Q-Life

ลี่-พรชนัน พัฒนาปัญญาสัตย์ ชีวิตที่ไม่ยอมแพ้ เพราะมีแรงบันดาลใจ 

 

     ลี่ มาสเตอร์เชฟ หรือ พรชนัน พัฒนาปัญญาสัตย์ เชฟสาวผู้มากความสามารถในการรังสรรค์เมนูอาหารต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขัน MasterChef Thailand Season 4 ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่เธอสามารถคว้าแชมป์มาครองได้

 

 

     ลี่ มีคติประจำตัวคือไม่ยอมแพ้ เธอคิดว่าถ้าไม่ยอมแพ้แล้วสักวันจะชนะ เพราะมันจะมีหนทางที่จะทำสำเร็จ และนั่นอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เธอได้เป็นแชมป์รายการนี้ ลี่ชื่นชอบในการทำอาหารเธอจึงเลือกเรียนเกี่ยวกับด้านนี้ โดยก่อนหน้านี้เธอได้เปิดร้านขนมหวานชื่อ smilibakery แต่น่าเสียดายด้วยเพราะขาดประสบการณ์ในการทำธุรกิจทำให้ร้านต้องปิดตัวลง แล้วหันมาขายออนไลน์แทน แต่แน่นอนว่าด้วยความไม่ยอมแพ้และเป็นความฝัน เธอจึงมุ่งมั่นที่จะกลับมาเปิดร้านอีกครั้ง ด้วยแรงบันดาลใจเหล่านี้

  • มีเป้าหมาย

     “การใช้ชีวิตต้องมีเป้าหมาย การที่ลี่ตั้งเป้าหมายหรือความฝันมันเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนชีวิตของลี่เองในแต่ละวัน ซึ่งกว่าจะไปถึงฝันมันก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะฉะนั้นในทุกๆ วัน ลี่ต้องทำให้เหมือนเป็นวันสุดท้ายเพื่อที่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วจะได้ส่งผลถึงอนาคตทำให้ไปถึงฝันนั้นได้เร็วขึ้น

     “ตอนนี้ความฝันของลี่คือ การกลับมาเปิดร้าน smilibakery อีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ลี่ทำงานหามรุ่งหามค่ำเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งแล้วเอามาเปิดร้าน แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบที่เราคิดเอาไว้เลยต้องปิดร้านไป ด้วยความที่เป็นธุรกิจแรก ลี่คิดแค่ว่ามีความสามารถทำขนมก็เปิดร้านได้แล้ว แต่เราลืมคิดถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่มันจะทำให้ธุรกิจมันเติบโตไปได้ ก็เลยต้องปิดไปก่อน ซึ่งตอนร้านปิดนั้นลี่รู้สึกเสียใจมากไม่สามารถที่จะทำขนมได้พักใหญ่ๆ เลย ตอนนี้ลี่เลยตั้งใจที่จะเปิดร้านให้ได้อีกครั้งก็กลับมาทำงานหาเงินใหม่”

 

 

  • กลัวความลำบาก

     “ลี่ไม่อยากลำบากเพราะฉะนั้นจึงต้องทำงาน แต่เป็นการทำงานที่บาลานซ์กับการดูแลสุขภาพด้วย ลี่เคยมีบทเรียนจากในอดีตคือเมื่อก่อนทำงานหนักแล้วมันส่งผลทำให้สุขภาพเราแย่ ต้องเสียเงินรักษาตัวเอง เพราะฉะนั้นตอนนี้แม้ความลำบากจะเป็นเหมือนแรงบันดาลใจทำให้รีบผลักดันตัวเองว่าต้องขยัน แต่ก็ต้องหันมาดูแลตัวเองด้วยไม่อย่างนั้นเงินที่เราหามาก็จะหมดไปกับการรักษาสุขภาพไม่มีประโยชน์อะไรเลย ลี่คิดว่าในเมื่อเรากลัวความลำบาก ก็ต้องทำชีวิตเราให้ดี เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอมันอีก”

  • ครอบครัว คุณยาย คุณพ่อ-แม่

     “รู้สึกว่าลี่อยู่เพื่อตัวเอง คนที่ลี่รักและคนที่รักลี่ เพราะชีวิตเราไม่ได้มีแค่เราตัวคนเดียว ลี่อยากมีความสุขแต่ก็อยากให้ครอบครัวมีความสุขด้วย เพราะฉะนั้นจะลืมเรื่องพวกนี้ไม่ได้เหมือนกัน คำสอนหนึ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ คุณยาย สอนเสมอก็คือว่าอย่ามั่งคั่งรวดเร็วแต่ทำให้ยั่งยืนดีกว่า แล้วลี่ก็เชื่อเช่นนั้นเพราะว่าถ้าเมื่อไหร่ที่เราอยากจะรวยเร็วๆ มันมีโอกาสพลาดได้ แต่ถ้าเราค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ทำรากฐานให้มันมั่นคง ในอนาคตจะมีความมั่นคงกว่า”

 

 

  • มีครอบครัว

     “การแต่งงาน การมีลูกสร้างครอบครัวของตนเอง เป็นเป้าหมายหนึ่งที่ลี่อยากจะทำให้ได้ ถ้ามีครอบครัวเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวมันมีความหมายในชีวิต แล้วลี่อยากรู้ว่าการเป็นแม่คนเป็นอย่างไร อยากให้ชีวิตที่ดีกับลูกในแบบที่เราได้รับมา อยากเป็นต้นแบบให้ลูก อยากให้สิ่งที่ลี่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดีมาได้ส่งต่อให้ลูกบ้าง แต่กว่าจะถึงวันนั้นด้วยภาวะสังคมภาวะเศรษฐกิจ ถ้าอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีก็คงต้องมีเงินด้วย”

 

 

  •  ทำอาหาร

     “ในทุกๆ วันลี่มีความสุขในการทำอาหารทำขนม เวลาทำขนมจะมีเครียดนะ แต่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งดีที่ได้ทำ ถ้ามีความเครียดจากการที่ลี่ทำสิ่งที่ถนัดแล้วไม่ทำสิ่งนั้น ในชีวิตนี้ก็คงไม่ต้องทำอะไรแล้ว เมื่อก่อนอาจจะคิดว่าความสุขตอนนี้ยังไม่ต้องมีก็ได้เดี๋ยวเราทำงานไป ทำทุกอย่างไปแล้วค่อยไปมีความสุขในอนาคตก็ได้ แต่มาวันนี้รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรแน่นอนเพราะเราโตขึ้นสถานการณ์ชีวิตมันเปลี่ยนไปเรื่อย ฉะนั้นทำไมถึงไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำในตอนนี้ ขอให้เราได้ทำในสิ่งที่เรามีความสุข เราชอบมันก็เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานได้”

 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup