Text : น้ำค้าง

      รับประทานอาหารให้ได้คุณค่าทางโภชนาการเต็มๆ ยังต้องทานให้ครบ 5 หมู่ การออกกำลังกายก็เช่นกัน หากจะให้สมบูรณ์แบบต้องหมุนเวียนให้ได้ 4 หมู่ อย่าเน้นอย่างใดอย่างหนึ่ง และ 4 หมู่ที่ว่าประกอบด้วย

 

 

     1. Aerobic exercise หรือที่หลายคนเรียก “คาร์ดิโอ”

         เป็นการออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจน เช่น การวิ่ง เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ กระโดดเชือก เต้นรำ เต้นแอโรบิก และเล่นกีฬาต่าง ๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมทีร่างกายต้องการออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายมากที่สุด ทำให้หัวใจ หลอดเลือด และปอดแข็งแรง พัฒนาระบบการหายใจ และการไหลเวียนของเลือด ทั้งยังช่วยเผาผลาญไขมันอีกด้วย ควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์         

    

 

     2. Strength (resistance) training หรือ weight training

          การฝึกกล้ามเนื้อหรือการออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น มวลกล้ามเนื้อจะลดลง กระดูกจะบางลง การออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและมวลกระดูก ทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง ส่งผลให้เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วกระฉับกระเฉง การฝึกกล้ามมีทั้งแบบใช้และไม่ใช้อุปกรณ์ เช่น สคอท ลันจ์ แพลงก์ วิดพื้น ดึงข้อ และยกน้ำหนัก เป็นต้น คำแนะนำคือควรฝึกกล้ามเนื้อให้ได้ 2 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นอย่างต่ำ

 

 

     3. Stretching

          การยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยป้องกันการบาดเจ็บระหว่างและหลังออกกำลังกาย เช่น การฝึกโยคะ หรือพิลาทิส ควรฝึกเป็นประจำ หรืออย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นยืดหยุ่น ข้อไม่ติดไม่ยึด และเพิ่มมุมในการเคลื่อนไหว สำหรับคนที่ออกกำลังกายแบบ weight training เสร็จทุกครั้ง ควรตบท้ายด้วยการยืดกล้ามเนื้อเพื่อคลายกรดแลคติกจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยร่างกายได้

   

 

 

     4. Balance exercise การออกกำลังเสริมกายด้วยการทรงตัว

         เป็นการฝึกเพื่อทำให้การทรงตัวมั่นคง สามารถควบคุมหรือรักษาความสมดุลของร่างกายได้ ไม่หกล้มง่าย สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและความยืดหยุ่นของร่างกาย โดยเฉพาะผู้สูงวัย ควรออกกำลังกายประเภทนี้ ได้แก่ การฝึกไทชิหรือไทเก็กซึ่งเป็นกิจกรรมที่เคลื่อนไหวร่างกายในลักษณะคล้ายวงกลม ด้วยท่าทางที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง ไม่ต้องออกแรงมาก มีแรงกระแทกต่ำ หรือการฝึกโยคะบางท่า เช่น ท่าต้นไม้ ท่าธนู ท่าภูเขา ท่าทรงตัวขาเดียว หรือการฝึกทรงตัวด้วยอุปกรณ์เช่น ใช้ลูกบอลขนาดใหญ่เข้ามาเสริมเป็นต้น การออกกำลังกายแบบบาลานซ์สามารถทำได้ทุกวัน

     สำหรับผู้ที่มีเวลามากและแข็งแรงพอ สามารถออกกำลังกายให้ครบทั้ง 4 หมู่ในวันเดียว อาจเริ่มต้นจากเวทเทรนนิ่ง ตามด้วยคาร์ดิโอ และปิดท้ายด้วยการยืดกล้ามเนื้อ+บาลานซ์ เท่านี้ก็ครบจบได้ในคราวเดียว แต่ถ้ารู้สึกว่าหนักเกินไป ก็สามารถแบ่งเป็นวัน ๆ ว่าแต่ละวันจะออกกำลังกายประเภทไหน แบบนี้ก็ได้เหมือนกัน เลือกแบบที่ตัวเองสะดวกเป็นดีสุด

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup