Starting a Business
วาสิกา อุดมธนสกุล บ่นบ่น จนได้ดี
ตรัยเล่าว่าหน่วยงานแรกที่เข้ามาหยิบยื่นโอกาสให้คือสำนักพิมพ์อัมรินทร์ที่ติดต่อให้นำภาพการ์ตูนจากเพจของเธอมารวมเล่มเป็นพ็อคเกจบุ๊ค ถือเป็นงานแรกที่ทำให้เธอได้เริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจ จากหนังสือเล่มแรก โอกาสอีกมากมายก็หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย เริ่มจาก บริษัท ไลน์ ประเทศไทยติดต่อเข้ามาให้เธอทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขายเป็นรายแรกของบริษัท ทำให้มียอดดาวน์โหลดขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ติดต่อกันหลายวัน สร้างรายได้ให้เธอเป็นหลักล้าน หลังจากนั้นก็มีงานโฆษณาติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่อยากให้ออกแบบการ์ตูนเป็นคาแรคเตอร์ตัวใหม่เลย บางรายต้องการโฆษณาบนเพจบ่นบ่น โดยให้เธอช่วยวาดรูปบ่นบ่น ใส่ข้อคิด ติดโลโก้และข้อความโฆษณาให้ ปีหนึ่งๆ ราว 7-8 แบรนด์ สร้างรายได้ให้เธอเป็นกอบเป็นกำจนคิดจดทะเบียนเป็นบริษัท ทำธุรกิจต่อยอดจากตัวการ์ตูนบ่นบ่นอย่างจริงจังขึ้นมา
สาวน้อยเจ้าของการ์ตูนเพจบ่นบ่นบอกว่าโฆษณาแฝงบนเพจดังมีข้อดีตรงที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน ดูได้จากตัวเลขคนไลค์ คนแชร์ และคนคลิกลิงค์ แนวโน้มจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง กระนั้นในการรับงานโฆษณาก็ต้องควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่กระทบต่อความพอใจของแฟนเพจมากนัก โดยเธอจะเลือกรับโฆษณาให้กับสินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายตรงกับแฟนเพจของเธอซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้หญิงอายุ 18-24 ปี และจะรับไม่เกิน 10 โพสต์ต่อเดือน ส่วนแนวทางในการรักษากลุ่มแฟนเพจให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นไม่ลดลงอันหมายถึงความนิยมเพจจะเสื่อมตามนั้น เธอเลือกที่จะคิดคอนเทนต์ใหม่ๆ มาโพสต์อย่างสม่ำเสมอทุกวันแทนการใช้เงินซื้อบูทซึ่งเธอมองว่าได้ผลไม่คุ้มค่า แถมคนที่เข้ามากดไลค์ก็ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ที่จะอยู่กับเพจของเธอไปนานๆ
ตรัยบอกว่าเธอไม่มีความรู้ด้านการทำธุรกิจมาก่อน อาศัยการเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านการทำเพจบ่นบ่น ทำให้รู้ว่าสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจคือต้องเข้าใจตลาด ซึ่งจะทำให้กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน และได้ผลตอบรับเกินความคาดหวัง ดังเช่นเธอที่เอาความเป็นตัวตนของตัวเองเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงในช่วงอายุเดียวกันทำให้เข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ดี และตอบสนองได้ตรงตามความต้องการ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ “บ่นบ่น” โด่งดังจนสามารถดันให้เป็นธุรกิจสร้างรายได้ได้
ทั้งนี้ สิ่งที่ตรัยมองว่าเป็นเรื่องน่ากังวลในการทำธุรกิจของเธอ ก็คือความแปรผันทางการตลาดซึ่งเธอมองว่าคน GEN Y เปลี่ยนใจง่าย ทำให้เพจบ่นบ่นเป็นเหมือนกระแสที่มีขึ้นมีลง การจะนำธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ไม่มีหล่นจึงต้องคิดต่อยอดพัฒนาเพจให้อยู่ในกระแสได้ตลอดเวลา หรือไม่ก็อาศัยช่วงจังหวะขาขึ้นแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจอื่นที่จะเพิ่มความมั่นคงให้กับธุรกิจได้ โดยการทำของที่ระลึกเป็นคาแรคเตอร์บ่นบ่นออกจำหน่าย ขณะเดียวกันก็จะพัฒนาตัวการ์ตูนให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นและติดตาคนมากขึ้น เพื่อนำพาธุรกิจไปให้ถึงฝั่งฝันให้ได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
SME STARTUP: REVIEW
กันตินันท์ ตันวีนุกูล “SLEEK EV” Move Fast, Succeed Faster
จากพนักงานฝึกหัด Co–Working Space เขาใช้เวลาเพียง 6 เดือน เปลี่ยนตัวเองจากพนักงานฝึกหัดสู่การเป็นผู้จัดการ จากพนักงานคนแรกของบริษัทสตาร์ทอัพสิงคโปร์ที่เข้ามาจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทย สู่การเป็น startup เต็มตัว ในวัย 24 ปี ด้วยการระดมทุนเปิดบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่..
Plant-based is now โอกาสที่ต้องคว้า
Issue 109
