัวเลขที่เข้าบัญชีจริงๆ ไม่ใช่จำนวนเงินเดือนที่ยังไม่ได้หักภาษี แต่หากคุณเป็นเจ้าของกิจการ ให้ใช้ยอดรายรับรวมในปีที่ผ่านมาทั้งหมดแล้วหารด้วย 12 หากต้องการยอดที่ตรงกว่านั้นให้ใช้ยอดรายรับในสามปีที่ผ่านมาแล้วหารด้วย 36

     2. ติดตามรายรับที่ไม่สม่ำเสมอ เพิ่มรายรับที่ไม่ได้ประจำเข้าไปด้วย เช่น โบนัสประจำปี ค่าเช่า ค่าคอมมิสชัน ฯลฯ  แต่หากได้รับเป็นรายสามเดือนหรือรายปี ให้เฉลี่ยเพื่อให้ได้ตัวเลขเป็นรายเดือนก่อน 

     3. เขียนรายการค่าใช้จ่ายประจำ ค่าใช้จ่ายประจำ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่คุณต้องจ่ายทุกเดือน เช่น  ค่าเช่าสถานที่ ประกันรถยนต์ หรือประกันบ้าน ค่ารักษาพยาบาล ค่าผ่อนชำระเงินกู้ บัตรเครดิต ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าของใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ หากเป็นการจ่ายงวดเดียวต่อปี ให้หารด้วย 12 เช่น ภาษีต่างๆ เพื่อให้เห็นเป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือน

    4. เขียนรายการค่าใช้จ่ายด้านบริหาร ค่าใช้จ่ายด้านบริหาร ได้แก่ ค่าอาหารลูกค้า ค่าบันเทิง ค่าเดินทาง ค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า และค่าของขวัญต่างๆ  ดูจากรายการที่ใช้ในปีที่ผ่านมา แล้วรวมค่าใช้จ่ายพวกนี้เข้าด้วยกันหารด้วย 12

     5. รวมค่าใช้จ่ายประจำและค่าใช้จ่ายด้านบริหารเข้าด้วยกัน  จากนั้นเปรียบเทียบยอดตัวเลขกับรายรับของคุณ หากคุณใช้มากกว่าเงินที่หามาได้ คุณต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง แต่หากคุณหาเงินได้มากกว่าที่คุณใช้ก็ขอแสดงความยินดีด้วย คุณเริ่มต้นด้วยดีแล้ว

ต่อไปก็มาถึงขั้นตอนการบริหารเงินเก็บกันบ้าง 

     1. ตัดค่าใช้จ่ายด้านบริหารออก หากคุณใช้มากกว่าที่หาได้ คุณต้องตัดค่าใช้จ่ายด้านบริหารออกก่อน เช่น เอาอาหารกลางวันไปกินแทนที่จะไปกินที่ร้านอาหาร เช่าภาพยนตร์มาดูแทนที่จะไปดูในโรง หรือใช้รถสาธารณะแทนที่จะขับรถไปเอง เป็นต้น

     2. ลดรายจ่ายประจำ คงยากที่จะตัดค่าใช้จ่ายประจำ แต่ก็มีทางลดลงได้ ลองคิดหาวิธีดู ลดหลักร้อยๆ รวมๆ กันก็เป็นพันแล้ว

    3. กำหนดเป้าหมายในการออม เมื่อรายรับน้อยกว่ารายจ่าย คุณต้องตัดสินใจแล้วล่ะว่าจะกำหนดเป้าหมายในการออมเงินอย่างไร คุณควรกำหนดเป้าหมายการออมเงินไว้ 3 ระยะหลักดังนี้ ระยะสั้น คือการไปพักผ่อน การซ่อมแซมรถยนต์ ระยะกลาง คือการแต่งงาน มีครอบครัว ค่าใช้จ่ายของบุตร และระยะยาว คือเมื่อเกษียณแล้ว ซึ่งการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยกระตุ้นให้คุณดำเนินชีวิตไปให้ได้ตามนั้น

     4. เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายจริงกับงบประมาณที่ตั้งไว้ แต่ละเดือนให้คุณดูที่รายการใช้จ่ายเปรียบเทียบกับรายรับที่เฉลี่ยไว้ในงบประมาณ ซึ่งจะทำให้คุณเห็นส่วนที่ขาดไปและส่วนที่เหลือกว่าที่คาดไว้   

สิ่งที่ต้องใช้ในการคำนวณงบประมาณ

    - ใบสลิปเงินเดือน หรือใบแสดงรายการเงินได้

     - ใบรายการใช้เครดิตการ์ด

     - รายการค่าใช้จ่าย

     - เครื่องคิดเลข