มาตรวัดพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่บ้าน อาจดูได้จากจำนวนอาหารดิลิเวอรีที่ผุดขึ้นมามากมาย และด้วยเห็นเทรนด์การเติบโตของการรับประทานอาหารที่บ้าน ที่ยังมีคนอีกกลุ่มที่ชอบลงมือทำอาหารด้วยตัวเองแต่ต้องการความสะดวกสบาย เพื่อนสนิท 3 คน ได้แก่ วริศรา ตันตราธิวุฒิ, ธนัญญา เครือบัว  และ นิธิ สัจจทิพวรรณ จึงร่วมมือกันเปิด COOKIT ชุดทำอาหารเสิร์ฟถึงบ้านขึ้นมา 

 

     “เริ่มจากที่นิธิเขาไปเรียนต่อที่อเมริกาและเข้าใจความต้องการของคนที่อยู่คนเดียวว่า เวลาจะทำอาหารเองแต่ละครั้งทำแล้วจะมีของเหลือใช้ไม่หมด เขาเลยลองสั่งบริการแบบนี้ซึ่งที่อเมริกามีอยู่เยอะมากมาลองทำดูก็ชอบมาก พอกลับมาเมืองไทยเห็นว่ายังไม่มีใครทำ เราก็เลยรวมตัวกันเปิดเว็บไซต์ cookitdelivery เพื่อส่งชุดทำอาหารถึงบ้าน ซึ่งจริงๆ แล้วตลาดนี้ที่อเมริกาเป็นตลาดใหญ่มาก มีเจ้าใหญ่ๆ ประมาณ 10 เจ้า แต่ที่โน่นจะวางโพสิชันนิ่งว่า การสั่งชุดทำอาหารจะเป็นการประหยัดเงิน เพราะทำที่บ้านจะถูกกว่าออกไปกินนอกบ้าน แต่ของเราจะต่างออกไปคือ เราวางโพสิชันนิ่งว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ ทำอาหารเองจะได้ของที่มีคุณภาพและมีประสบการณ์ที่ดีกว่า” วริศราเล่าที่มาของ COOKIT 

    สำหรับข้อดีของชุดทำอาหารดิลิเวอรีนั้น ธนัญญา อธิบายว่าคือการที่ผู้บริโภคไม่ต้องเสียเงินซื้อวัตถุดิบจำนวนมาก ซึ่งการซื้อวัตถุดิบบางตัวจะต้องซื้อมายกขวดบ้าง ยกแพ็กบ้าง ทำให้มีของเหลือใช้ไม่หมด หรือบางครั้งก็หาซื้อวัตถุดิบไม่ได้ เพราะ COOKIT จะชั่ง ตวง วัดวัตถุดิบให้คุณพอดีปริมาณเท่าที่จำเป็น ช่วยลดเวลาเตรียมวัตถุดิบต่างๆ และยังช่วยลดเวลาในการเก็บกวาดของเหลือ ที่สำคัญคือ ยังมีวิธีทำโดยละเอียดพร้อมภาพประกอบให้ด้วย ซึ่งสูตรอาหารนี้จะมาจาก 2 ส่วนคือ เชฟของ COOKIT เอง และสูตรจากร้านอาหารที่เป็นพาร์ตเนอร์ เช่น ร้านอาหาร Kloset Cafe ร้าน Kin-d! เป็นต้น
 

    
    “ในช่วงแรกนั้นผลตอบรับไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเมนูที่คิดไม่ตอบโจทย์คนไทยคือ เรามีเมนูอาหารไทย แต่ผู้บริโภคคนไทยคิดว่าเมนูพวกนี้สามารถหาซื้อกินง่าย ไปที่ไหนก็เจอ เราเลยพยายามปรับเปลี่ยนเมนูให้มีความเป็นนานาชาติมากขึ้น เป็นเมนูอาหารที่วัตถุดิบไม่ค่อยมีติดบ้าน หลังจากนั้นผลตอบรับก็ดีขึ้น เพราะคนเห็นว่ามันมีความแปลกใหม่ เมนูเราตอนนี้มีเกือบ 100 เมนูทั้งไทย ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย หลากหลายมาก และจะมีใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ขณะที่ลูกค้าจะมี 2 แบบคือ แบบทั่วไป ซึ่งจะต้องสั่งล่วงหน้า 1 วัน และแบบสมาชิกซึ่งสมัครเป็นรายเดือน เดือนหนึ่งส่ง 4 สัปดาห์  ตอนนี้เรามีออร์เดอร์ประมาณ 200 ออร์เดอร์ต่อสัปดาห์” 

    อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจจะเริ่มไปได้ดีแต่การทำธุรกิจนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งธนัญญาแชร์ข้อมูลให้ฟังว่า ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาเรื่องการจัดการ โดยเฉพาะของสดที่จะต้องพยายามส่งให้เร็วที่สุด โดยตอนนี้การสั่งของจะใช้วิธีเปิดรับออร์เดอร์ก่อนหนึ่งวัน และเมื่อปิดรับออร์เดอร์ ก็จะทำการสั่งของกับซัพพลายเออร์และรีบแพ็กจัดส่งให้ลูกค้าทันที แต่เนื่องจากว่ามีลูกค้าหลายคนบ่นว่า การสั่งล่วงหน้าหนึ่งวัน ทำให้ไม่สะดวกเพราะไม่แน่ใจว่าวันนั้นจะกลับบ้านเร็วหรือไม่ ดังนั้น จึงกำลังปรับวิธีการสั่งอาหารล่วงหน้าเหลือ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีปัญหาต้นทุนวัตถุดิบซึ่งจะเหวี่ยงขึ้นลงตามฤดูกาล โดยได้แก้ปัญหาด้วยการพยายามนำเสนอเมนูให้สอดคล้องกับฤดูกาลด้วย   

    ทั้งนี้ ธนัญญาบอกว่า เนื่องจากว่าตอนนี้ COOKIT เป็นเจ้าเดียวในตลาดและการตอบรับดีมากขึ้นเรื่อยๆ จึงตั้งใจว่าภายในสิ้นปีจะขยายไปต่างจังหวัด โดยจะปักหมุดที่เชียงใหม่และภูเก็ตก่อน

  
    “ทั้งลูกค้าและพาร์ตเนอร์ต่างจังหวัดเรียกร้องมาเยอะ คือมีร้านอาหารที่โน่นอยากทำโมเดลนี้เหมือนกัน เขาอยากให้เราไปทำโดยอาจจะเป็นลักษณะแฟรนไชส์หรือพาร์ตเนอร์ ซึ่งถ้าเราได้ไปทำก็คิดโมเดลเอาไว้ว่า เราจะรับซื้อวัตถุดิบในท้องถิ่นนั้นๆ เช่น รับผักออร์แกนิกจากเชียงใหม่ นอกจากนี้ ตอนนี้กำลังขยายเข้าไปจับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ทำงานในไทยด้วย ซึ่งต้องเตรียมเพิ่มในเรื่องภาษา เช่น คนญี่ปุ่นคอนเทนต์ก็ต้องเป็นภาษาญี่ปุ่น เพราะคนญี่ปุ่นมีการทำอาหารที่บ้านเยอะมาก” วริศรากล่าวในตอนท้าย

Web : www.cookitdelivery.com

FB & IG : cookitdelivery

Line : @cookitdelivery

Tel : 08-6038-0556