Starting a Business

Sustainable Startup

Text : ปพนธ์ มังคละธนะกุล


    ไม่ว่าใครก็ตามที่เลือกเส้นทางสาย Startup ทุกคนล้วนต้องการสานฝันของตนเอง ไม่ว่าฝันของคุณจะเล็กจะใหญ่ จะเป็นอะไร คุณคงต้องการเห็นมันเจริญงอกงาม เติบโต ไปให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่จะไปได้ ตลาดและผู้บริโภคจะเป็นคนกำหนดเองว่า ฝันของคุณนั้นเหมาะกับเขาหรือไม่ ถ้าโดนจังๆ ฝันคุณก็ใหญ่ได้ หากไม่โดนสักเท่าไร ฝันคุณอาจเล็กลง แต่คุณก็จะมีโอกาสได้เห็นศักยภาพของมันตามที่ควรจะเป็น

    ไม่มีอะไรจะร้ายแรงไปกว่า การคุมกำเนิดฝันหรือการทำแท้งฝันนั้น โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์โดยตัวคุณเอง 

    การที่พยายามตะบี้ตะบันสร้างฐานลูกค้าโดยที่ไม่มีไอเดียที่ชัดเจนในการที่จะหารายได้จากฐานลูกค้านั้น เพียงเพราะถูกครอบความคิดตลอดเวลาว่า ขนาดของฐานลูกค้าจะเป็นตัวกำหนดมูลค่าของธุรกิจ ฝันคุณจะใหญ่หรือไม่ อยู่ที่ฐานลูกค้าเป็นสำคัญ กำไรหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องคืนทุนเมื่อไร ฐานลูกค้าเยอะ แปลว่าศักยภาพสูง ซึ่งก็หมายถึงมูลค่าจะสูงตามไปด้วย แล้วคุณจะแปลงฝันให้เป็นเงินก้อนใหญ่ได้ ฐานลูกค้าช่างมีความมหัศจรรย์อะไรเช่นนี้


    
   ไหนจะเรื่องการที่ต้องพึ่งแหล่งเงินทุนจากเหล่านักลงทุนอีกล่ะ Startup เหล่านั้นมีชีวิตอยู่รอดเพื่อรอการลงทุนรอบใหม่ใช่หรือไม่ แล้วค่อยไปลุ้นกันต่อว่า เมื่อถึงรอบการระดมทุนรอบใหม่ จะได้เงินมาเพื่อเป่าฐานลูกค้าต่ออีกหรือเปล่า ถ้าได้ก็ถือว่าเป็นการต่ออายุ ฝันของคุณยังมีลมหายใจอยู่ หากไม่ได้ก็เก็บข้าวของ หมดลมหายใจไป เกิดเป็นฝันร้ายในทันที

    การสร้างฐานลูกค้าโดยไม่รู้ว่าจะได้กำไรจากฐานลูกค้าเมื่อไร ขณะที่เอาเงินคนอื่นมาเผาทิ้ง เพื่อสร้างฐานลูกค้า ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจอีกนั่นแหละว่าจะกำไรเมื่อไร โดยหวังเพียงว่า เขาจะพิมพ์แบงก์เอามาให้เผาต่อไปได้เรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันที่ขายบริษัทให้คนอื่นไป

    นี่คือการทำธุรกิจ หรือ งานอดิเรก กันแน่...

    หากคุณจริงจังกับฝันของคุณ หากนั่นคือชีวิตของคุณ คุณคงไม่อยากให้มันตายลงไปง่ายๆ โดยมือของคุณเอง
คุณต้องกลับมาสู่เส้นทางแห่งความยั่งยืน คุณต้องเป็นคนควบคุมการเดินทางเสียเอง ส่วนเส้นทางนี้จะทอดยาวไปได้ไกลแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีแรงจะไปต่อได้อีกนานเท่าไร หาใช่ว่า เหล่านักลงทุนเขายินดีอยากให้คุณเดินทางต่อหรือไม่

    คุณต้องเลิกยืมจมูกคนอื่นหายใจ คุณต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง คุณต้องทำให้ธุรกิจของคุณคืนทุนให้เร็วที่สุด คุณต้องคิดถึงกำไรตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเดินทาง คุณต้องคิดตลอดเวลาว่า เมื่อไรธุรกิจคุณถึงจะมีกำไรได้ คุณต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เร็วที่สุด เงินของคนอื่น ใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น อย่ามองว่าเงินคนอื่นมีเยอะ เราไม่ใช้ คนอื่นก็ได้ไป
    นี่มันคือวิธีการดำรงชีวิต การทำงานตามปกติวิสัยไม่ใช่หรือ

    ทำไมมันถึงช่างฟังดูแปลกแยกจากสิ่งที่เหล่า Startup จากซิลิคอน วัลเลย์เสียเหลือเกิน มันล้าสมัยไปหรือเปล่า คิดแบบนี้ไม่มีทางมีฝันที่ใหญ่ได้หรอก จะวิ่งตามใครเขาทัน

    ฝันจะใหญ่หรือไม่ ตลาดจะเป็นคนบอกเอง แต่คุณต้องไม่ตายไปก่อนที่จะถึงบทสรุป หากยังไม่หมดลมหายใจ เส้นทางก็ยังทอดยาวไปได้อีก